เที่ยวกระบี่ ดำน้ำดูปลาการ์ตูน เดินเล่นทะเลแหวก หาดไร่เลย์ที่โด่งดัง และสัมผัสความเป็นธรรมชาติที่คลองสองน้ำท่าปอม
ทริปเที่ยวกระบี่รอบนี้ ตั้งใจมาดำน้ำดูปลาการ์ตูน และปะการัง พร้อมชมความมหัศจรรย์ของทะเลแหวก รอบนี้พักที่อ่าวนาง 2 คืน เช้าหาข้าวต้มกินเรียบร้อย อาบน้ำพักผ่อนเสร็จ ขับรถเข้าเมืองกระบี่ตั้งแต่เช้า ไปท่าเรือเจ้าฟ้าเพื่อขึ้นเรือไปเที่ยว 4 เกาะ
ทะเลแหวก ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับเกาะปอดะ ประกอบด้วยเกาะทัพ เกาะหม้อ และเกาะไก่ จะเกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำลดลงต่ำสุดในแต่ละวัน เสมือนทะเลแหวกออกจนกลายเป็นหาดทรายสีขาวสะอาด เชื่อมเกาะทั้งสามเกาะอย่างน่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะในช่วง 5 วัน ของก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำฤดูกาลท่องเที่ยวคือเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี สามารถเช่าเรือได้จากบริเวณอ่าวนาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที
หมู่เกาะปอดะ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอ่าวนาง ห่างจากฝั่งประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาว น้ำทะเลใส บริเวณชายฝั่งของเกาะจะมองเห็นแนวปะการังหลากชนิดที่ยังสมบูรณ์ จึงเป็นแหล่งดึงดูดของนักท่องเที่ยวให้เที่ยวชมได้เกือบตลอดปี และเป็นจุดที่ตกปลาได้ดีเพราะไม่ได้รับผลกระทบจากลมมรสุมมากนัก สามารถเช่าเรือได้จากบริเวณอ่าวนาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที
หาดไร่เลย์ Railay เป็นหาดที่โดดเด่นด้วยลักษณะภูมิประเทศที่สวยงามด้วยหน้าผาทิวเขาหินปูนตระหง่าน มีแอ่งน้ำอยู่ระหว่างหุบเขาและจุดชมวิวที่สวยงาม ชายหาดของไร่เลย์มี 2 ฝั่ง คือหาดไร่เลย์ตะวันตก และหาดไร่เลย์ตะวันออก กิจกรรมที่มีชื่อเสียงคือการปีนผา แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนิยมมาปีนผาที่นี่ บริเวณหาดทั้งสองฝั่งมีที่พักและบริษัทที่ให้บริการปีนผาตั้งอยู่ การชมทัศนียภาพของพระอาทิตย์ตกที่หาดไร่ย์เป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
หาดถ้ำพระนาง ตั้งอยู่ติดกับหาดไร่เลย์ เป็นหาดซึ่งมีถ้ำหินงอกหินย้อยที่สวยงามแปลกตา และมีกิจกรรมปีนหน้าผาที่น่าตื่นเต้น
ไร่เลย์ สำหรับคนไทยไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรู้จักไร่เลย์ดี เดิมที่ไร่เลย์เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ บนแผ่นดินใหญ่, แต่เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นหน้าผาหินปูนเป็นกำแพงธรรมชาติ ไม่มีถนนตัดผ่าน ไร่เลย์เป็นบริเวณที่เงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อน
การเดินทางมายังไร่เลย์
• ถ้ามาจากตัวเมืองกระบี่ สามารถนั่งรถสองแถวต่อมายังอ่าวนาง หรือไปที่ท่าเรือเจ้าฟ้าเพื่อขึ้นเรือหางยาวมาไร่เลย็ได้
• จากอ่าวนาง ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 15 นาที คนละ 80 บาท ติดต่อได้ที่ซุ้มริมหาดอ่าวนาง(เป็นของสหกรณ์เรือหางยาว-อ่าวนาง)
นักอนุรักษ์นิยมนักท่องเที่ยวต้องการรักษาสถานที่นี้ให้ยังคงเดิมตามธรรมชาติ ไร่เลย์จึงเป็นสถานที่ไม่มีถนนเข้าถึง เดินทางโดยเรือด้วยวิธีเดียวเท่านั้น
ที่พักไร่เลย์ แบ่งเป็น 3 โซน
1) ไร่เลย์ตะวันตก (ได้รับความนิยมมากสุด) เพราะว่า หาดสวยกว่า น้ำทะเลใสกว่า หน้าหาดกว้างกว่า ฝรั่งชอบชมพระอาทิตย์ตกมากกว่า พระอาทิตย์ขึ้น
– Railay Village Resort
– Railay Bay Resort
– Sand Sea Resort
2) ไร่เลย์ตะวันออก ชายหาดแคบ น้ำปนเลน มีรีสอร์ทราคาประหยัดกว่าอยุ่หลายแห่ง เดินไป-มา ไร่เลย์ตะวันตก-ตะวันออก เพียง 3-5 นาที คือ ไม่ไกลกัน
– Sunrise Tropical Resort
– Anyavee Railay
– Bhunga Thani
– Diamond Cave Resort
– Railay View Point Resort
3) โซนไม่ติดหาด อยู่ระหว่าง ตะวันตก-ตะวันออก หรือฉีกออกไปทางปลายหาดเลย
– Railay Princess Resort
– Railay Phutawan
– Railay Great View Resort
– Tonsai Bay Resort (Ao Tonsai)
กลับจากทัวร์ 4 เกาะ หาดไร่เลย์ กลับมาพักผ่อน เช้าวันใหม่เที่ยวกันต่อ เริ่มจากหาดนพรัตน์ธารา หาดอ่าวนาง ท่าปอมคลองสองน้ำ
หาดนพรัตน์ธารา อยู่ห่างจากตัวเมือง 17 กิโลเมตร สุดเส้นทางจะเจอชายหาดมีความยาวเกือบ 3 กิโลเมตร เดิมชาวบ้านเรียกว่า “หาดคลองแห้ง” ทั้งนี้เพราะเมื่อน้ำลง น้ำคลองที่ไหลมาจากภูเขาทางด้านเหนือจะแห้งขอดกลายเป็นหาดทรายยาวเหยียดทอดลงไปในทะเล บรรจบกับเกาะเขาปากคลอง บริเวณหาดเป็นทรายละเอียดปะปนด้วยเปลือกหอยเล็ก ๆ ประดับด้วยทิวสนเรียงรายตามชายทะเลยาวเหยียด เมื่อน้ำลงจนแห้งสามารถเดินไปยังเกาะเล็ก ๆ บริเวณหน้าชายหาดได้ บริเวณชายหาดมีที่ทำการอุทยานตั้งอยู่ จากที่ทำการอุทยานฯ เดินเท้าไปตามชายหาดด้านทิศตะวันตก มีบังกะโลหลายแห่งให้บริการนักท่องเที่ยว ชายหาดบริเวณนี้ค่อนข้างเงียบสงบ เป็นสถานที่ที่ชาวกระบี่นิยมไปเที่ยวพักผ่อนในวันสุดสัปดาห์
อ่าวนาง อยู่ห่างจากหาดนพรัตน์ธารา ตามถนนเลียบชายทะเลระยะทาง 6 กิโลเมตร เป็นชายหาดยาว มีที่พัก ร้านค้า และบริษัทนำเที่ยวให้บริการหลายแห่ง ทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตาด้วยภูเขาหินปูนตั้งตระหง่าน ท้องทะเลในบริเวณอ่าวนางมีเกาะน้อยใหญ่กว่า 83 เกาะ บางเกาะมีรูปร่างประหลาดคล้ายรองเท้าบู๊ท เรือสำเภา และหัวนก เกาะที่มีหาดทรายสวยงามและคนนิยมไปเที่ยวเล่นน้ำชมปะการังน้ำตื้นได้แก่ เกาะปอดะ เกาะหม้อ และเกาะทัพ จากอ่าวนางสามารถเช่าเรือไปเที่ยวยังเกาะบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งชายหาดด้านทิศตะวันออกได้ด้วย ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
ท่าปอมคลองสองน้ำ ตั้งอยุ่ที่ ต.เขาคราม อ. เมือง ซึ่งอยู่ในความดูแลของ อบต.เขาคราม และถือว่าที่แห่งนี้เป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติเชิงนิเวศวิทยา เพื่อเรียนรู้ ความสมบูรณ์ของธรรมชาติในผืนป่า ทั้งในแง่ของเส้นทางน้ำใต้ดิน และพืชพรรณที่สามารถเติบโตได้ทั้งในน้ำและบนดิน โดยสายน้ำเค็มและน้ำจืดจะมาบรรจบกัน คลองสองสายน้ำนี้
โดยที่น้ำทะเลจะหนุนขึ้นสูงสุดขึ้นลึกเข้ามาในคลองท่าปอมแห่งนี้ถึงศาลาเล่นน้ำ ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เรียกกันว่า “น้ำใหญ่” และเมื่อน้ำทะเลถูกผสมกับน้ำจืดที่ไหลจากผืนป่า ก็กลายเป็นคลองน้ำกร่อยที่มีสีฟ้าขุ่น และในเวลาไม่นานนักเมื่อน้ำทะเลลดลง น้ำจืดก็จะกลายเป็นผืนน้ำใสเป็นสีเขียวใสมรกต
ความเขียวใสนี้ เกิดจากเขาหินปูน ที่มีสารแคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งมีคุณสมบัติในการจับตะกอนและสารแขวนลอยให้จมตัว เมื่อสายน้ำไหลผ่านหินปูน สารตัวนี้ก็จะละลายปนมาพร้อมกับจับสารแขวนลอย ไหลไปจมตัวในลำคลองท่าปอม น้ำจึงใสเหมือนกระจก จนสามารถมองเห็นสัตว์น้ำน้อยใหญ่ในลำคลองได้อย่างชัดเจน
อบต. เขาครามโดยการสนับสนุนงบประมาณจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเป็นสะพานไม้ยกระดับ 2 เมตรจากพื้นดิน ทำเป็นวงรอบพื้นที่ป่าระยะทาง 700 เมตร และจัดเจ้าหน้าที่ดูแล หากนักท่องเที่ยวที่เดินทวนกระแสน้ำท่าปอมขึ้นไปจนถึงเขตหวงห้าม จะพบสระน้ำสีไพลินกลางป่าเขียว เรียกว่า “แอ่งท่าปอม” หากเดินต่อไปอีก 500 เมตร จะพบแอ่งน้ำลักษณะเดียวกันเรียกว่า “สระน้ำช่องพระแก้ว” สามารถเที่ยวชมคลองสองน้ำได้ตลอดทั้งปี ควรเที่ยวชมในเวลาที่น้ำลงน้ำจะสวยใสมาก
- อัตราค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท
- ค่าเช่าเรือแคนู ชั่วโมงละ 100 บาท วันละ 700 บาท
การเดินทางไปท่าปอม คลองสองน้ำ
จากตัวเมืองกระบี่ไปตามทางหลวงหมายเลข 4 ทางไป อ.อ่าวลึก ประมาณ 22 กม. เมื่อถึงบ้านทุ่ง ซ้ายมือจะมีป้าย บอกทางไปป่าท่าปอมคลองสองน้ำให้เลี้ยวซ้ายไปประมาณ 5 กม. ก็จะถึงลานจอดรถ ที่มีสวนปาล์มอยู่ขวามือ
หลังจากเดินชมน้ำใสเหมือนกระจกของท่าปอมคลองสองน้ำ ก็ขับรถมุ่งหน้ากลับกรุงเทพ เพื่อไม่ให้ถึงกรุงเทพดึกมากมาย เพราะจะง่วงจนขับไม่ไหว
จบทริปเที่ยวชมพระอาทิตย์ตก อ่าวพังงา กระบี่ ดำน้ำ 4 เกาะ และคลองสองน้ำท่าปอมด้วยความประทับใจ]]>
