ปรับเงื่อนไข! โครงการจ้างงานเด็กจบใหม่

ล่าสุด ปรับเงื่อนไข! โครงการจ้างงานเด็กจบใหม่ “อยู่ในระบบประกันสังคมหรือไม่ก็ได้”

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

โครงการจ้างงานเด็กจบใหม่โดยภาครัฐและเอกชน (Co-Payment) เพิ่มโอกาสให้ผู้จบการศึกษาใหม่มีงานทำมากขึ้น
.

รัฐบาลได้ปรับคุณสมบัติของผู้ที่จะร่วมโครงการ จากเดิมต้องไม่อยู่ในระบบประกันสังคม
เป็นจะอยู่ในระบบประกันสังคมหรือไม่ก็ได้ ต้องมีสัญชาติไทย และจบการศึกษาตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป
.

ช่วยปลดล็อกให้เด็กจบใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงาน และอยู่ในระบบประกันสังคมมาแล้ว 1 – 6 เดือน
แต่ต้องออกจากงานโดยที่ยังไม่ผ่านการทดลองงาน เพราะนายจ้างได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19

รวมถึงเป็นการเตรียมรองรับนักศึกษาจบใหม่อีกกว่า 400,000 คน ในปี 2564 นี้ด้วย

นอกจากนี้ ยังได้ขยายเวลาโครงการไปจนถึง 31 ธ.ค. 64 โดยเด็กจบใหม่มีสิทธิ์ร่วมโครงการ 1 ครั้ง/คน และจะได้รับการจ้างงานสูงสุด 12 เดือน
.

สำหรับนายจ้าง จะต้องให้ค่าจ้างไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัด ตามประกาศ คกก. ค่าจ้าง โดยรัฐจะอุดหนุนเงินเดือน ไม่เกิน 50%/คน/เดือน

อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ

– ปริญญาตรี ไม่เกิน 7,500 บ./เดือน
– ปวส. ไม่เกิน 5,750 บ./เดือน
– ปวช. ไม่เกิน 4,700 บ./เดือน
– ม.6 ไม่เกิน 4,345 บ./เดือน

Job Expo Thailand 2020

ผู้จบการศึกษาใหม่ที่กำลังมองหางาน สามารถเข้าร่วมงาน Job Expo Thailand 2020 ที่จัดขึ้นโดยกระทรวงแรงงาน ระหว่างวันที่ 26 – 28 ก.ย. 2563 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กทม. Hall EH 98 – 99 และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ www.จ้างงานเด็กจบใหม่ .com

รัฐบาลมุ่งส่งเสริมมาตรการช่วยเหลือบัณฑิตจบใหม่ที่ว่างงานจากผลกระทบของโรคโควิด-19 โดยสนับสนุนเงินสมทบให้กับนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการที่จ้างงานนักศึกษาจบใหม่ระยะสั้น 1 ปี ในรูปแบบ “ร่วมจ่าย” หรือ co-payment ระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยรัฐจะจ่ายเงินสบทบให้กับนายจ้างไม่เกิน 50% ของค่าจ้าง ซึ่งผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ จะต้องมีฐานข้อมูลรายชื่ออยู่ในระบบประกันสังคม รวมทั้งมีการยืนยันตัวตนผ่านกระทรวงแรงงาน ไม่น้อยกว่า 1 ปี และที่ผ่านมาต้องไม่เคยเลิกจ้างลูกจ้างเกิน 15%

สำหรับมาตรการดังกล่าว มีเป้าหมายรองรับนักศึกษาจบใหม่ที่ว่างงานจำนวน 260,000 คน ซึ่งมีระยะเวลาในการจ้างงาน 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 63 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 64 ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณจากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19 จำนวน 23,476 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขในการจ้างงาน คือ เป็นนักศึกษามีสัญชาติไทยและไม่เคยอยู่ในระบบประกันสังคมมาก่อน อายุไม่เกิน 25 ปี หรือหากอายุเกินกว่า 25 ปี ต้องเป็นผู้จบการศึกษาประจำปีการศึกษา พ.ศ. 2562 หรือ พ.ศ. 2563 เป็นต้น

บริษัทยักษ์ใหญ่ให้ความร่วมมือมี ปตท., การ, ไฟฟ้า, การประปา และบริษัทเอกชน อาทิ SCB, เครือ CP, Tesco Lotus, BigC ไปจนถึงเครือสหพัฒน์

ตำแหน่งงานส่วนใหญ่ อาทิ ฝ่ายขาย , พนักงานส่งของ, ช่างเทคนิค มี สัญญาจ้าง 1 ปี เพราะได้รัฐจะช่วยจ่ายเงินสมทบให้นายจ้าง 50% ของเงินเดือนตามวุฒิการศึกษา แต่ไม่เกิน 7,500 บาท เป็นระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน เป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่ ตุลาคม 2563 – ตุลาคม 2564

จูงใจเอกชนให้มาร่วมมือกับรัฐบาลในรูปแบบ “ร่วมจ่าย” หรือ co-payment

จะมีมาตรการจูงใจเอกชนให้มาร่วมมือกับรัฐบาลในรูปแบบ “ร่วมจ่าย” หรือ co-payment จะสะดวกและรวดเร็วกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือและจัดทำรายละเอียดจำนวนผู้ตกงาน จำนวนผู้เดือดร้อนที่แน่นอน โดยมาตรการดูแลคนตกงานจะมีมาตรการภายใต้เงินงบประมาณปี 2564 และมาตรการภายใต้ พ.ร.ก.เงินกู้ ในส่วนของการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 400,000 ล้านบาท คาดว่าจะรวบรวมความต้องการแรงงานในอนาคตได้หลักล้านตำแหน่ง ซึ่งจะว่าจ้างในระยะสั้น 12 เดือน แต่ก็ต้องมีภาคเอกชนเข้ามาร่วมโครงการกันด้วย

นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า มาตรการการจ้างงานสำหรับเด็กจบใหม่โดยรัฐบาลสมทบจ่ายกับนายจ้าง เป็นระยะเวลา 1 ปี (ต.ค.2563-ต.ค.2564) เพื่อสนับสนุนการจ้างงานผู้จบการศึกษาใหม่ใน 3 กลุ่ม คือ ระดับปริญญาตรี ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) รวม 260,000 อัตรา

จ้างงานสำหรับเด็กจบใหม่ โดยรัฐบาลสมทบจ่ายกับนายจ้าง

มาตราการการจ้างงานสำหรับเด็กจบใหม่ โดยรัฐบาลสมทบจ่ายกับนายจ้าง เป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่ เดือน ต.ค. 2563 – ต.ค.2564

รัฐบาลจะจ่ายเงินสมทบให้กับนายจ้างไม่เกิน 50% ของค่าจ้าง

– ปริญญาตรีจ่ายเงินสมทบไม่เกิน 7,500 บาท,

– ปวส.จ่ายไม่เกิน 5,550 บาท

– ปวช. ไม่เกิน 4,700 บาท

ตลอดทั้งปีนายจ้างต้องไม่ลดการจ้างงานเกิน 15%

จัดงาน job expro ภายในเดือน ก.ย.

นอกจากนี้ยังจะมีการ จัดงาน job expro ภายในเดือน ก.ย.นี้ มีตำแหน่งงานว่างกว่า 1 ล้านอัตรา

วัตถุประสงค์หลัก

เพื่อสนับสนุนการจ้างงานผู้จบการศึกษาใหม่ใน 3 กลุ่ม ได้แก่ ระดับปริญญาตรี ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) รวมจำนวน 260,000 อัตรา วงเงินรวม 2.3 หมื่นล้านบาทฃ

อัตราค่าจ้าง ตามวุฒิการศึกษา

อัตราค่าจ้าง ตามวุฒิการศึกษา ดังนี้

– ปริญญาตรี เดือนละ 15,000 บาท

– ประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) เดือนละ 11,500 บาท

– ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เดือนละ 9,400 บาท

ซึ่งรัฐบาลจะให้การสนับสนุนเงินค่าจ้าง ร้อยละ 50 ของเงินเดือนตามวุฒิการศึกษา สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาทต่อคนต่อเดือน

ทั้งนี้ อยู่ภายใต้ เงื่อนไขสำคัญ คือ

– นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการจะต้องอยู่ในระบบประกันสังคม มีการยืนยันตัวตนผ่าน กระทรวงแรงงาน และ

– ต้องมีเงื่อนไขเลิกจ้างลูกจ้างเดิมไม่เกินกว่าร้อยละ 15 ภายในระยะเวลา 1 ปี (กรณีที่ลูกจ้าง ลาออกในระหว่างโครงการ นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการสามารถหาลูกจ้างใหม่ทดแทนได้)

คุณสมบัติลูกจ้างซี้งเป็นนักศึกษาจบใหม่

ลูกจ้างที่จะเข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

1. มีสัญชาติไทย และ

2. อายุไม่เกิน 25 ปี หรืออายุเกิน กว่า 25 ปี ซึ่งสาเร็จการศึกษาในปี 2562 หรือปี 2563

นายก ฯ post facebook

2 ก.ย. 63 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้โพสต์ข้อความผ่านทางแฟนเพจ ระบุว่า เมื่อช่วงเช้าผมเข้าประชุม ศบศ. และได้เห็นชอบเรื่องสำคัญหลายเรื่องครับ ทั้งหมดจะเร่งให้เข้าที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาและสรุปรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งครับ

โดยมีการระบุว่า เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการจ้างงาน สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ ตั้งแต่ระดับ ป.ตรี, ปวส. และปวช. จำนวน 260,000 อัตรา โดยมีอัตราค่าจ้างตามวุฒิการศึกษา 9,400-15,000 บาท/เดือน โดยวางกรอบระยะเวลาการจ้างงาน 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha

ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการ

แจงขั้นตอนเข้าร่วมโครงการ 4 ขั้นตอนดังนี้
1.การลงทะเบียนนักศึกษาจบใหม่ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ เข้าลงทะเบียนในระบบ Co-payment บันทึกข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมแนบTranscript ในส่วนของนายจ้างและสถานประกอบการ เข้าลงทะเบียนในระบบ Co-payment แจ้งตำแหน่งงานว่างและจำนวนลูกจ้างที่ต้องการรับเข้าทำงาน
2.การตรวจสอบเอกสารข้อมูลเข้าร่วมโครงการ ระบบจะทำการตรวจสอบ Transcript ของผู้สมัคร และสถานประกอบการนั้นๆ ว่าอยู่ในระบบของสำนักงานประกันสังคมหรือไม่ หากตรงตามเงื่อนไข จึงอนุมัติเข้าร่วมโครงการ
3.การ Matching งาน สำหรับนายจ้าง/สถานประกอบการเมื่อลงทะเบียนในระบบเรียบร้อยแล้ว สามารถค้นหาผู้สมัครงานในตำแหน่งที่ต้องการ เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจ้างงานกันแล้ว ให้ Download สัญญาจ้างเพื่อลงลายมือชื่อร่วมกัน และ upload สัญญาจ้างเข้าระบบอีกครั้ง 4.เจ้าหน้าที่กรมการจัดหางานตรวจสอบเอกสารสัญญาจ้าง หากถูกต้องจึงอนุมัติผลการจ้างงาน เป็นระยะเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ไปถึงวันที่ 30 กันยายน 2564

สำหรับนายจ้าง/สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องจ่ายเงินค่าจ้างร้อยละ 50 ตามระดับการศึกษาให้กับลูกจ้าง ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และแจ้งข้อมูลการจ่ายเงินให้ลูกจ้าง พร้อมส่งหลักฐานให้กรมการจัดหางานภายในวันที่ 1 ของเดือนถัดไป

และกรมการจัดหางานจะเป็นผู้โอนเงินค่าจ้างร้อยละ 50 ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เข้าบัญชีลูกจ้างโดยตรงภายใน 5 วันทำการ หลังจากได้รับแจ้งหลักฐานจากนายจ้าง/สถานประกอบการแล้ว 

 สนใจสมัครงาน “www.ไทยมีงานทำ.com”  และ www.จ้างงานเด็กจบใหม่.com

กระทรวงแรงงาน ฯ โดยกรมการจัดหางาน ได้เปิดเว็บไซต์  www.ไทยมีงานทำ.com 

สำหรับให้นักศึกษาจบใหม่ และผู้ประกอบการลงทะเบียนในโครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่โดยภาครัฐและภาคเอกชน ของกรมการจัดหางาน โดยมีเป้าหมายจ้างงานนักศึกษาจบใหม่ 2.6 แสนอัตรา โดยเปิดเว็บไซต์ www.จ้างงานเด็กจบใหม่.com

เปิดเว็บไซต์ www.จ้างงานเด็กจบใหม่.com

ขั้นตอนการลงทะเบียน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง