การกักตัวเองเป็นสิ่งที่ควรทำหลังกลับจากประเทศเสี่ยง COVID-19
ไวรัสโควิค 19 (Covid 19) น่ากลัวจนต้องหลีกเลี่ยงเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง ป้องกันไทยเข้า “เฟส 3”
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

การดูแลตัวเองในชีวิตประจำวัน
– เลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง เช่น จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงค์โปร์ ไต้หวัน หรือประเทศที่ทางการประกาศ
– เลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล เหนื่อยหอบ เจ็บคอ
– ระวังการสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด ไม่จับตา จมูก ปากขณะที่ไม่ได้ล้างมือ
– ควรล้างมือให้สม่ำเสมอด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลอย่างน้อย 20 วินาที
-สวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง สีเข้มอยู่ด้านนอก สีอ่อนอยู่ด้านใน ปิดปากและจมูก คลุมคาง บีบดั้ง
– ทานอาหารสุก สะอาด ใช้ช้อนกลาง ไม่ทานอาหารที่ทำจากสัตว์หายาก
การดูแลตัวเองเมื่อกลับจากพื้นที่เสี่ยง
- หากเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงให้พักดูอาการที่บ้าน เป็นระยะเวลา 14 วัน นับจากวันที่เดินทางกลับ
- หากมีอาการไข้ เจ็บคอ มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ ให้ไปพบแพทย์ทันทีตามที่มีสิทธิ์รักษาพยาบาลโดยหากเข้าข่ายเป็น COVID-19 ทางสถานพยาบาลจะพิจารณาส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้องต่อไป
ฉุกเฉิน สายด่วนกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 1422
Krungthai #Covid_19 #coronavirus #ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่2019 #โควิด19

จากหมอคนหนึ่งเล่าถึงไวรัสโควิค 19 (Covid 19) กับเหตุผลที่ไม่ควรเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง
เครดิต นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา

เหตุผลที่ไม่ควรเดินทางไป
- ญี่ปุ่น
- สิงค์โปร์
- มาเก๊า
- ฮ่องกง
- เกาหลีใต้
- มาเลเซีย
- ไต้หวัน
จากการดูประชุมเมื่อวาน
- ยังไงประเทศไทยก็จะ
- เข้าสู่การระบาดแน่ๆครับ
แต่ของไทย
- ยังอยู่ที่เฟส 2 อยู่
คำว่าเฟส 2 คืออะไร
- หมายความว่า
มีการระบาดจากแหล่งต้นทาง
- คือมีการติดเชื้อ
- เฉพาะผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับจีน
เช่น
- กลับมาจากจีน
- หรือแท็กซี่ที่ติดจากการรับส่งคนจีน
.
ส่วน ญี่ปุ่น สิงค์โปร์ มาเก๊า ฮ่องกง และล่าสุด เกาหลีใต้ เป็นเฟส 3 แล้ว

เฟส 3 คือ มีการระบาดกัน
ในคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับต้นตอ
เช่น
- คุณหมอที่ วากายาะ
- เมียคุณหมอ ลูกคุณหมอ
- แม่ยาย
- คนขับแท็กซี่ที่โตเกียว
- และล่าสุด การระบาดที่แทกู เกาหลีใต้
.
ประเทศไทยต้องการที่จะ
- เข้าสู่เฟส 3 ให้ช้าที่สุด
เนื่องจาก
- บุคลากรทางการแพทย์
- อุปกรณ์เครื่องมือเราน้อย
ถ้าเฟส 3 มาไว
- เราตั้งรับไม่ทัน
- ดูแลผู้ป่วยไม่ทัน
- จะตายกันเยอะเหมือนที่จีน
ถ้ามาช้าๆ เราดูแลทัน
- อัตราการตายจะน้อย
- ถ้าเป็นไปได้
- ก็ไม่อยากให้ตายเลย
.
ทีนี้หากเราเดินทางไปยัง
- ประเทศที่อยู่ในเฟส 3 ดังกล่าว
บุคลากรที่ต้องมาคัดกรองมีน้อย
- เป็นการเพิ่มงานให้เค้าเปล่าๆ
- การคัดกรอง
- ไม่จบแค่สนามบินนะครับ
- เค้าต้องส่งคน
- มาติดตามอีก 14 วัน
.
สมมุติผมเดินทาง
- กลับมาจากญี่ปุ่น
- แล้วมีอาการไข้
- แน่นอน ผมต้องโดนกัก
- ที่โรงพยาบาลดูอาการ 14 วัน
แต่ถ้าผม
- ไม่มีอาการอะไรเลยหล่ะ
- ทำยังไง
ผมต้องนั่งให้สัมภาษณ์ว่า
- ไปไหนมาบ้าง
- ทำอะไรมาบ้าง
- จากนั้นผมก็กลับบ้าน
- โดยต้องแยกตัว
- ไม่สุงสิง ไม่ไปทำงาน
- ไม่ยุ่งกับใคร เป็นเวลา 14 วัน
โดยระหว่างนี้
- เค้าก็จะส่งคนมาตรวจดู
- ว่าเรากักตัวเองไหม.
ที่ทำแบบนี้เพราะ
- มีคนที่ติด
- แต่ไม่แสดงอาการไงครับ
- มันสามารถแพร่เชื้อได้
สมมติ
- ผมไม่ทำตามที่เค้าบอก
- ยังไปทำงาน ยังไปดูหนัง
- แต่ตัวเองติดเชื้อ
- แล้วไม่มีอาการ
- จะเกิดอะไรขึ้น
- คนอื่นจะติดไปด้วยครับ
และตอนนั้นแหละ
- บรรลัย แน่นอน
- เฟส 3 มา แน่นอนครับ
.
ที่กังวลอีกอย่างนึง
- นักเดินทาง ส่วนใหญ่
- อายุประมาณ 25-50 ปี ไงครับ
- ร่างกายค่อนข้างแข็งแรง
- ถึงติดมา ก็ไม่แสดงอาการอะไร
แต่ถ้ากลับบ้านอย่าลืมว่ามี
- พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตายาย รออยู่นะครับ
- เราเป็นพาหะ
- แล้วติดคนเหล่านั้น
- คุณจะเสียใจไปตลอดชีวิตนะครับ
.
สรุป
- ถ้าคุณเป็นพาหะกลับมา
- ติดคนแก่ที่บ้าน อายุ 50 ปีขึ้นไป
- หรือคนที่มีโรค
- ความดันโลหิตสูง
- โรคหัวใจ
- โรคทางเดินหายใจ
- โรคมะเร็ง
คนเหล่านี้อัตราการตายสูงมาก และอาจจะเป็นการเร่งให้ไทยเข้าสู่เฟส 3 เร็วขึ้น
- เราอยากให้ไทย
- เข้าสู่เฟส 3 ให้ช้าที่สุด
เนื่องจากปัจจุบัน
- รพ. ธรรมดาก็คนล้น
- นอนกันริมระเบียง
- นอนกันบนทางเดินอยู่แล้ว
ถ้ามันเฟส 3 ขึ้นมา บอกเลย
- ตายกันเยอะแน่นอน
- #เพราะบุคลากรดูแลไม่พอครับ
- เห็นใจ คนปฏิบัติงานด้วย
- เพราะคนมีน้อย
- ต้องทำงาน 24 ชั่วโมง
- แถมต้องเสี่ยงกับไวรัสนี้อีก
- เค้าก็มีครอบครัวต้องดูแล เหมือนกัน
.
แต่ถ้าคุณตัวคนเดียว อยู่คนเดียว และลางานต่อได้อีก 14 วัน หลังจากคุณกลับมาจากเที่ยว และคุณพร้อมที่จะกักตัวเองอยู่ในบ้าน ไม่ไปไหน ก็ไปเที่ยวได้ครับ
จบแล้ว.. .
<< ข้อมูลที่เกี่ยวไวรัสโควิค 19 (Covid 19) >>
- สรุปสถานการณ์ไวรัส Covid19 : 23 ก.พ 2563
- เหตุการณ์ไวรัสโควิค 19 สายการบินยกเว้นค่าธรรมเนียม ยกเลิกFlight เลื่อนFlight บินประเทศกลุ่มเสี่ยง
- สาเหตุและวิธีป้องกัน! ไวรัสโคโรน่า-covid19
- อาการเบื้องต้นของผู้ติดเชื่อไวรัส Covid (โคโรน่า)
- รพ.บีแคร์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ชีแจ้งพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 (COVID 19)
- นั่งเครื่องบินเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนาหรือไม่ ?
<< ข้อมูลขอเลื่อนการเดินทางและสายการบิน คลิกอ่านราละเอียดที่นี้ >>

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19
- 22 ก.พ. 63 ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ มอบข้อเสนอยกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยน หรือทางเลือกใหม่ “การเก็บวงเงินไว้ใช้” สำหรับผู้โดยสารเดินทางประเทศเกาหลีใต้เเละญี่ปุ่น
- การบินไทยยกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินและคืนบัตรโดยสารกรณีไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาด
- รวมสายการบินที่ยกเว้นค่าธรรมเนียม เลื่อนตั๋ว ฯลฯเหตุการณ์ไวรัส COVID-19
เคส : การเดินทางไปประเทศเสี่ยง



รายชื่อร.พ.ที่รับตรวจเชื้อไวรัส COVID-19 และค่าบริการ
ทั้งนี้แต่ละโรงพยาบาลมีค่าใช้จ่ายในการตรวจจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของการติดเชื้อหรือของผู้มาตรวจ

ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข อธิบายเพิ่มเติม ถึงกรณีค่าใช้จ่ายในการรักษาหรือตรวจสุขภาพกรณีป่วยติดเชื้อฯ กรณีขอตรวจหาเชื้อผ่านโรงพยาบาลเอกชน ถ้าคนคนนั้นไม่มีอาการป่วย ไม่มีประวัติเสี่ยงใดๆเลย แต่ต้องการขอตรวจหาเชื้อเพื่อความสบายใจ อาจต้องเสียค่าใช้จ่าย ส่วนโรงพยาบาลรัฐ หากปรึกษาแพทย์จะมีคำแนะนำและรักษาตามสิทธิ์
“หากประชาชนมีอาการป่วยสงสัยจะติดเชื้อหรือไม่ พิจารณาจากประวัติการเดินทาง ไปในพื้นที่เสี่ยงระบาดมา มีการสัมผัสนักท่องเที่ยวกลุ่มเสี่ยง และเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคของกระทรวงสาธารณสุข กลุ่มนี้สามารถเข้ารับการรักษาตามสิทธิได้ เช่น สิทธิบัตรทอง 30 บาท สิทธิประกันสังคม ประกันชีวิตถ้าได้ทำประกันไว้”
กรณีขอตรวจหาเชื้อผ่านโรงพยาบาลเอกชน หากไม่ได้ส่งตัวอย่างเชื้อผู้ป่วยมาตรวจกับ “เครือข่ายห้องปฏิบัติการของกระทรวงสาธารณสุข 13 แห่ง” ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเอง แต่หากโรงยาบาลเอกชนดังกล่าวส่งตรวจเชื้อมายังส่วนกลาง 13 แห่ง เนื่องจากอาจจะเข้าข่ายต้องสงสัย ผู้ป่วยรายนั้นก็จะไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ผู้ป่วยอาจต้องเสียค่ารักษาพยาบาล ค่าอุปกรณ์ ของโรงพยาบาลตามปกติ และหากผลตรวจจากห้องปฏิบัติการยืนยันเป็นลบ คือ ติดเชื้อไวรัสโคโรนา จะถูกนำตัวเข้าสู่ระบบการรักษาทันที โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
?? สรุปยอดผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่น ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2020
? ยอดรวม 850 คน (จากเรือ 691 คน)
◾ รักษาหาย 24
◾ เสียชีวิต 4 (จากเรือ 3 คน)
.
⭕ แยกรายจังหวัด
◾ โตเกียว 32
◾ ฮอกไกโด 30
◾ คานากาวะ 17
◾ ไอจิ 17
◾ วากายามะ 13
◾ ชิบะ 10
◾ อิชิคาวะ 4
◾ โอกินาวะ 3
◾ คุมาโมโตะ 3
◾ ฟุกุโอกะ 2
◾ เกียวโต 2
◾ ไซตามะ 1
◾ โทชิงิ 1
◾ มิเอะ 1
◾ นารา 1
ยืนยันในเขตคันไซ (โอซากา มิเอะ เฮียวโกะ วากายามะเกียวโต นารา ชิกะ) รวม 17 ราย
เฟซบุ๊ก สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา タイ王国大阪総領事館 ได้เผยแพร่ข้อความเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะในเขตพื้นที่คันไซ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อแล้วรวม 17 ราย โดยสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากาได้ให้คำแนะนำต่อคนไทยดังนี้
“ตามที่ได้เกิดการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ในประเทศญี่ปุ่น และมีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันในเขตคันไซ (โอซากา มิเอะ เฮียวโกะ วากายามะเกียวโต นารา ชิกะ) รวม 17 ราย (วากายามะ 12 ราย เกียวโต 2 ราย โอซากา มิเอะ และนาระ แห่งละ 1 ราย) นั้น

สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ แจ้งพัฒนาการสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิค 19 (COVID-19) – 25/02/63





เกาหลีใต้ ยกระดับเจือนภัยไวรัส Covid-19 เป็นระดับสูงสุด


อุธาหรณ์ หรือตัวอย่างของ เฟส 3 ในเกาหลีใต้ ติดเชื้อไวรัส และไม่ยอมเข้าตรวจ ฉายา ป้ามหาภัยจอมแพร่เชื้อ
ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของเกาหลีใต้ล่าสุด (22 ก.พ. เวลา 16.00 น.) อยู่ที่ 433 คน โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ที่เมืองแทกู

สรุปข่าว…ป้ามหาภัยจอมแพร่เชื้อ :

1- “ป้าคิม” (นามสมมุติ) หญิงเกาหลีใต้วัย 61 ปี อาศัยอยู่ในเมืองแทกู (ห่างจากกรุงโซลประมาณ 240 กม.) เมืองนี้เป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ
2- ป้าคิมเป็นสาวกของ “ลัทธิชินชอนจิ” (Shincheonji) ซึ่งคนในลัทธินี้ถูกสอนให้เชื่อว่าความศรัทธาจะทำให้ชีวิตเป็นอมตะ อาการป่วยคือบาป ส่วนคนที่ตายนั้นเป็นเพราะยังศรัทธาไม่เพียงพอ
3- สาวกของลัทธิจะไปรวมตัวกันที่โบสถ์ชินชอนจิเพื่อทำพิธีกรรมทางศาสนา โดยในการทำพิธีนั้น สาวกต้องอยู่ใกล้กันในระยะประชิดมากและร่วมกันสวดภาวนา โดยการสวดจะต้องเปล่งเสียงให้สุดคล้ายการตะโกนใส่กัน
4- วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ป้าคิมประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
5- ระหว่างนั้นป้าไม่สบาย มีอาการคล้ายไข้หวัด หมอเอ็กซเรย์พบว่าปอดบวม จึงขอตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ป้าไม่ยอม เพราะไม่อยากถูกกักตัว
6- ป้าตระเวนไปหาหมอที่โรงพยาบาลอื่นอีก 2 แห่งเพื่อรักษาอาการปอดบวม แต่ปฏิเสธแข็งขันที่จะไม่ตรวจเชื้อโควิด-19 และยืนยันว่าตนไม่เคยเดินทางไปจีน
7- ในระหว่างนั้นป้าก็ใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่ใส่หน้ากากอนามัยใด ๆ ไอจามมันไปอย่างนั้น ป้าไปชอปปิ้งที่ห้าง ไปขึ้นรถสาธารณะ ไปงานแต่ง ไปกินบุฟเฟต์โรงแรม รวมทั้งไปทำพิธีกรรมที่โบสถ์ร่วมกับสาวกอีกพันกว่าคน
8- ในที่สุดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ป้าอาการทรุดลงจึงยอมตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 และผลออกมาว่าป้าคือผู้ติดเชื้อรายที่ 31 ของประเทศ
9- เจ้าหน้าที่ต้องสืบสาวกันอย่างโกลาหลว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาป้าเคยไปพบเจอปฏิสัมพันธ์กับใครมาบ้าง ซึ่งก็พบว่ามีคนที่ป้าเกี่ยวข้องด้วยเป็นพันคน จึงทยอยนำตัวมาตรวจและกักโรค
10- จากนั้นยอดผู้ติดเชื้อของเกาหลีใต้ก็เพิ่มขึ้นพรวดพราดจากหลักสิบเป็นหลักร้อย ส่วนใหญ่เป็นคนที่เคยเกี่ยวข้องกับป้า เช่น เคยรักษาตัวที่โรงพยาบาลเดียวกัน ไปโบสถ์เดียวกัน ไปงานแต่งเดียวกัน สื่อเลยมอบฉายาให้ป้าว่า “จอมแพร่เชื้อ” (Super Spreader)
11- พฤติกรรมของป้าส่งผลกระทบไปหมดทั้งประเทศ โบสถ์ชินชอนจิถูกสั่งปิดทุกสาขา ห้างที่ป้าเคยไปเดินก็ต้องปิดกิจการชั่วคราวแล้วปฏิบัติการฆ่าเชื้อขนานใหญ่
12- เมืองแทกูถูกประกาศให้เป็นเขตควบคุมโรค ชาวแทกูกว่า 2.5 ล้านคนหวาดผวาและเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน เมืองทั้งเมืองแทบกลายเป็นเมืองร้าง
13- นอกจากนี้ยังพบว่าเมื่อปลายเดือนมกราคม 2563 ป้าไปกรุงโซลและเดินทางไปที่ต่าง ๆ โดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ แล้วยังขึ้นแท็กซี่ไป 5 คัน รวมทั้งไปชอปปิ้งตามห้างด้วย ห้างเหล่านั้นจึงต้องปิดไปตามระเบียบ
14- มีข่าวออกมาว่าทางโบสถ์ชินชอนจิไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร มีการสั่งสาวกไม่ให้บอกความจริงว่าเคยไปโบสถ์มา หรือไม่ให้ยอมรับว่าเป็นสาวก เพื่อปกป้องชื่อเสียงของลัทธิ
15- สำหรับยอดผู้ติดเชื้อสะสมของเกาหลีใต้ล่าสุด (22 ก.พ. เวลา 16.00 น.) อยู่ที่ 433 คน โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ที่เมืองแทกู…ถิ่นป้าแก
ขอบคุณที่นำมาแชร์ เพื่อตระหนักรู้ร่วมกัน เคสกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง


ค่ารักษาและตรวจ Covid19

