การใช้ App เป๋าตังจ่ายเงิน กระเป๋าชิมช้อปใช้

คงจะเริ่มใช้เงินกันแล้ว แต่ก่อนจะซื้อจะกินอะไร ควรถามร้านค้าว่า มี APP ถุงเงิน ไว้รับเงิน จาก QR CORD
App เป๋าตังหรือไม่ หากร้านค้าไม่มี ไปใช้ร้านอื่นนะ

“หลักการ” การใช้เงิน 2 กระเป๋า

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

กระเป๋าที่ 1 “สิทธิ์ชิมช้อปใช้1,000 บาท
– ใช้ 1 – 1,000 บาท ใช้ได้เฉพาะจังหวัดที่ลงทะเบียน
– ต้องใช้เงินได้ ภายใน 14 วันหลังจากได้รับ SMS
– ภายใน 14 วัน หากได้ใช้เงินในกระเป๋าที่ 1 ไปแล้วไม่ว่ากี่บาท สามารถใช้สิทธิ์ต่อได้จนถึง 30 พฤศจิกายน
2562
– หลังจาก 14 วัน หากไม่ได้ใช้เงินในกระเป๋าที่ 1 เลย เงินจะคืนกับรัฐ กระเป๋าเงินที่ 1 จะเหลือ 0 บาท
– หลังจาก 14 วัน ถ้าไม่ใช่เงินกระเป๋าที่ 1 ยังคงสามารถใช้เงิน ในกระเป๋าที่ 2 ได้ถึง 30 พฤศจิกายน 2562
แต่ต้องใช้เงินในกระเป๋าใบที่ 2 อย่างน้อย 1 ครั้ง ภายใน 14 วัน
กระเป๋าที่ 2 สิทธิ์ G-wallet จะได้รับเงินคืน 15 % ไม่เกิน 4,500 บาท หรือใช้ยอด 30,000 บาท
– กระเป๋าที่ 2 ต้องเติมเงินเราลงไปเอง
– ใช้ได้ทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดตามสำเนาทะเบียนบ้าน
– ภายใน 14 วัน หากไม่ใช้กระเป๋าใบที่ 2 ควบคู่อย่างน้อย 1 ครั้งไปด้วย จะไม่ได้รับเงินคืน 15%
– หากไม่ใช้เงินในกระเป๋าใบที่ 1 สามารถใช้เงินในกระเป๋าใบที่ 2 ได้จนถึง 30 พฤศจิกายน 2562 แต่ต้องใช้
กระเป๋าใบที่ 2 ก่อน 1 ครั้งภายใน 14 วัน
– ทุกยอดที่จากกระเป๋าที่ 2 นอกเหนือจากส่วนของวงเงิน 1,000 บาท จะได้รับเงินคืน 15 สูงสุด 4,500 บาท
(ใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท)

หลักการจ่ายรับเงิน ใช้ App ถุงเงิน รับเงิน และ App เป๋าตังจ่ายเงิน ผ่าน QR CORD ของทั้ง 2 กระเป๋า

1. ลูกค้าซื้อของ หรือ จ่ายค่าบริการ หรืออาหาร ก็ยื่น QR CORD กระเป๋าใดกระเป๋าหนึ่ง ยืนยันตัวตนให้ไป จะ
เลือกแบบ ชิมช้อปใช้ หรือ G-Wallet รับ 15%
2. ร้านค้าก็นำ App ถุงเงินมาเลือกเมนูรับเงิน ผ่านสแกน QR CORD ชิมช้อปใช้ หรือ G-Wallet ของลูกค้า พร้อม ระบุจำนวนเงินที่ต้องจ่าย

** ผู้ซื้อและผู้ขาย เลือกได้ว่า ชำระ-รับชำระ ผ่านกระเป๋า ชิมช้อปใช้ หรือ G-Wallet ซึ่งมี QR CORD ต่างกัน **

1. ร้านค้าต้องมี APP ถุงเงินไว้รับเงิน ผ่าน QR CORD ลูกค้า

2. ลูกค้าต้องมี APP เป๋าตัง ไว้จ่ายเงิน ผ่านการยืน QR CORD ให้ร้าน
สแกนยืนยัน

ยื่น QR CORD ชิมช้อปใช้ ให้ APP ถุงเงินสแกน เพื่อจ่ายเงิน สังเกตจะระบุยอดคงเหลือ

CORD ชิมช้อปใช้

ส่วนหากจ่ายผ่าน G-Wallet ก็ส่ง QR CORE G-Wallet ให้สแกน เพราะใช้กระเป๋าเงิน คนจะส่วนกัน

QR CORE G-Wallet เพื่อรับ 15 % สังเกตจะไม่ระบุยอดคงเหลือ แต่ร้านค้าใช้ App ถุงเงิน รับเงินเหมือนกัน

QR CORD G-Wallet

ขั้นตอนใช้ app เมื่อต้องการจ่ายเงิน

  1. กด APP “เป๋าตัง” เลือก “ใช้สิทธิ์ซื้อสินค้า 1,000 บาท” หรือ G-Wallet
  2. นำ QR CORD ไปให้ร้านค้าสแกน
  3. ระบบจะขึ้นหน้า “ใช้สิทธิ์” พร้อมแสดงผลให้ตรวจสอบยอดเงินที่เราซื้อสินค้ากับร้านที่เข้าร่วมโครงการชิมช้อปใช้ / ร้านค้านี้เข้าร่วมมาตรการรับเงินคืน 15 %
  4. กด “ยืนยันการชำระเงิน”
  5. ระบบจะให้ยืนยันการทำรายการด้วย PIN 6 หลัก ซึ่งเป็นรหัสเดียวกับที่ใช้ลงทะเบียนเพื่อสมัครแอปฯ “เป๋าตัง”
  6. เมื่อเรายืนยันการชำระเงินไปแล้ว ระบบจะแสดงสถานะการชำระเงินว่าสำเร็จหรือไม่ หากสำเร็จเป็นอันจบการชำระเงินอย่างสมบูรณ์

พอจะเข้าใจการใช้จ่ายเงินผ่าน 2 APP นี้พอประมาณนะ ว่า คนซื้อเลือกได้ 2 แบบคือ สิทธิ์ชิมช้อปใช้ และ G-Wallet ซึ่งแต่ละแบบมี QR CORD ต่างกัน ส่วนผู้รับก็รับได้ 2 แบบ คือรับเงินจาก สิทธิ์ชิมช้อปใช้ หรือ G-Wallet

ให้มีความสุขกับจากจ่ายเงินกันนะ แต่พกเงินสดไปบ้างก็ดี เพราะน่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้

แอพพลิเคชั่นเป๋าตัง และแอพพลิเคชั่นถุงเงิน ใช้ได้ปกติ

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่โซเชียลมีเดียมีการแชร์ข้อความว่าไม่สามารถจ่ายเงินผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง ในโครงการชิมช้อปใช้ได้ ว่า จากการตรวจสอบขอยืนยันว่า คนส่วนใหญ่สามารถใช้ แอพพลิเคชั่นเป๋าตัง และแอพพลิเคชั่นถุงเงินได้ปกติ ไม่ได้เกิดระบบขัดข้องอะไร

แต่ขอแนะนำให้ผู้ที่ใช้งานต้องเปิดการระบุสถานที่บนสมาร์ทโฟน (โลเคชั่น เซอร์วิส) กับแอพพลิเคชันไว้ด้วย เพื่อให้สามารถตรวจสอบและรับรู้ถึงพิกัดในจังหวัดที่ไปใช้จ่ายจริง เนื่องจากทั้ง 2 ระบบนี้ จะทำงานร่วมกับโลเคชั่น เซอร์วิสบนโทรศัพท์ เพื่อยืนยันสถานะร้านค้าและผู้จ่ายเงินว่าไปใช้ตามสิทธิในจังหวัดที่ได้ยืนยันไว้ตั้งแต่แรก

“ขอแนะนำให้ผู้ใช้สิทธิ์ทุกคนต้องเปิดโลเคชั่น เซอร์วิสไว้ ในการใช้แอพฯ จ่ายเงินด้วย ถ้าใครปิดโลเคชั่น หรือไม่แจ้งแชร์สถานที่ไว้ก็จะใช้ชำระสินค้าไม่ได้”

ส่วนกรณีที่มีผู้ที่ได้รับสิทธิ์แล้วไม่สามารถยืนยันตัวตน ผ่านการแสดงใบหน้าได้นั้น ขอให้เดินทางไปที่สาขากรุงไทยที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้ เพื่อรับการบริการจากเจ้าหน้าที่ได้ทันที เพราะบางคนอาจมีใบหน้าแตกต่างจากบัตรประชาชน แต่เรื่องนี้ภาครัฐต้องการรอบคอบในการตรวจสอบสิทธิ์ เพื่อไม่ให้มีใครมาสวมสิทธ์การใช้งานนี้ได้

ใช้เงินเสาร์-อาทิตย์ ยอดเงินก็จะเข้าแอพพลิเคชั่น “ร้านถุงเงิน” ในวันจันทร์

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร และ ประธานธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในกรณีที่ร้านค้าที่รับจ่ายเงินในโครงการชิมช้อปใช้ เมื่อตัดเงินออกจากแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง ของลูกค้าแล้ว ปรากฎว่า ไม่มียอดเงินเข้าแอพพลิเคชั่นถุงเงินนั้น ขอให้ร้านค้าไม่ต้องตกใจ ซึ่งเป็นไปตามระบบปกติของธนาคารกรุงไทย

โดยหลักการทำงาน เมื่อมีการใช้เงิน ยอดจะถูกตัดเข้าบัญชีในอีก 1 วันทำการ (ในวันราชการ) ดังนั้น หากมีการใช้จ่ายในช่วงเสาร์-อาทิตย์ ยอดเงินก็จะเข้าแอพพลิเคชั่นในวันจันทร์ ขอให้ประชาชนที่ใช้สิทธิ์ และ ร้านค้า ใช้จ่ายในมาตรการได้ตามปกติ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง