สวนลำไย รับเงินเยียวยา ไร่ละ 2,000 บาท เช็คสิทธิ์ก่อน ธกส.จ่ายภายใน 15 ต.ค. – 15 ธ.ค.63นี้

Timeline : จาก infographic :
– 15 ต.ค. 2563 กรมส่งเสริมการเกษตร
ปิดระบบส่งข้อมูลผู้ได้รับสิทธิ์เยียวยา
– 19 ต.ค.2563 ธกส. รับข้อมูลผู้ได้รับสิทธิ์เยียวยา
– 21 ต.ค. 63 เป็นต้นไป โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝาก
เกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์

Timeline info ธกส. รับข้อมูล 19 ต.ค. โอนเงิน 21 ต.ค. 63 /
ที่มา : กลุ่มงานการบริหารการโอนเงินภาครัฐ ฝ่ายกิจการนโยบายภาครัฐ
http://www.lamphun.doae.go.th/

15 ต.ค. 63 15 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมต.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมส่งรายชื่อเกษตรกรให้ ธ.ก.ส. ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 15 ธันวาคม 63

ด้านกรมส่งเสริมฯ แนะนำเกษตรกรให้ปรับปรุงสมุดบัญชีของ ธ.ก.ส.ให้เป็นปัจจุบันอีกทางหนึ่งด้วย

การประชุมคกก.บริหารโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 จ.เชียงราย

วันพุธที่ 14 ตุลาคม 2563 เวลา 13.30 น. นายธรรมนูญ แจ่มศรี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 จังหวัดเชียงราย ณ ห้องประชุมพวงแสด ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 เป็นรายอำเภอ
ซึ่งมีเกษตรกรจาก 18 อำเภอของจังหวัดเชียงรายเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 34,961 ครัวเรือน จำนวนแปลง 49,061 แปลง พื้นที่ 219,137.87 ไร่ / ที่มา

“เชียงใหม่ อนุมัติโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไยไร่ละ2,000บาท”

8 ตุลาคม 2563 เวลา 09.30 น. นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 ระดับจังหวัด เพื่อให้ความเห็นชอบแก่เกษตรกรที่ผ่านการรับรองสิทธิ์จากคณะกรรมการ ระดับอำเภอ เพื่อดำเนินการโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 โดยช่วยเหลือเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร ตามมติคณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 เห็นชอบโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 ทุกครัวเรือนทั่วประเทศประมาณ 200,000 ครัวเรือน พื้นที่ไม่เกิน 1,200,000 ไร่ และเป็นพื้นที่ลำไยที่ให้ผลผลิตแล้ว(อายุต้นลำไยตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป) โดยให้ความช่วยเหลือในอัตราไร่ละ 2,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่
นางเขมวรรณ ดวงจันทร์ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าสำหรับจังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวนเกษตรกรผู้ปลูกลำไยตามฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกร 68,595 ครัวเรือน พื้นที่ 447,801ไร่

มีเกษตรกรผ่านการรับรองสิทธิ์จากคณะกรรมการระดับตำบล และอำเภอ จำนวน 61,916 ครัวเรือน พื้นที่จำนวน 406,154 ไร่ คิดเป็นวงเงินประมาณ 800 ล้านบาท

หลังจากผ่านการเห็นชอบรับรองสิทธิ์จากคณะกรรมการระดับจังหวัดแล้ว ทางกรมส่งเสริมการเกษตรดำเนินการจัดส่งข้อมูลให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเพื่ออนุมัติจ่ายเงินผ่านบัญชีแก่เกษตรกรต่อไป ณ ห้องประชุมสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ / ที่มา

การประชุมคกก.บริหารโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 ระดับจังหวัด (จังหวัดพะเยา)

วันอังคารที่​ 6 ตุลาคม ​2563 เวลา 13.30 น. นายสวัสดิ์​  กะ​รัตน์​ เกษตร​จังหวัด​พะเยา​ ดำเนินการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 ระดับจังหวัด (จังหวัดพะเยา) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบการเข้าร่วมโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 โดยมีนายวุฒิชัย เสาวโกมุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานการประชุมฯ ณ ห้องประชุมศูนย์ข้อมูลและสารสนเทศ 200 ปี สำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ซึ่งในที่ประชุมคณะกรรมการฯ ได้เห็นชอบ เกษตรกรที่ผ่านเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 15,177 ครัวเรือน พื้นที่ 78,990.25 ไร่ / ที่มา

จังหวัดลำพูน ประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 ระดับจังหวัด

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2563 เวลา 09.30 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน มอบหมายให้นายสำเริง ไชยเสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 ระดับจังหวัด ณ ห้องประชุมหริภุญชัย ศาลากลางจังหวัดลำพูน โดยมี นางจำเนียร แสนราชา เกษตรจังหวัดลำพูน ทำหน้าที่กรรมการและเลขานุการ มีเกษตรและสหกรณ์จังหวัดลำพูน ประธานสภาเกษตรกร ร่วมเป็นกรรมการ และมีหัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต และ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ รวมทั้ง เกษตรอำเภอทุกอำเภอ ซึ่งทำหน้าที่ กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการบริหารโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 ระดับอำเภอ และนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ นำข้อมูล จำนวนเกษตรกร และ พื้นที่ปลูกลำไย ที่เข้าร่วมโครงการฯ และผ่านการพิจารณาคณะกรรมการบริหารโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 ระดับอำเภอ มานำเสนอให้คณะกรมการฯ ได้รับทราบและพิจารณาลงนามในแบบสรุปผลการแจ้งยืนยันขอรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563
ซึ่งจังหวัดลำพูน มีเกษตรกรแจ้งยืนยันสิทธิ์ จำนวน 45,177 ราย จำนวน 319,901.36 ไร่ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 อนุมัติโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 ให้เกษตรกรชาวสวนลำไย อัตราไร่ละ 2,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ และเป็นลำไยที่ให้ผลผลิตแล้ว อายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป เน้นย้ำ “ รอบคอบ ถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้” /ที่มา

สวนลำไย รับเงินเยียวยา ไร่ละ 2,000 บาท เช็คสิทธิ์ก่อน ธกส.จ่ายภายใน 15 ต.ค. – 15 ธ.ค.63นี้

ครม.สัญจร วันที่ 24 – 25 สิงหาคม 2563  ณ จ.ระยองได้มีมติอนุมัติโครงการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไย ปีการผลิต 2563 เพื่อดูแลชาวสวนลำไยจำนวน 2 แสนครัวเรือน ภายใต้กรอบวงเงิน 3,400 ล้านบาท

โดยแนวทางการช่วยเหลือจะจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไยในอัตราไร่ละ 2,000 บาท โดยครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ (ครัวเรือนละไม่เกิน 50,000 บาท) และเป็นพื้นที่ลำไยที่ให้ผลผลิตแล้ว (อายุต้นลำไยตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป)

เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนสิงหาคม – ธันวาคม 2563 โดยจะจ่ายเงินให้กับเกษตรกรโดยตรง เกษตรกรผู้มีสิทธิ์จะต้องเป็นชาวสวนที่ขึ้นทะเบียนปี 2562 กับกรมส่งเสริมการเกษตร ภายในวันที่ 15 กันยายน 2563 ทั้งนี้ ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีโดยตรงของเกษตรกรตามกรอบระยะเวลาโครงการให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2563

เช็คสิทธิ์รับเงินเยียวยาสูงสุดครัวเรือนละ 50,000 บาท

  1. เงินเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย โดยจะจ่ายไร่ละ 2,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ รวมงบกว่า 3,355 ล้านบาท (ครัวเรือนละไม่เกิน 50,000 บาท) และเป็นพื้นที่ลำไยที่ให้ผลผลิตแล้ว (อายุต้นลำไยตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป)
  2. ค่าบริหารจัดการโครงการให้แก่ ธ.ก.ส. ครัวเรือนละ 7 บาท จำนวนเงิน 1,376,585 บาท
  3. ค่าชดเชยต้นทุนให้แก่ ธ.ก.ส.ในอัตราดอกเบี้ย 2.25% ต่อปีเป็นเงิน 75,491,590 บาท รวมทั้งสิ้น 3,432.04 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือน ส.ค.-ธ.ค. 2563

ถามตอบเงินเยียวยาชาวสวนลำไย

หนึ่งครัวเรื่อนได้ไร่ละ 2,000 เต็มที่ไม่เกิน 50,000 บาทใช่หรือไม่

  • ตอบ จากที่ ครม. อนุมัติงบช่วยเหลือโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 ไร่ละ 2,000 บาท แต่ไม่เกิน 25 ไร่ /ครัวเรือน นั้นก็คือจะไม่เกิน 50,000 บาท

ชาวสวนลำไยแบบไหนถึงจะมีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการฯ

  • ตอบ สัญชาติไทย บรรลุนิติภาวะ เป็นหัวหน้าครัวเรือน ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกลำไยกับกรมส่งเสริมการเกษตรภายในวันที่ 15 ก.ย.63

หากเคยขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้แล้ว ก่อนวันที่25 ส.ค.63

  • ตอบ เกษตรกรต้องมาปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันภายในวันที่ 15 ก.ย.63 นี้

หากเป็นเกษตรกรที่ยังไม่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกร

  • ตอบ ให้มาขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ภายในวันที่ 15 ก.ย.63

รับเงินผ่านช่องทางใดบ้าง

  • ตอบ รัฐบาลจะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ที่เปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

เริ่มจ่ายเงินให้วันไหนเมื่อไหร่  

  • ตอบ ภายใน 15 ตุลาคม ไปจนถึง 15 ธันวาคม 2563 โดยกรมส่งเสริมเกษตรจังหวัด มีการแจ้งผลการโอนเงินให้เกษตรกรผู้มีสิทธิ์ทราบด้วย

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรจะสรุปและส่งข้อมูลเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรทุกครัวเรือน ให้ ธ.ก.ส.สำนักงานใหญ่ดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตรกรโดยผู้มีสิทธิ์ต้องเป็นเกษตรกรชาวสวนลำไยที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรปี 2562 กับกรมส่งเสริมเกษตรกร ภายในวันที่ 15 ก.ย.2563  หรือ โทรศัพท์ : 02-5790121-27

ที่มา สำนักประชาสัมพันธ์เขต 7 กรมประชาสัมพันธ์

ลำดับขั้นตอนจนถึงโอนเงิน

ระบบตรวจสอบการเป็บเกษตรและการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2563

ลําไย เป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่สําคัญของประเทศไทย ในปี 2562 มีพื้นที่ยืนต้น 1,201,678 ไร่ พื้นที่ให้ผล 1,169,49 ไร่ ผลผลิต 1,011,276 ตัน ผลผลิตเฉลี่ย 865 กิโลกรัมต่อไร่ มีมูลค่าการส่งออกลําไยสด 583,297 ตัน คิดเป็น 20,812 ล้านบาท การส่งออกลําไยอบแห้ง 164,575 ตัน คิดเป็นมูลค่า 8,780 ล้านบาท ประเทศคู่ค้าสําคัญได้แก่ จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย ฯลฯ

จำนวนครัวเรือนผู้ปลูกลำไย ปี 2562 (ข้อมูลเบื้องต้น) ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

http://farmer.doae.go.th/

สถานการณ์การผลิตด้านปริมาณ (ข้อมูล ณ วันที่ 9 มิ.ย. – 11 ส.ค. 2563)

สำหรับสถานการณ์การผลิตด้านปริมาณ (ข้อมูล ณ วันที่ 9 มิ.ย. – 11 ส.ค. 2563) ข้อมูลประมาณการผลผลิตลำไยในฤดูทั้งหมด 386,065 ตัน แบ่งเป็น
ลำไยสดช่อ จำนวน 99,890 ตัน ลำไยรูดร่วง จำนวน 286,175 ตัน เก็บเกี่ยวผลผลิตลำไยในฤดูแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ส.ค. 2563) จำนวน 238,393.55 ตัน คิดเป็นร้อยละ 61.75

แบ่งเป็น ลำไยสดช่อ 75,713.75 ตัน หรือร้อยละ 31.76 และลำไยรูดร่วง 162,679.80 ตัน หรือร้อยละ 68.24

โดย ราคาลำไยสดช่อ เกรด AA อยู่ที่ 31 บาท/กิโลกรัม เกรด A ราคา 24.88 บาท/กิโลกรัม เกรด B ราคา 20.77 บาท/กิโลกรัม เกรด C ราคา 7.94 บาท/กิโลกรัม และเกรด AA+A เกรดคละรวมอยู่ที่ 26.89 และ 18.15 บาท/กิโลกรัม

ส่วน ราคาลำไยรูดร่วง เกรด AA อยู่ที่ 17.72 บาท/กิโลกรัม เกรด A ราคา 10.69 บาท/กิโลกรัม เกรด B ราคา 4.78 บาท/กิโลกรัม และเกรด C ราคา 1 บาท/กิโลกรัม

Link แนะนำ 16 ต.ค.รับสิทธิ์ “คนละครึ่ง”

เรื่องที่เกี่ยวข้อง