ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ “สวมหน้ากากอนามัย-หน้ากากผ้า” ตามความสมัครใจ

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ “สวมหน้ากากอนามัย-หน้ากากผ้า” ตามความสมัครใจ

ราชกิจจานุเบกษา ออกข้อกำหนดตามความในมาตรา9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่46 ตามที่สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลงและมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงเป็นลำดับ จนสามารถผ่อนคลายมาตรการต่างๆให้ประชาชนและผู้ประกอบการได้ใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติ โดยเฉพาะการเดินทาง การใช้ชีวิตประจำวัน นายกรัฐมนตรีจึงได้ออกข้อกำหนด สาระสำคัญดังต่อไปนี้

สาระสำคัญผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ดังต่อไปนี้

1.ปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์และยกเลิกการกำหนดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว

2. ขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการควบคุมและป้องกันโรค

3.การผ่อนคลายข้อปฏิบัติในการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทั่วราชอาณาจักร

  • การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าให้เป็นการปฏิบัติโดยความสมัครใจ
  • แนะนำให้ประชาชนทั่วไปสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในสถานที่หรือในพื้นที่แออัด มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้หรืออากาศระบายถ่ายเทไม่ดี
  • กลุ่ม 608 หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจควรสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลาเมื่อต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น
  • กรณีเป็นผู้ติดเชื้อโควิด – 19 หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลาเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่นเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่โรค

4.การผ่อนคลายมาตรการสำหรับการเคลื่อนย้ายและการเดินทางของแรงงานต่างด้าว

  • ให้การเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเพื่อการทำงานข้ามเขตจังหวัดและการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเพื่อการทำงานภายในเขตจังหวัดสามารถดำเนินการภายใต้กฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการดำเนินการได้ตามปกติ
    .

5. แนวปฏิบัติสำหรับการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และวีดิทัศน์

  • ให้สำนักงาน กสทช. ปรับปรุงแนวปฏิบัติการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เพื่อรองรับกับมาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ ที่ได้ประกาศไว้ โดยให้ดำเนินการสอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่ ศบค.ได้พิจารณาเห็นชอบแล้ว
    .

6. การผ่อนคลายมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่เฝ้าระวัง

  • ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม สามารถปิดให้บริการจำหน่ายและการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้
  • สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะหรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน สามารถเปิดให้บริการได้
  • โดยต้องดำเนินการภายใต้กฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการดำเนินการไว้ และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค เงื่อนไขการจัดระเบียบ และระบบต่าง ๆ และคำแนะนำของทางราชการ
    .

7.มาตรการเฝ้าระวังเพื่อการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคในพื้นที่เฝ้าระวัง

  • การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลจำนวนมากให้สามารถทำได้ตามความเหมาะสมโดยให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด
  • กรณีการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันมากกว่าสองพันคนให้ผู้รับผิดชอบแจ้งการจัดกิจกรรมต่อคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 23 มิถุนายน 2565