ศาลตัดสิน ร้านค้าโกง “คนละครึ่ง” รับโทษจำคุก 52 เดือน ปรับ 2.6 แสนบ.

อุทาหรณ์ คนโกงคนละครึ่ง ศาลสั่งคุก 4 ปี 4 เดือน

กระทรวงการคลัง เผยความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้ทำผิดเงื่อนไขโครงการ “คนละครึ่ง” โดยจัดส่งข้อมูลร้านค้าและบุคคลที่เกี่ยวข้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เพื่อใช้สืบสวนและดำเนินคดีแล้วทั้งสิ้น 1,024 ราย โดยร้องทุกข์กล่าวโทษกับร้านค้าและประชาชนที่เกี่ยวข้องแล้ว 85 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ

เมื่อ 26 มี.ค.64 ที่ผ่านมา ศาลแขวงบางบอน มีคำพิพากษา นาง……(ขอไม่ระบุชื่อ)…..เจ้าของร้านขายของชำในกรุงเทพและผู้ร่วมกระทำผิดอีก 6 ราย ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงเงินโครงการคนละครึ่ง โดยเจ้าของร้านรับโทษจำคุกรวม 52 เดือน ปรับ 260,000 บาท ส่วนผู้เกี่ยวข้องรับโทษจำคุกคนละ 8-17 เดือน ปรับคนละ 40,000-85,000 บาท โดยให้รอลงอาญาโทษจำคุกเป็นเวลา 1 ปี นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างเรียกเงินคืนจำนวน 76,050 บาท จากเจ้าของร้านดังกล่าวด้วย


กลโกง คนละครึ่งที่มีการแถลงข่าวก่อนหน้าที่จะดำเนินคดี

การทุจริตในโครงการคนละครึ่ง มีลักษณะวิธีการทุจริต 2 รูปแบบ

โกงรูปแบบแรก ร้านค้าคนละครึ่งที่รับแลกเงินสด 

มีการโอนเงินให้กับประชาชนที่ใช้แอปพลิเคชันเป๋าตังโดยตรงผ่านทาง mobile banking, ATM และเงินสด ซึ่งรูปแบบนี้ไม่ได้มีการซื้อ-ขายสินค้าจริง แต่ไปรับเงินโดยตรง

โกงรูปแบบที่ 2 ลักษณะเป็นเจ้ามือแลกเงิน

ประชาชนที่ต้องการแลกเงินมีการให้ข้อมูลการ Login เข้าแอปพลิเคชันเป๋าตังแก่ร้านค้า เพื่อใช้สิทธิ์คนละครึ่งแทน โดยวิธีนี้ร้านค้าจะหาลูกค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์ เช่น ไลน์ เฟซบุ๊ก เป็นต้น หากมีประชาชนสนใจมีการตกลงแบ่งผลประโยชน์ โดยจะกระทำการเสมือนมีการค้าขาย แต่ไม่มี ซึ่งประชาชนได้รับโอนเงินส่วนต่างจากเจ้ามือ จำนวน 80-100 บาท ต่อการทำธุรกรรมใช้จ่ายผ่านร้านดังกล่าว