สรุปทริปเที่ยวญี่ปุ่น ตามหาฟูจิ รวม 6 วัน 5 คืน ด้วยตัวเอง (ครั้งแรก)
จากครั้งโน้นลงแผน พร้อมตารางเดินทาง และค่าใช้จ่ายเที่ยวญี่ปุ่นไว้
Post นี้ จะมาสรุปทริปญี่ปุ่น ตามหาฟูจิ (ทริปเดียว 2 รอบ) รวม 6 วัน 5 คืน ด้วยตัวเอง (ครั้งแรก) เก็บไว้ดูนะ เป็นข้อมูล และ”เผื่อไปรอบ หลัง Covid-19 หมด ขอหยอดกระปุกก่อน
ส่วนไปแต่ละเมืองเดินทางอย่างไร พร้อมรูปบรรยากาศที่เก็บไว้ จะนำมา post แยกเป็นวันๆไปในแต่ละเมือง
ทริปนี้บอกเลยว่า ไม่รู้เรื่องญี่ปุ่นเลย รถไฟฟ้า การเดินทาง ที่เที่ยว ไปยังไง ที่กลัวสุดคือ ขึ้นรถไฟฟ้าอย่างไร จะผิดขบวนมั้ย ก็เคยขึ้น BTS, MRT มาแล้วคงเหมือนๆกันละ
ที่สำคัญคือมี อากู “Google” และ “Google Map” และ pocket wifi + sim มาด้วย และทำการบ้านก่อนไปมานิดหน่อย
ความปรารถนาหลักของผจญภัยญี่ปุ่นครั้งนี้ :
อยากดูภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น เคยเห็นแต่รูปในร้านฟูจิ และอาหารร้านฟูจิก็อร่อย เลยอยากไปเที่ยวซักคนในชีวิต
อยากไปดูใบไม้เปลี่ยนสี เค้าว่ากันว่า สวยมาก ใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสี กับลองอากาศหนาวของญี่ปุ่นจะสู้หน้าหนาวบนดอยอินทนนท์ได้มั้ย
อยากไปเห็นบ้านเรือน สายน้ำ ภูเขา ถนนหนทางความเป็นญี่ปุ่น สถานีรถไฟฟ้าโตเกียว (รู้ว่ามันใหญ่เว่อร์) และที่สุดคือ นั่งซินคันเซ็น หรือ รถไฟฟ้าสาย JR หน้าตาคล้ายๆ ไอออนแมน
จึงกลายเป็นการเดินทางด้วยตัวเองแบบงงๆ รวม 6 วัน 5 คืน 3 คน จาก ดอนเมือง บิน Airasia ออก 02.55 – ถึง สนามบินนาริตะ ญี่ปุ่น 10.39 / กลับ นาริตะ 14.45 – ถึงดอนเมือง 20.00 (บินไปเร็ว บินกลับช้า บินต้านกระแสลม) บนเครื่องเขียนใบเข้าเมือง ลอกจากโทรศัพท์
เดินทาง 4 เมืองหลัก : Tokyo , kawaguchiko ,Kawagoe, Nikko, kawaguchiko (ไป 2 รอบ)
ทริปนี้
> พัก Ueno 1 คืน เที่ยวใน Tokyo ชมบ้านเมืองวัด
> kawaguchiko 1 คืน รอบนี้ไม่เจอฟูจิซัง ใบไม้เปลี่ยนสีสวยมาก (จริงๆไปกลับได้)
> Tokyo 1 คืน (เที่ยวในสวนช่วงเข้า) เที่ยว Kawagoe (ร้านเปิดสาย ควรไปบ่ายกลับค่ำ สวนวัดก่อน)
> นอน Nikko 1 คืน / รถบัสใน Nikko เริ่ม 9 โมง
> บ่าย มุ่งสู่ Kawaguchiko รอบ 2 เพื่อฟูจิ (ในแผนไป Shopที่อื่น )
> กลับมานอน Tokyo 1 คืน
> รุ่งขึ้นเข้านาริตะ กลับบ้านแบบอยากเที่ยวต่อ
แถวซ้ายคือ ตั๋วซินคันเซ็น ที่ทิ้ง เที่ยวเพลิน
แถวขวา คือตั๋วซินคันเซ็น, Chou line ที่ใช้ (จองตั๋วก่อนเดินทาง หรือจะคีย์ตั๋วเองที่ตู้ .. หากคุณแน่จริง)
วิธีเดินทางเข้าออกสถานี ยื่นตั๋วพร้อม pass ให้จนท.ทางเข้าสถานีดู , มีจนท.ประจำใกล้เครื่องสอดบัตร แล้วผ่านโลด
ตั๋วด้านบน ไม่รวม JR Line , Fuji line (รถต่อฟูจิมี 3 แบบนั่งฟรีหมด ใช้ pass ไม่จองตั๋ว นั่งตู้ 2,3 นะ ) รถไฟฟ้าขบวน JR Tokyo wide pass ฟรีทั้งหมด
ใช้ pass ยื่นให้จนท.ดูทางเข้า จนท.จะแต๊ปตราสถานี (ประมาณ 3,000 บ./คน 3 วัน)
คำนวณการใช้ pass ให้คุ้มที่สุด คือ ไปเช้ากลับเย็น โดยชินคันเซ็น ในบางเมือง แต่เมืองไหนหลงไหลบรรยากาศแบบ Nikko ควรนอนค้าง
ส่วน Keisei skyliner + subway 2 day ใช้ไปกลับ และ2 วันแรกใน Tokyo (1,410 บ./คน) ซื้อในงานเที่ยวญี่ปุ่นไปขึ้นตั๋วที่นาริตะ ได้ตั๋วไป-กลับไม่ระบุเวลา ขึ้นที่ ueno ขบวนไหนก็ยื่นตั๋วใบที่ 2 (ไม่ระบุเวลา)ให้เค้าออกตั๋วจริง
ค่ารถทัวร์ไปฟูจิ รถบัส นั่งเรือ กระเช้า รวมๆ 1,300 บ./คน หากดู Gps แล้วไม่กี่ป้าย ไม่ต้องซื้อหยอดเงิน เดินชมฟูจิไปเรื่อยๆ รถกว่าจะมา (รถบัสไปฟูจิ จองผ่าน website จะระบุที่นั่งได้ นำเอกสารไปขึ้นรถได้ เว็บอะไรเดี๋ยวมาบอกอีกทีนะ จำไม่ได้)
ค่าเครื่องไปกลับ 7,440 บ./คน (เฉพาะค่าเครื่อง) จองอาหารไปถูกกว่า ไม่ต้องเปลี่ยนที่นั่ง กระเป๋าหากจำเป็น 1,200/20 kg.
ค่าที่พัก 6,500 บ./คน ค่าห้องญี่ปุ่น ค่าใช้จ่ายขึ้นกับจำนวนคน เราไปกัน 3 คน (แม่อายุ 60 ปีละ จึงต้องเตรียมเรื่องการเดินทางดีๆ)
ค่าอาหาร ขนมกินเล่น 3,000 บ./คน กินน้อยมาก ขนม ผลไม้ อะไรแปลก ๆ
รวมทั้งทริป 22,650 บ./คน ตีว่า 25,000 บาทกลมๆ
ออ . ค่า ซามูไร wifi 6 วัน 200 บ./คน จองไว้ไปรับส่งเครื่องที่สนามบิน ใช้ดีมากแบตอึด ชาร์ทได้
ค่าแท็กซี่ไทยไปกลับ 150 บ./คน
แต่ละยอดมีทั้งจ่ายข้ามปีค่าเครื่อง ข้ามเดือน จ่ายที่โน้นค่า pass ค่าที่พัก, ไม่ได้จ่ายครั้งเดียวนะมันจะดูเยอะ
ถามว่า สนุกมั๊ย สนุกมาก กับ รถไฟฟ้าโตเกียว
เอกสารที่ต้องเตรียมตารางการเดินทางภาษาอังกฤษนะ ตั๋วเครื่องกลับ ใบจองที่พักแต่ละคืน เผื่อตม.ขอดู ไปหลายคนอาจเข้าคนละข่อง ยื่นให้จบหากเค้าคุย
เรามี wifi ข้อมูลอยู่ในนั้นหมด ใช้ภาษาอังกฤษ พื้นฐาน นิดหน่อย คนญี่ปุ่นใจดีมาก
