ชิมช้อปใช้ เฟส 3 เพิ่มสิทธิ์ให้ใช้จ่ายได้ทุกจังหวัด รวมค่าที่พัก ค่าเดินทาง

ครม. อนุมัติ ชิมช้อปใช้เฟส3 เพิ่มสิทธิ์ให้ใช้จ่ายได้ทุกจังหวัด รวม ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ลงทะเบียนผ่าน เว็บไซต์ www.ชิมช้อปใช้.com https://www.xn--b3caa1e2a7e2b0h2be.com/

มาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 3 ไม่มีการแจกเงินสดจำนวน 1,000 บาท แต่ยังคงใช้ได้เฉพาะกระเป๋าตัง 2 ที่เติมเงินเข้าแอปพลิเคชันเป๋าตังแล้วใช้จ่ายเท่านั้น

• ชิมช้อปใช้ เฟส 3 เปิดให้ ลงทะเบียนในวันที่ 14 พ.ย.นี้

• ไม่มีการแจกเงินจำนวน 1,000 บาท

• สิ่งที่คุณจะได้ คือ เงินคืน (Cash back) กระเป๋าตัง 2
– คุณจะได้รับเงินคืน 15% สำหรับการใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท และเงินคืน 20% สำหรับการใช้จ่ายมากกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท

• ชิมช้อปใช้ เฟส 3 เปิดให้ ผู้ที่ไม่เคยรับสิทธิ์ จำนวน 2 ล้านราย

•โดยเปิดให้ลงทะเบียนวันละ 1 ล้านราย
โดยแบ่งวันละ 2 รอบ ในวันที่ 14 พ.ย. คือ 06.00 น. และ 18.00 น.

• ผู้ที่เคยลงทะเบียนชิมช้อปใช้ไปแล้ว ไม่มีสิทธิ์ลงทะเบียน อีก

• ผู้ได้รับสิทธิ์ สามารถใช้จ่ายเงินได้ทุกจังหวัด รวมถึงจังหวัดที่ผู้รับสิทธิ์พักอาศัยอยู่

• ครั้งนี้ รวมค่าใช้จ่าย แพ็กเกจท่องเที่ยว ที่พัก ค่าเดินทาง ตั๋วเครื่องบินในประเทศ และภาคบริการที่เกี่ยวเนื่องมาร่วมโครงการเพื่อรับเงินชดเชยคืนได้ (จากเดิมที่มาตรการไม่เปิดให้รวมรายจ่ายจากแพ็กเกจท่องเที่ยวได้)

• กันสิทธิ์ให้เฉพาะ ผู้สูงอายุเท่านั้น รวม 500,000 ราย (จาก 2 ล้านราย) โดยสามารถลงทะเบียนได้วันที่ 17 พ.ย. 62

• ขยายเวลามาตรการจากเดิมสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.2562 ออกไปเป็น 31 ม.ค. 2563 เพื่อให้รองรับการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีน


” สิทธิ์เพิ่มเติมเหล่านี้ ผู้ที่ลงทะเบียนชิมช้อปใช้เฟส 1 และเฟส 2 ได้รับด้วย “

นอกจากนี้ ยังจะเสนอให้ผู้ได้สิทธิ์สามารถเดินทางไปได้ทุกจังหวัด จากเดิมเฟส 1 และ 2 ที่ห้ามใช้จ่ายในจังหวัดที่ระบุในบัตรประชาชน หรือ สำเนาทะเบียนบ้าน และให้ใช้จ่ายค่าบริการ ที่พัก การเดินทาง บริการที่เกี่ยวเนื่องได้ด้วย เริ่มวันพฤหัสบดีที่ 14พฤศจิกายนนี้
พร้อมกันนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติให้ยืดมาตรการทั้ง 3 ระยะ เวลาเดิมถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2562 เป็นสิ้นสุดมาตรการ 31 มกราคม 2563

พร้อมทั้งลุ้นรับโชค สำหรับการจ่ายผ่านกระเป๋าเงินช่องที่ 2 ที่มีการคืนเงิน (cash back) และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ 180,000 แห่งที่ใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน”ลุ้นชิงโชคทองคำ ซึ่งการแจกรางวัลทองคำ จะเริ่มได้หลังจากกระทรวงมหาดไทยอนุญาต โดยจะจัดทำโครงการไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค.2563

“สำหรับการจับรางวัล แบ่งเป็นผู้ที่รับสิทธิที่ใช้จ่ายกระเป๋าเงินช่องที่ 2 กรณีใช้เงินทุกๆ 1,000 บาท จะได้รับสิทธิลุ้นรางวัล 1 สิทธิ และร้านค้าถุงเงิน 1 ใบสลิป ก็จะได้รับสิทธิลุ้นรางวัล 1 สิทธิ ส่วนวงเงินรางวัลทั้งหมดจะมีจำนวนเท่าใด ยังไม่สามารถบอกได้ ต้องรอให้กระทรวงมหาดไทยอนุญาตก่อน แต่รับรองว่ารางวัลใหญ่ที่จะออกสมน้ำสมเนื้อแน่นอน”


ธนาคารกรุงไทย เปิดเผย ยอดการใช้สิทธิ์ผ่านกระเป่า 1 และ 2

ยอดการใช้จ่ายภาพรวมของทั้งประเทศผ่านแอปเป๋าตัง ณ วันที่ 9 พ.ย. 62 มีจำนวนทั้งสิ้น 11,727.40 ล้านบาท
ใช้จ่ายผ่าน G-Wallet 1 (กระเป๋าเงินช่องที่ 1) จำนวน 10,992 ล้านบาท
ใช้จ่ายผ่าน G-Wallet 2 (กระเป๋าเงินช่องที่ 2) จำนวน 735 ล้านบาท

แบ่งเป็น ร้านค้าประเภทชิม 13.21% ร้านค้าประเภทช้อป 59.10% ร้านค้าประเภทใช้ 1.27% และ ร้านค้าทั่วไป 26.42%

ส่วนวิธีการชำระเงินเพื่อรับสิทธิเงินคืน เข้าแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพียงกดที่เมนูใช้สิทธิรับเงินคืน 15-20% และเลือกใช้จ่ายร้านค้าถุงเงิน

การรับเงินคืนจะมี 2 รอบ

– รอบแรกสำหรับการใช้จ่ายตั้งแต่ วันที่ 27 ก.ย.-30 พ.ย. 62 จะได้รับเงินคืนกลาง ธ.ค. 62
– รอบที่ 2 การใช้จ่ายช่วง 1-31 ธ.ค. 62 จะได้รับเงินคืนกลาง ม.ค. 63
ลูกค้าสามารถโอนเงินคืนจากโครงการชิมช้อปใช้เข้าบัญชีธนาคารของลูกค้าได้

ทั้งนี้ ปัจจุบันร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการที่สามารถใช้จ่ายผ่าน G-Wallet 2 มีจำนวนกว่า 173,000 ร้านค้า ทั้งเครือโรงแรมเซ็นทารา ใบหยก แอคคอร์ ดุสิต ชาเทรียม ไฮแอท ไอเอชจี แมริออท ทีทีซี และ โรงแรมรีสอร์ตอื่นๆ ทั่วประเทศราว 4,600 แห่ง เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้รับสิทธิเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ มากยิ่งขึ้น และ มีการใช้จ่ายผ่านกระเป๋า G-Wallet 2 เพิ่มขึ้น.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง