กราบหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี

กราบหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี

หลังจากแวะพักรถทานอาหารที่ หาดสะกอม ขับรถไปผ่านเทพา จะเข้าเขตอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี จะถึง 4 แยก เลี้ยวซ้ายเข้าปัตตานี ตรงไปเข้ายะลาเป็นถนนสายตัดใหม่ 4 เลน ส่วนเลี้ยวขวาเข้าโคกโพธิ์ นาประดู เข้ายะลา เป็นถนนสายเก่า 2 เลน

รถไฟวิ่งผ่านวัดช้างไห้จอดสถานีนาประดู่ ส่วนรถธรรมดาจะจอดรับส่งที่วัดช้างให้

เราเลี้ยวขว ผ่านอำเภอโคกโพธิ์ – นาประดู่ ทางเข้าน้ำตกทรายขาว ก็จะถึงทางเข้าวัดช้างให้ ซึ่งอยู่ซ้ายมือ ทางเข้าเป็นซุ้มแบบวัดทั่วไป มีช้างสีขาวเฝ้าประตูอยู่ 2 เชือก

วัดราษฎร์บูรณะ หรือ วัดช้างให้ ตั้งอยู่ที่ตำบลควนโนรี อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ห่างจากตัวจังหวัดปัตตานีประมาณ 30 กิโลเมตร 

วัดช้างให้ เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแล้วกว่า 300 ปี ตามตำนานกล่าวว่า พระยาแก้มดำเจ้าเมืองไทรบุรี ต้องการหาชัยภูมิสำหรับสร้างเมืองใหม่ให้กับน้องสาว จึงได้เสี่ยงอธิฐาน ปล่อยช้างให้ออกเดินทางไปในป่า โดยมีเจ้าเมืองและไพร่พลเดินติดตามไป จนมาถึงวันหนึ่ง ช้างได้หยุดอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง แล้วร้องขึ้นสามครั้ง พระยาแก้มดำจึงได้ถือเป็นนิมิตที่ดี จะใช้บริเวณนั้นสร้างเมือง แต่น้องสาวไม่ชอบ พระยาแก้มคำจึงให้สร้างวัด ณ บริเวณดังกล่าวแทน แล้วให้ชื่อว่า วัดช้างไห้
แล้วนิมนต์พระภิกษุรูปหนึ่ง ที่ชาวบ้านเรียกว่า ท่านลังกา หรือ สมเด็จพะโคะ หรือ หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด คำปรารภของ พระครูวิสัยโสภณ (พระอาจารย์ทิม ธมฺมธโร)

อ้างอิง : http://watchanghai.weebly.com/36113619363236233633360536363623363336043594365736343591365136273657.html

ซุ้มทางเข้าวัด

วัดราษฎร์บูรณะ เดิมชื่อ วัดช้างให้ ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลควนโนรี อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย

ต่อมาใน พ.ศ. 1300 กษัตริย์ครองกรุงศรีวิชัยแห่งปาเล็มบังมีอานุภาพแผ่อาณาเขตเข้ามาถึงแหลมมลายูและได้ก่อสรางปูชนีย์ทางพระพุทธศาสนาไว้หลายแห่ง ศิลาจารึกแผ่นหนึ่งที่นครศรีธรรมราชจารึกว่า “พ.ศ. 1318 เจ้าเมืองศรีวิชัยได้มาก่อพระเจดีย์องค์หนึ่งที่นครศรีธรรมราชและพระพุทธไสยาสน์ในถ้ำแห่งภูเขาวัดหน้าถ้ำ (ปัจจุบันชื่อ วัดคูหาภิมุข) ตั้งอยู่ ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ได้สร้างในสมัยศรีวิชัย ระหว่าง พ.ศ. 1318 – พ.ศ. 1400”

ต่อมาได้ปฏิสังขรณ์เพิ่มเติม ซึ่งคงปรากฏอยู่กระทั่งบัดนี้ องค์พระยาวถึง 81 ฟุต 1 นิ้ว ขนาดใหญ่วัดโดยรอบองค์พระ 35 ฟุต

พ.ศ. 1300 กษัตริย์ครองกรุงศรีวิชัยแห่งปาเล็มบัง สร้างเมือง ณ วัดราษฎร์บูรณะ แต่ต่อมาวัดราษฎร์บูรณะได้กลายเป็นวัดร้าง

พ.ศ. 2478 ขุนธำรงพันธุ์ภักดี ขุนพิทักษ์รายา ขายช้างเชื่อกหนึ่ง นำเงินไปบูรณะวัดช้างให้ วัดราษฎร์บูรณะได้เป็นวัดร้าง

พ.ศ. 2480 สถานที่แห่งนี้เป็นเพียงป่ารก มีต้นไม้ใหญ่ พระครูมนูญสมณการ วัดพลานุภาพ ได้ชักชวนชาวบ้านช้างให้และใกล้เคียงไปทำการแผ้วถางวัดร้างแห่งนี้ โดยจัดบูรณะให้เป็นวัดมีพระสงฆ์เข้าอยู่จำพรรษา

พ.ศ. 2484 เจ้าอาวาสได้ลาสิกขา วัดราษฎร์บูรณะจึงไม่มีเจ้าอาวาส วัดราษฎร์บูรณะจึงได้กลายเป็นวัดร้างอีกครั้ง

พ.ศ. 2488 เกิดสงครามทหารญี่ปุ่นยกพลขึ้นเมืองไทยผ่านไปประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ รถไฟสายใต้วิ่งจากหาดใหญ่ไปสถานีสุไหงโก-ลก ชายแดน ขนทหารและสัมภาระผ่านหน้าวัดช้างให้ วัดช้างให้ก็อยู่ในสภาพเดิมยังมิได้บูรณะ วัดช้างให้ซึ่งตั้งติดอยู่กับทางรถไฟเป็นทางผ่านไปยังจังหวัดยะลา นราธิวาส และชายแดนมาเลเซีย เจ้าอาวาสวัดช้างให้ต้องรับภาระหนักต้องจัดหาที่พักหาอาหารมาเลี้ยงดูผู้คนที่มาขอพักอาศัยพักแรมในระหว่างเดินทาง วัดได้มีถาวรวัตถุ ดังนี้ ศาลาการเปรียญ อุโบสถ หอฉัน หอระฆัง กุฏิ สถูปบรรจุอัฐิหลวงพ่อทวด กำแพงวัด อาคารเรียน โรงเรียนสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

พ.ศ. 2497 สร้างกำแพงอุโบสถ แทนอุโบสถหลังเดิมที่ปรักหักพังจนเหลือแต่ฐานราก และได้ทำพิธีปลุกเสกพระเครื่องหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ ณ เนินดินบริเวณอุโบสถเก่า ได้ปัจจัยสมทบสร้างอุโบสถ
พ.ศ. 2499 พิธียกช่อฟ้าอุโบสถ
พ.ศ. 2500 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา
พ.ศ. 2501 ทำพิธีผูกพัทธสีมา

ลักษณะเ่ด่นของวัดช้างให้ (Wat Chang Hai) คือ มีทางรถไฟสายใต้เส้นทางกรุงเทพ – ยะลา – สุไหงโกลก นราธิวาส ตัดผ่านหน้าวัด และมีสถานีรถไฟวัดช้างให้ ใช้สำหรับให้ขบวนรถโดยสารธรรมดา ที่ขึ้น – ล่อง ได้หยุดรถให้ประชาชนที่มากราบไหว้หลวงพ่อทวดได้เดินทางเข้าวัดได้อย่างสะดวก ไม่ต้องไปลงรถที่สถานีนาประดู่ที่ห่างออกไปประมาณกี่โลกว่า ๆ

มตำนานกล่าวว่า วัดช้างให้เป็นวัดที่สมเด็จพะโคะ หรือหลวงปู่ทวดเคยจำพรรษา ก่อนที่ท่านจะมรณภาพที่เมืองไทรบุรี ประเทศมาเลเซีย ท่านได้สั่งให้นำร่างของท่านมาฌาปนกิจที่วัดช้างให้ เมื่อฌาปนกิจเสร็จก็สร้างสถูปขึ้นบรรจุอัฐิของท่าน ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 5 ทางวัดจะจัดให้มีการสรงน้ำอัฐิหลวงปู่ทวดเป็นประจำทุกปี

วิหารหลวงปู่ทวด เมื่อเข้ามากันแล้วก็ต้องนมัสการหลวงปู่ทวดในวิหารแห่งนี้ก่อน จุดเทียนธูปบูชาไว้ด้านหน้าแล้วเข้าไปภายในวิหาร

หากไปในช่วงเดือนมีนาคม 2562 ตามภาพ คณะกรรมการวัดได้จัดให้มีการบูรณะเจดีย์วัดช้างให้ จึงเป็นโอกาสดีที่ทุกท่านจะได้ทำบุญบูรณะเจดีย์

â
@
:

พระธาตุเจดีย์วัดช้างให้ หรือ วัดราษฎร์บูรณะ รูปแบบเป็นเจดีย์ 5 ยอด โดยมีองค์ใหญ่อยู่ตรงกลางมีระเบียงเป็นวิหารคตรอบองค์พระเจดีย์ ฉัตรทองคำหนัก 100 บาท เป็นฉัตร 7 ชั้น ประดับทับทิมประดิษฐานอยู่บนยอดเจดีย์ ภายในองค์พระธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ความสูง 59.09 เมตร

ภาพเจดีย์ระหว่างบูรณะ
เด็กลูกชาวบ้าน มาร่วมถ่ายรูป
น่ารัก

วันนั้นเป็นโอกาสดีที่ได้ลอดท้องช้าง เพื่อสะเดาะเคราะห์ ตามความเชื่อของคนโบราณ ดูตาพี่ช้างเค้ามองซิ

มณฑปหลวงปู่ทวด อยู่ด้านหน้าของวัด ก่อสร้างด้วยลวดลายประดับสีทองสวยงามตั้งแต่แรกเห็นมีรูปหลวงปู่ทวดให้นมัสการกัน

>

จากวัดช้างให้ เดินทางต่อเข้ายะลา เพื่อไหว้หลักเมืองยะลา ศูนย์กลางความศรัทธาของชาวยะลา Post ต่อไปคะ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง