เที่ยวนครศรีธรรมราช เมืองงามถิ่นใต้ ไหว้พระธาตุคู่เมือง (วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร) ตอนที่ 1

เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 15.30 น. ขับรถไปเรื่อย ๆเหนื่อยก็พัก กินไปเรื่อย แต่ต้องทันธุระวันรุ่งขึ้น 10.00 น. วันนั้นเราแวะพักรถทานอาหารเย็นกันข้างเขาวัง เพชรบุรี ซึ่งคิดไว้ว่าจะไปทานข้าวกระเพรากุ้งกะตอย (เรียกถูกมั้ย กุ้งตัวเล็ก ผัดกระเพรา) แต่เนื่องจากเดินทางถึงเย็นไปหน่อยร้านปิด สุดท้ายทาน ยำมะม่วงใส่หอยแครง ข้าวผัดปู และผัดขี้เมา เพชรบุรี รสชาติดีมาก ราคาถูก ตรงนี้ละที่ชอบ

จากนั้นวิ่งๆ ๆ ๆ ผ่านหัวหิน ปราณบุรี ประจวบ ชุมพร สุราษฎร์ ซึ่งถนนเอเซียสร้างใหม่เสร็จแล้วประมาณ 95 % ซึ่งวิ่งทำความเร็วได้สบาย แต่โดนตร.ทางหลวงแอบส่องกล้องจับความเร็วไป 2 ครั้ง กดทันหรือเปล่าเท่านั้นนะ คงไม่มีซองใบสั่งมาเก็บเงินที่บ้านนะ

ขับมาเรื่อย ๆ จะมารู้สึกง่วงแถวทับสะแก แวะปั๊มกินบะหมี่เกี้ยวร้อนๆ ซัดกาแฟไป 1 แก้วขับต่อจนมาถึงโรงแรมที่มีรูปเรือแถวสุราษฎร์ ตี 3 จึงแวะพักค้างดีกว่า ไม่อยากลงไปนอนข้างทางคะ โรงแรมชื่อ โรงแรม ดิโอวาเลย์

แต่เนื่องจากเราต้องออกเช้า เลยนอนแบบประหยัดคือไม่รวมอาหารเช้า 700 ประมาณนั้น และเป็นสาวๆจะแวะไปนอนโรงแรมแบบไม่มีชื่อก็ใช่ที่ หลับสบายมี wifi เล่นก็โอเคคะ
เช้ารุ่งขึ้นรีบขับรถผ่านทุ่งสงไปให้ทันธุระ แต่ตอนเช้าแวะทานอาหารปักษ์ใต้ร้านข้าวแก้ว แยกสวนผักนครศรี มันอร่อยมาก แกงส้มกบ แกงจืด และปลาทอด ผักสด ๆ ราคาชาวบ้านคะ รูปหายไปไหน เดี๋ยวเจอรูปจะนำมาลงให้ดูแกงส้มกบนะค่ะ
เสร็จธุระบ่ายแวะทำบุญกราบพระอาจารย์ที่เคารพ สังเกตว่า ไม่เคยมาเมืองนครนานมาก ถนนหนทางเจริญกว่าเดิมมาก เซ็นทรัล โรบินสัน ร้านค้าใหญ่โต ผู้คนน่ารัก / ถึงตัวเมืองนครนอนไหนดี ไม่ได้ plan คะ agoda ล้วน ๆเน้นทำเล ไหว้พระ กินอาหารอะไรอร่อย สุดท้ายจบที่ Avenue Residenc อันนี้ก็ไม่แพง เน้น 7-11 หน้าโรงแรมละนะ

บรรยากาศภายในและรอบๆๆโรงแรม ^_^

ได้ที่พักละ อาบน้ำเร็ว ได้เวลาแห่งการหาอะไรกิน ที่อยากกินมากคือ ขนมจีนปักษ์ใต้ แต่เริ่มที่ลูกชิ้นปลาชุบแป้งทอดก่อน มาจบที่ร้านขนมจีนหวันเย็น (ร้านขนมจีนเปิดขายตอนเย็น) ทานอะไรกันเล็ก ๆ เรามาแบบประหยัด ขนมจีนกระทิ 1 จาน , น้ำพริก 1 จาน ,อีกจานจำไม่ได้, ไก่ทอดร้อนๆ + ข้าวเหนียว + บัวลอย ตามด้วยเป๊ปซี่ จบ ราคาหลักร้อยนิดๆ
เมืองนคร มีขนมจีนขายตั้งแต่เช้าจนค่ำ เดินตลาดร้านเล็กๆ ชาวบ้านขาย น่ากินมาก มีขนมพื้นบ้านเยอะมาก พูดแล้วหิว

จากนั้นกลับโรงแรมพักผ่อนหลับสบายฝันดี
ตื่นเช้าก็ไปหาร้านอร่อยทานมื้อเช้ากันที่ร้านตังเกี๋ย แต้เตี้ยม สั่งอาหารพอประมาณ บั๊กกุดเต้ และติ่มซำ

หล้งทานอาหารเสร็จ คิดขึ้นได้ว่าต้องหาของฝาก ซึ่งเมืองนครของฝากตัวเองที่ดีที่สุด คือ เครื่องเงินเมืองนคร และร้านที่ขายเครื่องเงินเมืองนครที่ดีที่สุด อยู่หลังสนามหน้าเมือง หรือ หลังศาลากลาง จะมีร้านขายแหวน สร้อย กำไลข้อมือหลายร้าน ราคาไม่แพงและที่สำคัญเงินแท้
เสร็จจากได้ของฝากตัวเอง แหวนหัวนโม และ สร้อยคอ ก็เดินทางต่อไปวัดพระธาตุ เพื่อกราบสักการะพระบรมธาตุในเจดีย์วัดพระธาตุเมืองนคร ซึ่งท่านใดมาเยือนเมืองนครและไม่ได้มากราบสักการะก็ถือว่ามาไม่ถึงเมืองนครนะคะ
เริ่มจากนมัสการองค์เจดีย์และเข้าไปในวิหารพระทรงม้า ทำบุญถวายปัจจัยแก่พระสงฆ์ และ ทอดผ้าถวายพระบรมธาตุ เพราะไม่มีโอกาสได้แห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุ และ ช่วงนี้กรมศิลป์กำลังบูรณะเจดีย์
อนุโมทนาบุญและเอาบุญมาฝากนะคะ

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่ชาวนครศรีธรรมราชเรียกว่า “วัดพระธาตุ” เป็นโบราณสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย สัญลักษณ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย คือ พระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งนิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า “พระธาตุนคร” หรือ “พระบรมธาตุเมืองนคร” ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จากตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาตั้งแต่อดีต หลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน เมืองต่างๆ ในแคว้นชมพูทวีปได้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุไปเก็บรักษาเพื่อเคารพบูชา โดยมีเมืองหนึ่งชื่อเมืองทนธบุรี ได้พระทันตธาตุมาเก็บรักษาไว้ ต่อมามีกษัตริย์จากเมืองอื่นยกทัพมาเพื่อขอแบ่งพระทันตธาตุ กษัตริย์สิงหราชเจ้าเมืองทนธบุรีเห็นว่าจะรักษาเมืองไว้มิได้ จึงให้พระนางเหมชาลา พระธิดาและพระโอรสอัญเชิญพระทันตธาตุ ลงเรือหนีไปยังลังกา ระหว่างเกิดพายุทำให้เรือกำปั่นแตก ทั้งสองพระองค์ได้มาขึ้นฝั่ง ณ หาดทรายแก้ว ได้ฝังพระทันตธาตุไว้ ทั้งสองพระองค์ได้กลับไปยังลังกา โดยมีพระทันตธาตุสวนหนึ่งยังฝังอยู่ที่หาดทรายแก้ว ต่อมาพระเจ้าศรีธรรมโศกราชเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ได้มาพบพระทันตธาตุ และโปรดให้ สร้างพระบรมธาตุเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและสร้างเมือง ณ หาดทรายแก้ว จนสำเร็จเมืองดังกล่าว คือ เมืองนครศรีธรรมราช ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ทรงเสด็จประพาสเมืองนคร ได้โปรดพระราชทานนามวัดว่า “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร”

ประเพณีที่สำคัญ

ประเพณี “แห่ผ้าขึ้นธาตุ” เป็นประเพณีไทยที่เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองนครศรีธรรมราช แต่เดิมจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง คือ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 หรือวัน “มาฆบูชา” และในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 หรือวัน “วิสาขบูชา” แต่ในระยะหลังๆ ชาวพุทธจะนิยมมาร่วมแห่ผ้าขึ้นธาตุในวันมาฆบูชามากกว่าในวันวิสาขบูชา ทางจังหวัดจึงหันมาเน้นการจัดงานประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุในวันมาฆบูชาเป็นหลัก เรียกว่า “ประเพณี มาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ” มาจนถึงปัจจุบัน

สิ่งที่น่าสนใจในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

นอกจากพระบรมธาตุเจดีย์ที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ก็ยังมีสถาปัตยกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจดังนี้ วิหารพระทรงม้า วิหารเขียน วิหารโพธิ์ลังกา วิหารสามจอม วิหารพระแอด วิหารทับเกษตร วิหารคด วิหารธรรมศาลา วิหารหลวง วิหารโพธิ์พระเดิม พระอุโบสถ เจดีย์รายรอบพระบรมธาตุเจดีย์ และโบราณวัตถุภายในวัด

การเดินทางโดยรถยนต์
จากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ผ่านสนามหน้าเมือง ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช โรงพยาบาลเทศบาลนครนครศรีธรรมราช สังเกตเห็นวัดพระมหาธาตุวรวิหารเด่นชัดทางด้านขวามือ สามารถเข้าไปจอดรถภายในวัดได้โดยเข้าที่ประตูแรก (ประตูศาลา 100 ปี)

โดยรถประจำทาง
รถสองแถวสายหัวถนน-สนามกีฬา วิ่งผ่านตามถนนราชดำเนิน สามารถขึ้นรถสองแถวแล้วลงด้านหน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารได้ ค่าบริการท่านละ 10 บาท

ดังที่กล่าวมาข้างต้น วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ของชาวเมืองนครศรีธรรมราช ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาจากชาวพุทธ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองนครศรีธรรมราช นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกที่หนึ่งในประเทศไทย เมืองนครศรีธรรมราชยังเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ศาสนา และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ถ้าคุณไปเมืองนครศรีธรรมราชแล้ว ไปไม่ถึงวัดพระมหาธาตุวรหมาวิหาร ถือว่า “คุณไม่ได้มาเมืองคอน”