เที่ยวน่าน #1 วัดภูมินทร์ ถึง ปัว

ทริปเที่ยวน่าน “น่านนคร” 4 วัน 3 คืน (วันแรก) เริ่มต้นจากวัดภูมินทร์ชมความงดงามของวัดภูมินทร์ และขอพระความรักให้รักยืนยาวและมั่นคง ต้องขอพรความรักต่อหน้า ปู่ม่าน-ย่าม่าน หลังจากนั้นเดินทางต่อไปพักที่ปัว

เป็นเวลานานกว่า 10 กว่าปี ที่ไม่ได้มาเที่ยวน่าน จำได้ว่า ขับรถมาจากกรุงเทพ แวะเขื่อนสิริกิติ์, วัดพระธาตุแช่แห้ง กางเต้นท์ นอนบนดอยเสมอดาว และ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ขับรถเส้นทางไหนจำไม่ได้เลย และคงผ่านเส้นบ่อเกลือแน่นอน จำได้เพียงว่า ขากลับทางลงมีเสาไฟฟ้า มาเจอหมู่บ้านซึ่งน่าจะคือปัว และ ผ่านท่าวังผา, น่าน

ทริปเที่ยวน่าน มาวันนี้ นั่งเครื่องแอร์เอเซีย FD 3556 14.35 น. จองข้ามปีเหมือนเดิม คนละ 700 บาทไป-กลับ ประหยัดและสบายกว่าการขับรถมาไกล 669 กม. ไปกลับ 1,200 กม. กับเวลาที่มีน้อยและขับรถมือเดียว จองข้ามปีคุ้มสุด เตรียมสตางค์ใส่กระปุกไว้ได้เป็นค่าที่พัก ส่วนค่ากินไปไหนจะง่ายๆ แบบก๋วยเตี๋ยวห้อยขา หรืออาหารตามสั่งร้อนบนดอย แบบกระเพราหมูเผ็ดไข่ดาวแบบนั้น

เริ่มเข้า Gate เตรียมบัตรโดยสารและบัตรประชาชนให้น้องๆ ตรวจว่าไม่ผิดคนนะ จากนั้นเตรียมถอดเข็มขัดมาไกลๆเลย, ถอดนาฬิกา, หยิบ Powerbank (ไม่เกิน 20,000 มิลลิแอมป์), Notebook, มือถือ, เศษสตางค์ใส่ถาด การเที่ยวโดยเครื่องบิน ต้องเตรียมอะไรที่เล็กๆ เช่น โรออน แต่สเปย์ใส่ผมนำมาไม่ได้ซักที 555 ขวดใหญ่เกิน

ซักอึดใจ ก็ผ่านเครื่องสแกนมาเรียบร้อย จากนั้นเดินหน่อยขึ้นเครื่องที่ Gate 52 ชายแดนสนามบิน แต่ก็ยังดีที่ไม่ต้องขึ้นรถบัสไปขึ้นเครื่องกลางสนามบิน หากเป็น Gate 71-78 ขึ้นรถบัสวนใต้ Gate ไปขึ้นเครื่องอีกที ระหว่างทางรู้มั้ยร้านขายของร้านไหนที่คิวยาก ขายดีที่สุด นี้เลย Krispy Kreme (คริสปีครีม) เพราะอยากซื้อกับไปฝากครอบครัว

Krispy Kreme (คริสปีครีม)
สนามบินดอนเมือง
นิตยสาร travel360 ฉบับเดือนกันยายน 62 หน้าปก ภาพ ปู่ม่าน ย่าม่าน”กระซิบรักบันลือโลก” วัดภูมินทร์

เครื่อง Takeoff ออกจากสนามบินดอนเมืองช้ากว่าเวลาประมาณ 30 นาที เพราะระบบแอร์ของเครื่องบินมีปัญหา กัปตันขอเวลา reset ระบบคอมพิวเตอร์ 10 นาที ก็นั่งเปิดอ่านนิตยสาร travel360 หลังเก้าอี้ เป็นฉบับใหม่ประจำเดือนกันยายน 2562 หน้าปกนิตยสารเป็นรูป ภาพ “กระซิบรักบันลือโลก” วัดภูมินทร์ พอดิบพอดี เดี๋ยวจะเล่าตำนานให้ฟังอีกที

กัปตันบอกว่ามีเมฆมาก แต่น่านท้องฟ้าแจ่มใส
ข้างล่างคือถนนลอยฟ้าเส้นบ่อเกลือ สุขสันติ แนวนี้จะอยู่บนสันเขา ไกลขวามือเป็นแนวอุทยานแห่งชาติภูคา น่านมีการทำไร่เลื่อนลอย พืชเชิงเดี๋ยวเยอะ

ระหว่างเครื่องอ้อมไปลงสนามบิน จะเห็นแม่น้ำน่านเป็นสีโคลนเข้มตลอดทาง คิดในใจ สีน้ำแบบนี้ฝนคงตกเยอะ เข้าเขตน่านเครื่องบินจะบินเลยกลับลำทางทิศเหนือเห็นถนนลอยฟ้าด้วย เก็บภาพเกือบไม่ทันเพราะปิดเครื่อง เครื่อง Landing สนามบินน่านนคร ประมาณ 16.45 น.

นานๆได้ยืนถ่ายรูปบนเครื่อง ไม่รีบเพราะเดินเข้าสนามบินน่านนคร ลงเครื่องได้ทั้งด้านหน้าด้านหลัง
ipad ไว้นั่งดูหนังแบบระงับสัญญานบนเครื่อง กับกินเป๊ปซี่บัตรเครดิต Airasia – ธนาคารกรุงเทพ ฟรี
ถึงแล้วนะสนามบินน่านนคร

เมื่อเท้าแตะพื้นเมืองน่าน เดินเข้ามาในสนามบิน รู้สึกว่า คนเมืองนี้ เค้าเข้าใจต้อนรับแขก ภาพวาดน่าจะเป็นของเด็กนักเรียน “ปู่ม่าน ย่าม่าน” เรือยาวแข่งลำน้อยที่จัดมาโชว์ไว้ คงหมายถึงการแข่งเรือในลำน้ำน่าน, ทุ่งนาบนภูเขา, สนามบินที่สะอาด ต่างจากสนามบินอื่น ๆ รู้สึกว่าดี ยิ่งเข้าไปในเมือง เดินตลาด ผู้คนพูดจาดี ดูมีความสุข ถนนหนทางที่ผู้คนไม่มากนัก รถนำเที่ยวห้องน้ำสาธารณะเตรียมไว้ให้ครบ ฯลฯ … เรามาถึงเมืองน่านแล้วจริง ๆ ยิ่งวันสุดท้าย ถนนคนเดิน ลานกิจกรรมเมืองน่าน ใครมาจะหลงรักเมืองนี้

สนามบินเล็กๆแต่สะอาด ห้องน้ำสะอาด บริเวณก็สะอาด
จุด Checkin อยู่ชั้นเดียวกันหมด รอเวลา เดินขึ้นเครื่องได้เลย
ลงมาถึงคันนี้มารอละ ขับสนุกมาก ขึ้นดอยสบายเลย .. จำเลยท้ายไว้นะ แล้วมาดูวันที่ 16 กัน

ทริปเที่ยวน่านรอบนี้ เส้นทางที่ไปขึ้นดอยและวิ่งเป็นวงกลม 4 วัน 3 คืน

– วันแรกของเที่ยวเที่ยวน่าน สนามบิน – วัดภูมินทร์ – ท่าวังผา – นอนที่ปัว ,
– ทริปเที่ยวน่าน วันที่สอง เที่ยวในปัว ดอยสะกาด, ดอยภูคา, นอนที่บ่อเกลือ,
– ทริปเที่ยวน่าน วันที่สาม ออกสายนิด ไปศูนย์ภูฟ้าพัฒนา , เที่ยวกินตามเส้นทาง สุขสันติ, แวะถ่ายรูประหว่างทางถนนลอยฟ้า
เป้าหมายวัดพระธาตุแช่แห้งก่อน 17.00 น., ถนนคนเดิน นอนพักที่ในเมืองน่าน
– ทริปเที่ยวน่าน วันที่สี่ เที่ยววัดพระธาตุเขาน้อย และวัดอื่นๆ ไปสนามบิน 13.00 น. คืนรถและขึ้นเครื่องกลับ

ก่อนที่จะขึ้นเครื่อง Line มาเช่ารถกับรถเช่าน่าน line id : nanatlove222 คุยกันไม่กี่ประโยค ใจง่ายเช่ารถ 3 วัน รับ-ส่งที่สนามบินในราคา 800 บาท/วัน รวม 2,400 บาท ได้วีออสใหม่ สีขาว ป้ายขาว (บอกขอป้ายขาว ไม่ชอบขับป้ายแดง) มีประกันชั้น 1 ไม่ต้องมีเงินค้ำประกัน และ น่าจะประหยัดน้ำมันพอสมควร (ค่าน้ำมันหมดไป 892 บาท กี่กิโลไม่รู้ไม่ได้ถ่ายไมค์เริ่มต้นไว้ เติมน้ำมันกลับให้เต็มถังและคืนรถ)

วันแรก เที่ยวน่าน สนามบิน – วัดภูมินทร์ – ท่าวังผา – นอนที่ปัว

ได้รถแล้วไปไหนดีละ “ผิดแผน” เพราะเครื่องดีเลย์ ไปหาอะไรกินก่อน เลือก “ร้านก๋วยเตี๋ยวไร้เทียมทาน” ในตัวเมือง เพราะดูรีวิวว่าร้านนี้ เจ้าเก่าขายมานาน สั่งมา 2 ชาม เส้นหมี่เหลืองกระดูกหมู และ เส้นเล็กหมูนุ่มลูกชิน เติมขนมจีบหมู 1 จาน น้ำ 1 ขวด ราคา 110 บาท

ร้านก๋วยเตี่๋ยวไร้เทียมทาน อยู่ตรงสามแยกโรงเรียนบ้านดอนศรีเสริมกสิกร
เตี๋ยวหมูนุ่มลูกชิ้นมะนาน
กระดูกหมูตุ๋นชิ้นใหญ่มาก
ขนมจีบหมู

จากนั้นก็มาเดินเล่นที่ตลาดตั้งจิตนุสรณ์ ซึ่งมีร้านขายอาหารต่าง ๆมากมาย ทั้งคาวหวาน ผลไม้ ขนม แต่เพิ่งกินเตี๋ยวไร้เทียมทานมา ยังอิ่มอยู่ ก็ไม่รู้จะซื้ออะไร แต่ อุดหนุนลองกองใต้มา 1 ช่อ 25 บาท เลือกแบบพวงลูกใหญ่ ..ไปชมภาพกันแอบถ่ายมาได้แค่นี้ เกรงใจคนค้าขาย แม่ค้าน่านพูดเพาะจริง ๆ ชิมได้เจ้า

หมายมั่นไว้ก่อนว่า ทริปน่านครั้งหน้าจะไป ชิมหมูกรอบร้านนี้
ตลาดหน้าเดินมาก อาหารมีทุกอย่างทั้งพื้นบ้าน อาหารเมนูปกติ และตั้งที่น่านถึงจะมี

ดูเวลา 17.05 น. โทรไปวัดพระธาตุแช่แห้ง ผู้ใหญ่หรือพระปลายสายกรุณาบอกว่า ปิด 18.00 น. ไม่ทันไว้ไปกราบพระธาตุวันเสาร์ แต่ลองไปวัดภูมินทร์ดีกว่า ใช้เวลาจากตลาดสด 5 นาทีก็ถึงวัน ในเมืองน่านขับรถง่าย รถไม่เยอะ

บรรยากาศเมืองน่าน รถนำเที่ยวชมบ้านเมือง
โรงแรมดังของน่านเลย ไปจอดรถแถวๆ นั้น
จากร้านก๋วยเตี๋ยว ไปวัดภูมินทร์ ไปถึงวัดยังไม่ปิด โดยเฉพาะวันศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ มีถนนคนเดินข้างวัด วัดจะเปิดถึงดึก

รีบจอดรถเข้าไปในวิหาร นั้นไง ภาพ “ปู่ม่านกำลังกระซิบอะไรซักอย่างข้างหูย่าม่าน” ภาพ “กระซิบรักบันลือโลก ถึงเป็นจุดไฮไลท์ของทริปน่านครั้งนี้เลย สุดประทับใจวันแรก ก็รูปนี้ละ ไปทุกที่ในเมืองน่าน จะพบรูปนี้ติดอยู่ จึงอยากมาดู

ปู่ม่าน – ย่าม่าน วัดภูมินทร์ จังหวัดน่าน

คนที่มาเที่ยวจังหวัดน่าน ต้องรู้จักภาพ “กระซิบรักบันลือโลก” เป็นสัญลักษณ์ของเมืองน่าน ภาพจิตรกรรมฝาหนัง “ปู่ม่าน – ย่าม่าน” หรือหนุ่มกระซิบรัก ในวัดภูมินทร์ ผลงานของหนานบัวผัน จิตรกรท้องถื่นเชื้อสายไทยลื้อ

โดยมีความเชื่อว่า หากคู่รักมาบอกรักขอพรต่อหน้า “ปู่ม่าน – ย่าม่าน” ความรักจะยืนยาวมั่นคงและมั่นคงในชีวิตรัก เหมือนดั่งหนุ่มสาวชาวเมียนมาคู่นี้รักที่ยืนยงจวบจนสิ้นลมหายใจ การขอพรนั้นคู่รักฝ่ายชายจะต้องจำประโยคบอกรักที่สำคัญ

“คำฮีกน้อง กูปี้จักเอาไว้ในน้ำ
ก็กลัวหนาว จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว
ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาคะลุม
จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม
ก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วสู่เอาไป
ก็เลยเอาไว้ในอกในใจตัวชายปี้นี้
จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้
ยามปี้นอนสะดุ้วตื่นเววา ….”

ก่อนขอพร ทุกคู่รักต้องไปลอดซุ้มพญานาคคู่ขวัญซึ่งอยู่หน้าพระอุโบสถเสียก่อน ซุ้มพญานาคคู่ขวัญมีอายุกว่า 400 ปี คู่รักต้องเดินลอดวนทวนเข็มนาฬิกา 3 รอบ แล้วค่อยมาขอพระ “ปู่ม่าน – ย่าม่าน” เชื่อว่า ความรักจะยั่งยืนนาน

วัดภูมินทร์

วัดภูมินทร์ ตั้งอยู่ภายในอำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน เดิมชื่อ “วัดพรหมมินทร์” เป็นวัดที่แปลกกว่าวัดอื่น ๆ คือ โบสถ์และวิหารสร้างเป็นอาคารหลังเดียวกันประตูไม้ทั้งสี่ทิศ แกะสลักลวดลายโดยช่างฝีมือล้านนาสวยงามมาก นอกจากนี้ฝาผนังยังแสดงถึงชีวิตและ วัฒนธรรมของยุคสมัยที่ผ่านมาตามพงศาวดารของเมืองน่าน วัดภูมินทร์สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2139 โดยพระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ เจ้าผู้ครอง เมืองน่านได้สร้างขึ้นหลังจากที่ครองนครน่านได้ 6 ปี มีปรากฏในคัมภีร์เมือง เหนือว่าเดิมชื่อ “วัดพรหมมินทร์” ซึ่งเป็นชื่อของเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ ผู้สร้างวัด แต่ตอนหลังชื่อวัดได้เพี้ยนไปจากเดิมเป็น วัดภูมินทร์

ความสวยแปลกของวัดภูมินทร์คือ เป็นพระอุโบสถทรงจตุรมุข พระประธานจตุรพักตร์ นาคสะดุ้งขนาดใหญ่แห่แหนพระอุโบสถเทินไว้กลางลำตัวนาค พระอุโบสถจตุรมุขนี้กรมศิลปกรได้สันนิษฐานว่า เป็นพระอุโบสถจตุรมุขหลังแรกของ ประเทศไทยพระอุโบสถ ตรงใจกลางประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพระพักตร์ออก ด้านประตูทั้งสี่ทิศ หันเบื้องพระปฤษฏางค์ ชนกันประทับ นั่งบนฐานชุกชี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ผู้ที่ไปชมความงามของ พระอุโบสถนี้ไม่ว่าจะเดินขึ้นบันไดทิศใด จะพบพระพักตร์ของพระพุทธรูปทุกด้าน

วัดภูมินทร์ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่สมัยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เมื่อ พ.ศ.2410 (ปลายสมัยรัชกาลที่ 4) ใช้เวลาซ่อม นานถึง 7 ปี จิตรกรรมฝาผนังในวิหาร หลวงเขียนขึ้นในช่วงนี้ ภาพจิตรกรรมหรือ “ฮูบแต้ม” ในวัดภูมินทร์เป็นชาดกในพุทธศาสนา แต่ถ้าพิจารณารายละเอียดของวิถีชีวิตของคนเมืองในสมัยนั้น มีภาพที่น่าสนใจอยู่หลายภาพ

ภาพธรรมเนียมการอยู่ข่วง ของชาวไทลื้อ พ่อแม่จะอนุญาตให้หนุ่มสาวพบปะกันที่ชานบ้านในเวลาค่ำ ขณะหญิงสาวกำลังปั่นฝ้าย หรือ “อยู่ข่วง” หากสาวเจ้า ตกลงปลงใจด้วยก็จะจัดพิธีแต่งงาน หรือที่เรียกว่า “เอาคำไป ป่องกั๋น” หรือเป็นทองแผ่นเดียวกัน การค้าขาย แลกเปลี่ยนในชุมชน ภาพชาวพื้นเมือง ซึ่งอาจเป็นชาวเขา “เป๊อะ” ของป่าบนศรีษะเพื่อนำมาแลกเปลี่ยนกับคน ชีวิตความเป็นอยู่ของคนเมืองน่าน หญิงสาวกำลังทอผ้าด้วยกี่พื้น เมือง นอกชานมีเรือนเล็กๆ ตั้งหม้อน้ำดินเผาที่เรียกว่า “ร้านน้ำ”ส่วนชายหนุ่มไว้ผมทรงหลักแจว หรือ ทรงมหาดไทย

แสดงให้เห็นอิทธิพลตะวันตกที่เข้ามา ผสมผสานในวิถีพื้นเมืองน่าน ภาพชาวต่างประเทศ ที่เข้ามาเมืองน่าน ช่วงรัชกาลที่ 5 ทรงผม และเครื่องแต่งกายของผู้หญิงเป็นรูปแบบดียวกับที่กำลัง เป็นที่นิยมในยุโรปขณะนั้น นอกจากนี้เป็นภาพจิตรกรรม ฝาผนังเรื่องราวของพุทธประวัติคันธกุมารและเนมีราชชาดก มีสิ่งที่น่าตื่นเต้น

ประทับ ใจที่สุดคือ ภาพบุคคลขนาดใหญ่เท่าตัวคน ที่อาจมีชีวิตอยู่จริงในเวลานั้นความใหญ่โตมโหฬารของภาพบุคคล 6 ภาพ มิใช่จะทำให้คนชมต้องตะลึงเท่านั้น หากภาพวาดมีความงดงามมากเพราะบรรยายถึงอาภรณ์ การแต่งกาย ของหญิงชาย โดยเฉพาะสามารถถ่ายทอดอารมณชีวิตชีวาและแสดงถึงลีลาอัน อ่อนช้อยได้เป็นอย่างดีภาพเหล่า นี้ส่วนมากเขียนอยู่บนบานประตู ซึ่งเมื่อเปิดประตูออก บานประตูจะบังภาพไปบางส่วน

บ้านเล็กขนาดกำลังดี ที่มีต้นไม้ 2 ต้น เกี่ยวพันเติบโตล้อกันขึ้นไป เป็นที่สะดุดตาของทุกคนที่ผ่านไปมา โดยแท้จริงแล้วบ้านหลังนี้คือ “บ้านคุณหลวง” ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของวัดภูมินทร์ เดิมเป็นบ้านที่เจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช ได้ให้ช่างสร้างขึ้น เพื่อเป็นที่อยู่ของธิดาทางกรุงเทพฯ ได้ส่งอำมาตย์ตรีหลวง ธนานุสร (ช่วง โลหะโชติ) มาเป็นคลังจังหวัดคนแรกของน่าน และเนื่องจากเป็นชาวพิษณุโลก เมื่อมาถึงจึงได้ขอซื้อบ้านและที่ดินนี้จากเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ ปัจจุบันยังถูกเก็ยรักษาไว้ให้คงรูปแบบเดิมมากที่สุด

ไหว้พระขอพระและชมภาพปู่ม่าน ย่าม่าน ประมาณ 17.30 น. ก็ออกเดินทางไปอำเภอปัว ระยะทางประมาณ กม. ผ่านอำเภอท่าวังผา เส้นทางขับสบาย ๆ แต่เนื่องจากว่า ไม่ใช่คนพื้นที่ก็ขับไม่ต้องเร็วดีกว่า ก็มีโค้งๆ อยู่บ้าง จำไว้ว่าใช้เวลาขับรถไม่ถึงชั่วโมง + เวลาแวะ 7-11 สาขาปัว

ก่อนเข้าพักที่ปัวเดอวิว บูติค รีสอร์ท (PuaDeView Boutique Resort) ซึ่งจองไว้ล่วงหน้า 1 วันเหมือนกัน ราคา 713 บาท เลือกที่นี้ โรงแรมใหม่ วิวสวย มีสระว่ายน้ำ ที่สำคัญมีอาหารเช้าด้วย

โรงแรมอยู่ข้างกำแพงเมืองปัว มีที่จอดรถ ไปถึงมีน้องพนักงานต้อนรับ 1 คน อัธยาศัยดี เป็นรีสอร์ทใหม่ พักสบาย สะอาด น้ำฝักบัวนุ่มมากจากที่นอนโรงแรมมามากมาย ดูรูปละกัน อธิบายไม่ถูก .. ส่วนรูปสวนและหน้าตารีสอร์ท ไปดูกันในตอนที่2 เลยจ้า

เรื่องที่เกี่ยวข้อง