วันที่ 2 ของกระบี่ วันนี้รถพร้อม เช่ารถมาป้ายแดงอีกแล้ว ราคาวันละ 900 บาท ได้วีออสเหมือนเดิม ขับง่าย ขับสนุก แต่หากเป็นรถป้ายขาวจะสนุกกว่า ไม่ต้องขับแบบเกร็งๆ แต่ก่อนไปกินข้าวเช้ากันก่อน จะได้ไม่ต้องหาหาอะไรกิน เพราะอ่าวนางช่วงเช้าจะหาอะไรกินยากมาก ส่วนใหญ่ร้านค้าจะเปิดขายกันในช่วงเย็น
ก่อนไปสระมรกตแวะไปถ่ายรูปที่อ่าวนางกันก่อน ซึ่งเป็นจุด Check in ของนักท่องเที่ยว
อ่าวนาง เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทะเลกระบี่ เป็นที่ตั้งของ รีสอร์ท ร้านอาหาร บริษัททัวร์ให้บริการนำเที่ยวเกาะที่มีชื่อต่างๆของกระบี่ เช่น ทะเลแหวก เกาะปอดะ เกาะพี พี หมู่เกาะห้อง เป็นจุดเช่าเรือไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ พื้นที่ของ อ่าวนาง จะ ตั้งอยู่ตามถนนเลียบชายทะเลเป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร เป็นหาดทรายทอดยาว มีถนนเลียบชายหาด มีภูเขาคั่นระหว่างชายหาด ทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตา อ่าวนางถือเป็น จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง
วันนี้ไปเที่ยวสระมรกต อ.คลองท่อม กัน ออกจากโรงแรมอ่าวนาง วิ่งเข้าเมือง และขับรถออกไปทางวัดถ้ำเสือ ผ่านทางเข้าวัดถ้ำเสือ และสนามบิน จนถึงอำเภอคลองท่อม จากนั้นแวะ 7-11 หาขนมน้ำกักตุ่นไว้กินระหว่างทาง ซึ่งระยะทางจากทางเข้าวิ่งเข้าไปหลายกิโล ตามแผนที Google และป้ายบอกทาง มีเลี้ยวผิดบ้าง แต่สุดท้ายก็ถึงลานจอดรถสระมรกต เสียค่าที่จอด 20 บาท
จากนั้นก็ไปจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าสระมรกตคนละเท่าไหร่นะ จำไม่ได้ หาตั๋วก่อนนะ จะมาลงให้ชม ออ จนท.ไม่อนุญาติให้น้ำอาหารเข้าไปในสระมรกต แต่ที่สระมีร้านขายอาหารภายใน คือ หากอนุญาติขยะ เศษแก้วคงเต็มสระ จึงห้ามนำเข้าไป ไม่ทำลายระบบนิเวศน์ของป่า
สระมรกต อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ เป็นน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิประมาณ30-50 องศาเซลเซียส เป็นสระน้ำสวยใสกลางใจป่า ที่มีน้ำใสเป็นสีเขียวอมฟ้า เปลี่ยนสีไปได้ตามวันเวลาและสภาพแสง ซึ่งหากใส่แว่นดำน้ำดูใต้น้ำ ก้นสระจะเป็นทรายและมีเศษใบไม้เล็กอยู่ก้นสระ หากไม่มีนักท่องเที่ยวลงเล่นมา น้ำก็จะใสกระทบแสงเป็นสีมรกต ริมสระน้ำจะมีธารน้ำใสเย็นสบายให้ลงแช่เล่น
บริเวณ สระมรกต เป็นน้ำพุร้อนลักษณะเป็นสระน้ำร้อน 3 สระ ได้แก่ สระแก้ว สระมรกต และ สระน้ำผุด น้ำใสเป็นสีเขียวมรกต มีอุณหภูมิประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส รอบๆ บริเวณเป็นป่าร่มรื่นเขียวครึ้มมีพรรณไม้ที่น่าสนใจ จากที่จอดรถเดินทางเท้าเข้ามาประมาณ 800 เมตร จะถึงตัวสระมรกต
หรือจะไปอีกทางที่เป็นเส้นทางศึกษา ธรรมชาติที่มีระยะทางประมาณ 2.7 กิโลเมตร แต่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะมาบรรจบกันที่สระมรกตที่เดียวกัน แต่แนะนำว่าตอนเดินเข้าไปที่สระให้เดินในเส้นทางปกติ
ส่วนขากลับนั้นก็กลับมาเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เดินใน ลักษณะเป็นวงรอบ เส้นทางศึกษาธรรมชาติเป็นป่าเขียวครึ้ม ร่มรื่นด้วยพรรณไม้ที่น่าสนใจเป็นแหล่งชมนกหายาก เช่น นกแต้วแร้วท้องดำ นกกระเต็นสร้อยคำสีน้ำตาล นกเงือกดำ ฯลฯระหว่างเดินก็จะพบสายน้ำไหล และสระใหญ่ สระเล็กไปตลอดทาง สวยงามมาก
บริเวณหน้าที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม จะมีป้ายให้และรูปปั้นเจ้านกแต้วแร้วท้องดำตัวผู้-ตัวเมีย ที่ตั้งเด่นหรา อยู่ใกล้ๆ กับรูปปั้นช้างที่หน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อนถึงตัวสระมรกต ให้ได้ถ่ายรูปไว้เช็คอิน Facebook กันว่าถึงแล้วนะ สระมรกต จังหวัดกระบี่
การลงเล่นน้ำในสระมรกต ให้ระวังลื่น เพราะรอบๆ สระจะเป็นตะไคร้น้ำสีเขียว เหมือนน้ำตกทั่วๆไป ซึ่งจะลื่น ขอบสระบ้างช่วงจะมีเชือกให้ดึงตัวขึ้น หรือ อยากขึ้นลงแบบสระ ก็ให้ไปบริเวณใต้ลงไม้ขวามือจะมีทางลงได้ง่าย แต่ก็ระวังหินปูที่ค่อนข้างขรุขระ แต่เมื่อลงไปในสระได้ จะว่ายน้ำดำน้ำก็ง่าย ไม่มีหินภายใน และน้ำลึกเท่าๆกับประมาณหน้าอก หรือคกหากตัวเล็กๆ (สูง 160) แต่หากเป็นเด็กก็ควรดูแลอย่างใกล้ชิด น้ำในสระจะนิ่งเย็นสระสบาย คงเพราะมีน้ำร้อนผสมลงมาด้วย
แนะนำหากจะไปเล่นน้ำให้เตรียมใส่ชุดไปได้เลย ถึงสระก็ถอดชุดนอกออก โดดเล่น และเตรียมผ้าขนหนู ไปเปลี่ยนชุดเดินกลับ หากหิวก่อนถึงลานจอดจะมีไก่ทอด ลูกชิ้น น้ำให้เลือกตามใจชอบ หรือจะอุดหนุนผ้าปาติก หมวก ก็ไม่แพง ส่งเสริมอาชีพชาวชุมชุน
ภาพบรรยากาศสระมรกต
เล่นน้ำประมาณ 2 ชม. ได้เวลากลับ เพราะฝนก็ตกมาเรื่อย ๆแต่ไม่หนัก ตกแบบเบา ๆ ดีไม่ร้อน ซึ่งขากลับใช้เส้นทางเดิมคือเดินตรงออกมาเส้นทางเดิม ไม่ได้ใช้เส้นทางสะพานชมธรรมชาติ
และเนื่องจากวันนี้เป็นวันศุกร์บริเวณข้างอำเภอคลองท่อมมีตลาดนัดเล็ก ซึ่งขายเฉพาะอาหาร จึงแวะซื้อหมูทอด , ข้าวเกรียบปากหม้อ ฯลฯ คือมีแต่ของอร่อยทั้งนั้น
และมาถึงอำเภอคลองท่อมก็แวะกราบสักการะหลักเมืองคลองท่อม หน้าเทศบาลหรือที่ว่าการอำเภอนี้ละ
ได้เวลาขับรถกลับที่พักอ่าวนาง จบทริปสระมรกต ซึ่งคราวหน้าหากเดินทางมาเที่ยวกระบี่คงมาเล่นน้ำที่นี้อีก
