ททท. เสนอเตรียม ศบค. เคาะ 17 ก.ย. เปิดประเทศ 120 วัน เป็นระยะ แบบไม่กักตัว ฉีดวัคซีน 70%
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผย แผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามนโยบายเปิดประเทศใน 120 วัน ของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินหน้าแผน
สรุปสั้นๆ กระชับๆ เป็นระยะๆ เสนอศบค.พิจารณา
ระยะที่ 1
เรียบร้อยแล้ว ประกอยด้วย
- Phuket Sandbox นำร่อง , เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ ภูเก็ต
- เขาหลัก จังหวัดพังงา
- เกาะพีพี เกาะไหง และหาดไร่เลย์ จังหวัดกระบี่
- เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี
“สมุย พลัส โมเดล” ททท.ทำการตลาดยาก มีนักท่องเที่ยวเข้าน้อย จึงจะเสนอ ศบศ.ปรับโครงการนี้เป็นการเที่ยวแบบไม่กักตัว แต่อยู่ในพื้นที่ที่จำกัด (Sealed Area) และเปลี่ยนชื่อเป็น “สมุย พลัส แซนด์บ็อกซ์” ประกอบด้วย เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า
แผนระยะที่ 2
แผนระยะที่ 2 แผนเปิด 1 ตุลาคมนี้ มี 4 จังหวัดที่พร้อมเปิดตามแผน ให้มีหลักการปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกัน (One SOP One System) เพื่อต่อยอดความสำเร็จจากภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และมีผลตรวจหาเชื้อโควิดด้วยวิธี RT-PCR มีผลเป็นลบไม่ติดเชื้อ สามารถท่องเที่ยวได้ไม่ต้องถูกกักตัว ในรูปแบบของ Sealed Area หรือเที่ยวในพื้นที่ที่จำกัด ได้แก่
- จังหวัดชลบุรี (พัทยา อำเภอบางละมุง อำเภอสัตหีบ)
โครงการ “พัทยา มูฟออน”เดิมทำแบบ Sealed Route ก็จะปรับเป็น Sealed Area - จังหวัดเชียงใหม่ (อำเภอเมือง อำเภอแม่แตง อำเภอแม่ริม อำเภอดอยเต่า)
เดิมเชียงใหม่ทำหลักการปฏิบัติ หรือ SOP เป็นการเที่ยวผ่านบริษัททัวร์และอยู่ในเส้นทางที่กำหนด (Sealed Route) โดยจัดทำมา 14 เส้นทาง ก็ต้องปรับใหม่เป็นการเที่ยวแบบอิสระ แต่อยู่ในพื้นที่ที่กำหนด - จังหวัดเพชรบุรี (ชะอำ) เป็น Sealed Area
- จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) เป็น Sealed Area
ส่วน กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เลื่อนออกไปเปิดรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 15 ตุลาคมนี้แทน รอความพร้อมในด้านการฉีดวัคซีนให้คนในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นก่อน แต่มีกรณีเชื่อมต่อจังหวัดปริมณฑลที่ยังฉีดไม่ครบ
ฉีดวัคซีนครบ 70 % เตรียมแผนเปิดท่องเที่ยว จะไม่มีการกักตัว
ซึ่งหากมีการฉีดวัคซีนให้คนในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 70% ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ แผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะถัดไปนั้น กำหนดว่าทุกพื้นที่ที่เปิดนำร่อง ‘จะไม่มีการกักตัว’ นักท่องเที่ยวในห้องพัก หากตรวจหาเชื้อภายในสนามบินเมื่อถึงประเทศไทยแล้วพบว่าไม่มีเชื้อโควิด ก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทันที เป็นการนำหลักการของ Phuket Sandbox มาใช้ในพื้นที่ เพื่อเป็นรูปแบบการเปิดประเทศต่อไป
นอกจากนี้ยังเสนอให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเที่ยวชลบุรี ในลักษณะ 7+7 ทั้งรูปแบบท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ครบ 7 วันแรกแล้วมาเที่ยวชลบุรี 7 วันหลัง หรือท่องเที่ยว 7 วันแรกที่ชลบุรี แล้วไปต่อที่ภูเก็ตใน 7 วันหลัง เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางและเพิ่มความหลากหลายให้กับพื้นที่การท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ด้วยการเชื่อมโยง 9 จังหวัดที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะที่ 1-2 ด้วย
แผนระยะที่ 3
แผนระยะที่ 3 จะเริ่มในวันที่ 15 ตุลาคม 2564 มี 25 จังหวัด การดำเนินทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้ความพร้อมของผู้ว่าราชการจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และหลายคนในพื้นที่เห็นชอบด้วย ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สำคัญที่สุด ประกอบด้วย
- ภาคเหนือ ได้แก่ ลำพูน แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน เชียงราย สุโขทัย
- ภาคอีสาน ได้แก่ อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ อุบลราชธานี เลย (เชียงคาน) ขอนแก่น นครราชสีมา
- ภาคตะวันตก ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี
- ภาคตะวันออก ได้แก่ ระยอง จันทบุรี ตราด
- ภาคกลาง ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา
- ภาคใต้ ได้แก่ นครศรีธรรมราช ระนอง ตรัง สตูล สงขลา พัทลุง
แผนระยะที่ 4
ส่วนระยะที่ 4 กำหนดในวันที่ 1-15 มกราคม 2565 เปิดพื้นที่จังหวัดติดชายแดนเพื่อนบ้าน ท่องเที่ยวระหว่างกันในรูปแบบการจับคู่ท่องเที่ยวระหว่างกัน (Travel Bubble) ได้แก่
- กัมพูชา เชื่อมกับจังหวัดสุรินทร์ (ช่องจอม) สระแก้ว (อรัญประเทศ) ตราด (เกาะกง)
- พม่า เชื่อมกับจังหวัดเชียงราย (ท่าขี้เหล็ก) ตาก (แม่สอด) ระนอง (เกาะสอง)
- ลาว เชื่อมกับจังหวัดนครพนม หนองคาย มุกดาหาร
- มาเลเซีย เชื่อมกับจังหวัดยะลา (เบตง) นราธิวาส (สุไหงโก-ลก) สงขลา (ด่านนอก ปาดังเบซาร์) สตูล (วังประจัน)