เที่ยว กระบี่ อ่าวนาง วัดถ้ำเสือ

วันสุดท้ายของ “ทริปกระบี่” หลังจากกินอาหารเช้าของโรงแรม ซึ่งหากไปพักที่โรงแรมนี้ จะสังเกตว่า ห้องครัวจะมีแต่พ่อครัวเท่านั้น ประมาณ 3 คน ซึ่งเป็นทีมทำกับข้าวเตรียมอาหารให้แขกที่โรงแรมกินทุกเช้า และอร่อยทุกเมนู ถ้วย จาน ชาม ช้อนก็สะอาดเรียบร้อย มีสลัด มันฝรั่ง กาแฟ ไข่ดาว อาหารประเภทกับข้าว ก๋วยเตี๋ยวผัด ข้าวต้ม และเครื่องเคียงครบถ้วน คือ กินกัน 3 รอบถึงจะครบ

ทานข้าวเสร็จไปทำธุระขายสบู่ชาร์โคลให้แม่ก่อน เพราะนัดลูกค้ารับของที่หาดนพรัตน์ธารา ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 1.5 กม. เลยถ่ายรูปหน้าหาดประมาณ 09.00 น. มาให้ชม

หาดนพรัตน์ธารา ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เป็นท่าเรือศูนย์กลางไปเที่ยวตามเกาะ ต่างๆ ของกระบี่ เดิมชาวบ้านเรียกว่า “หาดคลองแห้ง” เพราะช่วง น้ำลง น้ำคลองที่ไหลมาจากภูเขาทางด้านเหนือจะแห้งขอด กลาย เป็นหาดทรายขาวเหยียดทอดลงไปในทะเล บรรจบกับ เกาะเขาปากคลอง บริเวณหาดเป็นทรายละเอียดปะปนด้วยเปลือกหอยเล็กๆ ประดับด้วยทิวสนเรียงรายตามชายหาดทะเล มองออก ไปในพื้นน้ำมีทิวทัศน์ของเกาะแก่ง ช่วงน้ำลงจนแห้งสามารถเดินไป ยัง เกาะเล็กๆ บริเวณหน้าชายหาดได้ เหมาะสมสำหรับ การพัก ผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้หาดนพรัตน์ธารายังเป็นแหล่งที่ อยู่อาศัยของหอยชักตีนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง อยู่ห่าง จากจังหวัดกระบี่ เพียง 17 กิโลเมตร

หาดนพรัตน์ธารา เป็นหาดซึ่งที่เป็นที่ทำการของ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งมีบ้านพักของอุทยาน ให้บริการ นักท่องเที่ยว และเป็นจุดให้บริการเรือหางยาวท่องเที่ยวเกาะต่างๆในกระบี่ ของสหกรณ์เรือหางยาว ราคาประมาณนี้

อ่าวไร่เลย์ อ่าวต้นไทร ถ้ำพระนาง คนละ 100 บาท
เกาะปอดะ เกาะไก่ ทะเลแหวก คนละ 300 บาท
เกาะห้อง เกาะผักเบี้ย ลาดิง (เหมาลำ) 6 คน 2800 บาท
เกาะไผ่ เกาะพี พี เหมาลำ (เหมาลำ) 5 คน 3800-5000 บาท
4 เกาะเต็มวัน ได้แก่ เกาะไก่ ถ้ำพระนาง ทะเลแหวก ไร่เลย์ (เหมาลำ 6 คน ) 2200 บาท

2 เกาะครึ่งวัน เกาะปอดะ ทะเลแหวก ( เหมาลำ 4 คน ) 1700 บาท

จากหน้าหาดนพรัตน์ธารา ไปถ่ายรูปกันต่อที่ป้ายอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี

เสร็จจากไปทำธุระหน้าหาด ก็กลับโรงแรมเพื่อเตรียมตัว Check out ออกไปทำบุญที่วัดถ้ำเสือ ซึ่งกว่าจะได้เดินทางกับประมาณ 12.00 น.

ออกจากโรงแรม อยากกินขนมจีนน้ำยาใต้ พยายามหาร้านอร่อย สุดท้ายแวะไปกินที่ร้านบริเวณลานถนนคนเดินเมืองกระบี่ มีขนมจีนเตรียมไว้ให้ตักน้ำยาราดเอง

กินขนมจีนเรียบร้อยแล้ว ได้เวลาไปทำบุญที่วัดถ้ำเสือ ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง

วัดถ้ำเสือ อยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่ประมาณ 9 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ บ้านถ้ำเสือ ตำบลกระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ พื้นที่บริเวณวัดประมาณ 200 ไร่ ประกอบไปด้วยพื้นที่ราบ หุบเขาและยอดเขา

การเดินทาง จากตัวเมืองกระบี่ เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกตลาดเก่า ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) เส้นทางอำเภอเหนือคลอง เลี้ยวซ้ายที่สามแยกถ้ำเสือไปตามถนนราษฎรพัฒนา (ทางหลวงหมายเลข 4037) ไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางอย่างชัดเจน

วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งชาวต่างประเทศ ทั้งความโดดเด่นของวัดและชื่อเสียงของ “หลวงพ่อจำเนียร” ประธานสงฆ์วัดถ้ำเสือที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธามาช้านาน สภาพโดยทั่วไปของ วัดถ้ำเสือมีลักษณะ เป็นสวนป่า เป็นโพรงถ้ำ มีเพิงผาและแหล่งถ้ำธรรมชาติ เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำงู ถ้ำเต่า ถ้ำมือเสือ สิ่งสำคัญใน “วัดถ้ำเสือ” นั้นที่ดูเหมือนจะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดและ เป็นที่นิยมชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

พ.ศ. 2518 หลวงพ่อจำเนียรมีความประสงค์จะหาสถานที่ปฏิบัติธรรมใหม่ ก็เกิดนิมิตในมโนภาพว่าเป็นสถานที่มีภูเขาล้อมรอบ และถ้ำชื่อ “ถ้ำเสือ” ตลอดถึงถ้ำต่างๆ หลายถ้ำ และอยู่ในเขตจังหวัดกระบี่ด้วย ทันทีที่เกิดนิมิตเห็นก็เกิดความรู้สึกนึกรักสถานที่นั้นขึ้นมาจับใจ เหมือนรู้สึกคุ้นเคยกับสถานที่นี้มาก่อน หลวงพ่อได้ให้พระอาจารย์หีด ไปเสาะแสวงหาสถานที่จะตั้งสำนัก จนในที่สุดพระอาจารย์หีดได้พบสถานที่หลายๆแห่งรวมถึงถ้ำเสือด้วย

เดินลึกเข้ามาในวัดถ้ำเสือประมาณ100เมตร ทางซ้ายจะเห็นบันไดขึ้นเขาชมวิว 1237 ขั้น

ด้านบนมี พระธาตุเจดีย์บนยอดเขาแก้ว และพระพุทธรูปสวนงาม ซึ่งมีความสูงอยู่เหนือระดับน้ำทะเล600 เมตร โดยต้องขึ้นบันไดไป 1,237 ขั้น บนยอดเขาแก้วยังเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง นอกจากนี้ท่านยังจะได้สูดอากาศอันบริสุทธิ์บนยอดเขาพร้อม ๆ กับการได้ชมวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองกระบี่อย่างเต็มตา

คำแนะนำการขึ้นบันไดชมวิว วัดถ้ำเสือ กระบี่

เวลาเปิด-ปิด ไม่มี สามารถขึ้นได้ตลอดเวลา แนะนำขึ้นเช้าสุด5โมงเช้า สายสุดตอนลงคือพระอาทิตย์ตก
ร่างกายต้องแข็งแรง เพราะบันได 1,237 ขั้น สูงชัน พกขวดน้ำติดตัวไปก็ดี แต่นำกลับมาด้วย
ระยะเวลาในการเดินขึ้นประมาณ 30 นาที ที่ร่างกายแข็งแรง และ 40 นาที ถึง 1 ชั่วโมง คนแข็งแรงทั่วไป
ให้ระมัดระวังมากๆ ทางขาลงให้จับราวบันไดดีๆ
ไม่มีห้องน้ำ ณ จุดชมวิวด้านบนสุด แต่มีห้องน้ำบริเวณบันไดที่ขั้น 540 และ 1060
ควรขึ้นตอนเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น(ขึ้น6โมงเช้า) หรือตอนเย็นช่วงพระอาทิตย์กำลังตก (ขึ้น4โมงเย็น)
ไม่แนะนำให้ขึ้นช่วง 10.00 และช่วงบ่าย
วิวสวยที่สุด ตอนพระอาทิตย์ แสงสีส้ม สวยมากครับ