แจงเหตุ ใช้งบ “บัตรทอง” จ่ายเงินเดือนขรก.บรรจุใหม่ สู้กับโควิด 19 ไม่มีการแตะสิทธิ์ใดๆ ของประชาชน

สธ. เผย นำงบบัตรทองใช้เป็นเงินเดือนและค่าตอบแทน สำหรับจ่าย ขรก.บรรจุใหม่ 45,684 ตำแหน่ง ทั้งนี้ รัฐบาลเตรียมงบ 45,000 ล้าน สู้กับโควิด 19

23 เม.ย.63 นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มาตรา 46 (2) ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายของหน่วยบริการในส่วนเงินเดือนและค่าตอบแทนบุคลากร รัฐบาลได้นำงบค่าใช้จ่ายรายหัวส่วนนี้มาใช้เป็นเงินเดือนค่าตอบแทนของข้าราชการบรรจุใหม่ 45,684 ตำแหน่ง เพื่อรับมือสถานการณ์โรคโควิด-19 นั้น ช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้บุคลากรสาธารณสุขที่ร่วมต่อสู้กับโรคโควิด-19 ในครั้งนี้
.
นายแพทย์สุขุม กล่าวว่า รัฐบาลได้สนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข และ สปสช.โดยได้จัดสรรงบกลางปี 2563 ครั้งที่ 1 จำนวน 1,233 ล้านบาท และรอบ 2 จำนวน 5,488 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นของ สปสช. 3,260 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังสนับสนุนงบกลางเพื่อจัดหาหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 และชุดป้องกันส่วนบุคคล (PPE) จำนวน 1,551 ล้านบาท เพื่อใช้ในสถานการณ์โควิด 19

และรัฐบาลยังได้เตรียมไว้สนับสนุนอีกกว่า 45,000 ล้านบาท ขอยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้ ทำให้บุคลากรกระทรวงสาธารณสุขมีขวัญกำลังใจมากขึ้น สามารถลดภาระเงินบำรุงของหน่วยบริการอีกด้วย และมีการจัดนวัตกรรมในการดูแลรักษาผู้ป่วย เช่น การส่งยาให้ผู้ป่วยที่บ้านผ่าน อสม. การขยายบริการปฐมภูมิ เพื่อประชาชนจะได้ประโยชน์จากการได้รับบริการจากโรงพยาบาลมากขึ้น
.
นอกจากนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลให้การสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม ในการจัดบริการประชาชนให้กับกระทรวงสาธารณสุข และ สปสช. อย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี เช่นปี 2561 สปสช. ได้รับการสนับสนุน 5,186 ล้านบาท ปี 2562 จำนวน 5,000 ล้านบาท ทำให้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขไม่มีปัญหาวิกฤตทางการเงินระดับ 7 ในไตรมาส 2 นี้ (มีนาคม 2563) หากงบประมาณที่ใช้ในการบริการประชาชนไม่เพียงพอ รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนเพิ่มเติม เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่ดีที่สุด

ชี้แจงชัดเจนแล้วว่าไม่มีการแตะสิทธิ์ใดๆ ของประชาชน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติตัดงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ “บัตรทอง” นั้น
นายอนุทิน ย้ำว่า เรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว ทางทำเนียบรัฐบาล โฆษกรัฐบาล ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ชี้แจงชัดเจนแล้วว่าไม่มีการแตะสิทธิ์ใดๆ ของประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องของการบริหารจัดการภายใน การบริหารบัญชี ประชาชนไม่ต้องกังวล ไม่มีสิทธิ์ใดๆ ของประชาชนแม้แต่นิดที่ถูกนำออกไป ขอให้เชื่อมั่นในระบบการสาธารณสุขของประเทศนี้ไม่มีใครไปแตะต้องอยู่แล้ว.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง