ดีเดย์พรุ่งนี้ 7-14 มิ.ย.64 จะได้รับการฉีดวัคซีน Astrazeneca

ดีเดย์พรุ่งนี้ 7-14 มิ.ย.64 จะได้รับการฉีดวัคซีน Astrazeneca

ข้อแนะนำ สำหรับการเตรียมตัวไปฉีดวัคซีนโควิด-19

👉 สองวันก่อนและหลังการฉีดวัคซีนให้งดออกกำลังกายหนัก หรือยกน้ำหนัก และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
👉 วันที่ฉีดควรกินน้ำอย่างน้อย 500-1,000 ซีซี งดชา กาแฟ หรือของที่มีคาเฟอีน รวมถึงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
👉 ฉีดแขนข้างที่ไม่ค่อยถนัด และหลังฉีดสองวันอย่าใช้แขนนั้น อย่าเกร็งยกของหนัก
👉 หลังฉีดแล้วเจ้าหน้าที่จะให้รอดูอาการในบริเวณที่ฉีด 30 นาที
👉 ถ้ามีไข้หรือปวดเมื่อยมากทนไม่ไหว สามารถกินยาพาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม ครั้งละหนึ่งเม็ดซ้ำได้ถ้าจำเป็นแต่ให้ห่างกัน 6 ชั่วโมง ห้ามกินยาพวก Brufen, Arcoxia, Celebrex เด็ดขาด
👉 การฉีดวัคซีนโควิดควรห่างกับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่อย่างน้อย 1 เดือน
👉 ถ้ากินยาละลายลิ่มเลือดอยู่ ให้กินยาตามปกติ แต่เมื่อฉีดยาแล้วให้กดนิ่งตรงตำแหน่งที่ฉีดต่ออีก 1 นาที

7 มิ.ย.นี้ พร้อมฉีดวัคซีนนอกรพ. ให้คน กทม. ทั้ง 25 จุด 

(6 มิ.ย.64) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ณ สถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส ว่า จุดบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล ณ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เขตหลักสี่  ซึ่งเป็น 1 ใน 25 “หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย”  เป็นความร่วมมือการให้บริการระหว่างกรุงเทพมหานคร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และโรงพยาบาลธนบุรี  ซึ่งตั้งเป้าหมายในการให้บริการฉีดวัคซีน 1,000- 2,000 คน/วัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. -16.00 น. โดยวันนี้ได้ทดสอบระบบโดยทำการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มที่มีความเสี่ยง ได้แก่ บุคลากรด่านหน้า อาสาสมัคร  โดยมีความพร้อมในการให้บริการวัคซีนตามขั้นตอน มีการเตรียมระบบให้วัคซีนที่ปลอดภัยและครบถ้วนจนถึงการดูแลและสังเกตอาการ

* 25 จุดฉีดวัคซีนนอกรพ. พร้อมแล้ว” 

สำหรับหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกรพ. ทั้ง 25 จุด ขณะนี้มีความพร้อมให้บริการประชาชนทุกแห่ง ทั้งในด้านระบบบริการ ด้านการบริหารจัดการวัคซีนในแต่ละจุด และการวางแผนการฉีดวัคซีน มีความพร้อมให้บริการแก่ประชาชนที่ลงทะเบียนจองฉีดวัคชีนโควิด-19 ในผ่านระบบ “ไทยร่วมใจ” ขอให้ประชาชนมาตามวัน เวลาสถานที่ที่นัดหมาย ตามที่ระบบส่ง sms ไปให้ ไม่ต้องกังวลว่ามาแล้วจะไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ยืนยันว่าหากมาตามนัดจะได้รับการฉีดวัคซีนทุกคน 100% โดยในวันที่ 7-14 มิ.ย.64 จะได้รับการฉีดวัคซีน Astrazeneca ด้านศักยภาพการให้บริการฉีดวัคซีนของกรุงเทพมหานคร จากเดิมที่ตั้งเป้าการบริการฉีดวัคซีนทั้ง 25 แห่ง ให้สามารถบริการได้ 38,000-50,000 คน/วัน ขณะนี้สามารถเพิ่มศักยภาพรองรับประชาชนได้ 70,000 คน/วัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนที่จะได้รับการจัดสรรจากกระทรวงสาธารณสุข

*ควบคุมการแพร่ระบาดคลัสเตอร์วงเวียนใหญ่ 

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำหรับคลัสเตอร์ของโรคที่บริเวณตลาดวงเวียนใหญ่ กทม. โดยสำนักอนามัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการตรวจเชิงรุกบริเวณดังกล่าว จำนวน 3 ตลาด ได้แก่ ตลาดวงเวียนใหญ่ ตลาดเงินวิจิตร ตลาดเสสะเวช รวมทั้งจุดผ่อนผันทำการค้าใกล้เคียง ตั้งแต่วัน 20 พ.ค.64 ขณะนี้ทำการตรวจคัดกรองแล้วเกือบ 100% พบจำนวนผู้ป่วย 14 ราย ซึ่งไม่ได้ตรวจพบในคราวเดียว เป็นผู้ป่วยสะสม และสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว โดยได้สั่งปิดตลาดเงินวิจิตร และตลาดเสสะเวช วันที่ 4-6 มิ.ย.64 และปิดตลาดวงเวียนใหญ่ วันที่ 5-7 มิ.ย.64 เพื่อทำความสะอาดและสอบสวนโรค โดยหากยังมีการแพร่ระบาดจะพิจารณาขยายเวลาปิดต่อไป ส่วนการตรวจคัดกรองผู้ประกอบการและผู้ค้าย่านประตูน้ำที่ต้องเลื่อนวันตรวจคัดกรอง เนื่องจากเกิดคลัสเตอร์ใหม่ที่แคมป์คนงานบริเวณใกล้เคียงจึงต้องปรับเปลี่ยนทีมที่จะทำการคัดกรองผู้ค้าประตูน้ำไปตรวจคัดกรองแคมป์คนงานแทน โดยผู้ค้าย่านประตูน้ำสามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองได้ตามสถานที่ที่สำนักงานเขตราชเทวีกำหนด 

*รับกลุ่ม 60 ปีและ 7 กลุ่มโรคเรื้อรังส่วนที่ตกค้างจองฉีดวัคซีนผ่านไทยร่วมใจ*

ด้านการบริการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ที่อายุเกิน 60 ปีและผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง 7 โรค ที่อยู่ในกรุงเทพฯ ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนกับ”หมอพร้อม” ซึ่งหยุดรับการลงทะเบียนไปแล้ว ทำให้มีประชาชนตกค้าง  โครงการ”ไทยร่วมใจ” จะนำประชาชนกลุ่มนี้เข้าสู่ระบบโดยให้สามารถลงทะเบียนผ่านระบบ “ไทยร่วมใจ” ได้  พร้อมทั้งขอจัดสรรวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุข หากได้รับการจัดสรรวัคซีนประชาชนกลุ่มนี้จะได้รับการฉีดวัคซีนแน่นอน