กระแส บิทคอย มือใหม่ ควรเข้าหรือดูห่าง ๆ

ธนาคารกลางจีน ประกาศให้ธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมด เป็นสิ่งผิดกฎหมายและต้องถูกแบน

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

24 กันยายน / สำนักข่าวต่างประเทศรายงานตรงกันว่า ธนาคารกลางจีน หรือ PBOC ประกาศให้ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดเป็นสิ่งผิดกฎหมายและต้องถูกแบน ซึ่งนับเป็นการส่งสัญญาณที่แข็งกร้าวที่สุดครั้งหนึ่งของรัฐบาลจีน ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการปราบปรามสกุลเงินดิจิทัล 

ประกาศดังกล่าวป่วนตลาดคริปโตฯ ทันที โดยเฉพาะ Bitcoin ที่ร่วงทันทีกว่า -3,000 ดอลลาร์ หรือ -7% ภายในเวลาสั้นๆ จนเกือบหลุด 42,000 ดอลลาร์ไปแล้ว 

โดย PBOC ให้รายละเอียดผ่านเว็บไซต์ทางการว่าคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมด รวมถึง Bitcoin และ Tether ไม่ใช่สกุลเงิน Fiat และไม่สามารถหมุนเวียนในตลาดได้ ดังนั้นธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมด รวมถึงการชำระค่าบริการและสินค้าผ่านผู้ให้บริการในต่างประเทศเพื่อซื้อสินค้าในประเทศจีน ซึ่งรวมถึงซื้ออสังหาริมทรัพย์ด้วย จัดเป็นกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย 

นโยบายอันรุนแรงครั้งนี้ ส่งผลให้ราคาคริปโตเคอร์เรนซีต่างๆ ปรับตัวลดลงทันที โดย Bitcoin ลดลงมากถึง 5.5%  

Vijay Ayyar หัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้านตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล จาก Luno ในสิงคโปร์ กล่าวว่า การประกาศนโยบายนี้คล้ายคลึงกับในอดีต ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่น่ากังวลเล็กน้อยสำหรับตลาดคริปโตเคอร์ซีและตลาดโดยรวม เพราะสถานการณ์ตลาดทุนจีนตอนนี้มีถูกล้อมรอบด้วยความน่ากังวล ทั้งการออกกฎเกณฑ์ใหม่ๆ และความเสี่ยงล้มละลายของ Evergrande จึงแนะนำให้ลดการลงทุนในสินทรัพย์ 

ทั้งนี้หน่วยงานวางแผนเศรษฐกิจของประเทศยังกล่าวว่านโยบายสำหรับปราบปรามคริปโตเคอร์เรนซีนี้เป็นงานเร่งด่วนและสำคัญมาก 

อ้างอิง: https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-09-24/china-deems-all-crypto-related-transactions-illegal-in-crackdown?sref=CVqPBMVg

‘ไบเดน’ เซ็นผ่านร่างกฎหมายให้ชาวสหรัฐฯ รายงานการถือครองเงินดิจิทัล

15 พฤศจิกายน / ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เซ็นผ่านร่างกฎหมาย ‘โครงสร้างขั้นพื้นฐาน’ มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวมีเนื้อหาที่เกี่ยวพันไปถึงการตรวจสอบการทำธุรกรรมและการเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีด้วย 

สร้างความกังวลให้กับตลาดคริปโตเคอร์เรนซี ส่งผลต่อราคาเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีต่างๆ ในเช้านี้ โดยราคา Bitcoin ร่วงลงไปราว 8%

1 ธ.ค. 64 / ธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่สนับสนุนการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาระบุ ไม่สนับสนุนการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ เนื่องจากราคาสินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวนสูง อีกทั้งยังมีความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์ ความเสี่ยงข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล หรือการถูกใช้เป็นเครื่องมือของการฟอกเงิน ที่จะส่งผลต่อร้านค้า ผู้ประกอบธุรกิจ รวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการให้ได้รับความเสียหาย ในระยะต่อไป

หากมีการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการในวงกว้างอย่างแพร่หลาย ความเสี่ยงข้างต้นอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของระบบการชำระเงิน เสถียรภาพระบบการเงินของประเทศ และความเสียหายแก่สาธารณชนทั่วไปได้

ที่ผ่านมา ธปท. ได้มีการแจ้งเตือนเป็นระยะ และขอย้ำว่า ธปท. ไม่สนับสนุนการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ เนื่องจากราคาสินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวนสูง อีกทั้งยังมีความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์ ความเสี่ยงข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล หรือการถูกใช้เป็นเครื่องมือของการฟอกเงิน ที่จะส่งผลต่อร้านค้า ผู้ประกอบธุรกิจ รวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการให้ได้รับความเสียหาย

ในระยะต่อไป หากมีการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการในวงกว้างอย่างแพร่หลาย ความเสี่ยงข้างต้นอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของระบบการชำระเงิน เสถียรภาพระบบการเงินของประเทศ และความเสียหายแก่สาธารณชนทั่วไปได้ ซึ่งเป็นมุมมองที่สอดคล้องกับผู้กำกับดูแลในหลายประเทศ เช่น อังกฤษ สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ และมาเลเซีย โดยที่ผ่านมา มีบางประเทศจำกัดการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลในขอบเขตเพื่อการลงทุนเป็นหลัก เช่น อินโดนีเซีย และเวียดนาม ขณะที่หลายประเทศอยู่ระหว่างการพิจารณาการกำกับดูแลที่เหมาะสม

1 ธ.ค. 64 / ร้านกาแฟอินทนิล รับชำระค่าสินค้า ด้วยคริปโตเคอร์เรนซี

“บางจากฯ” รับชำระเงินด้วยคริปโทเคอร์เรนซี เป็นรายแรกของกลุ่มธุรกิจพลังงาน เริ่มที่ร้านอินทนิล


นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วยนายสุรชัย โฆษิตเสรีวงค์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน และผู้บริหาร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกับนายกวิน พงษ์พันธ์เดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท บิทาซซ่า จำกัด นายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) ชั้นนำของไทย (www.bitazza.com) ประกาศความร่วมมือสร้างการใช้งานจริงของคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ในชีวิตประจำวัน โดยบางจากฯ เป็นธุรกิจพลังงานรายแรกที่เปิดบริการรับชำระด้วยคริปโทเคอร์เรนซีเพื่อเพิ่มความสะดวก เป็นทางเลือกและสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า พร้อมทั้งตอบโจทย์ความต้องการที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตยุคดิจิทัล (Digital Experience) และบิทาซซ่ายังมีโซลูชั่นในการแปลงคริปโทเคอร์เรนซีเป็นเงินบาททันที ซึ่งสะดวกต่อทั้งผู้ประกอบการและลูกค้าที่ไม่ต้องรับความผันผวนของมูลค่าคริปโทเคอร์เรนซี


บางจากฯ เริ่มรับชำระด้วยคริปโทเคอร์เรนซีที่ร้านกาแฟอินทนิลตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2564 จำนวน 21 สาขา และจะเพิ่มอีก 100 สาขา ในวันที่ 1 มกราคม 2565 ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจะขยายไปทั่วประเทศภายในไตรมาส 2 รวมทั้งมีแผนจะขยายสู่ธุรกิจอื่น ๆ ของบางจากฯ เช่น ธุรกิจคาร์แคร์ สถานีบริการน้ำมัน เป็นต้น

สิทธิพิเศษ สำหรับ Bitazza Application

เครื่องดื่มอินทนิล ลด 10 บาท ทุกเมนู เมื่อชำระด้วยเหรียญ BTC / ETH / USDT ตั้งแต่ 1 ธ.ค.64 – 31 ม.ค.65
(เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ)
ตรวจสอบรายชื่อสาขาที่รับชำระด้วยคริปโต http://www.inthanincoffee.com/…/CryptocurrencyPayment
ดาวน์โหลด Bitazza Application https://bit.ly/3naJXSg

#BitazzaPartners #Cryptocurrency #ePayment #อินกับอินทนิล #InthaninCoffeeFanClub

ข้อมูลประกอบเหรียญ BTC / ETH / USDT

ผู้คนสนใจสมัครบิทคอยกันเยอะจริง ๆ

ประกาศ Bitkub

ขณะนี้มีลูกค้าที่สนใจสมัครเข้ามาใช้บริการ Bitkub เป็นจำนวนมาก ทำให้กระบวนการยืนยันตัวตน (KYC) และการฝากเงินไทยบาทอาจเกิดความล่าช้าได้ในบางประการ


.
ขณะนี้ทาง Bitkub กำลังเร่งตรวจสอบให้ลูกค้าทุกท่านอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการตรวจสอบการทำธุรกรรมต่างๆ ทาง Bitkub ขอแนะนำให้ลูกค้าทุกท่านปฎิบัติตามวิธีการดังนี้
.
การยืนยันตัวตน (KYC)
*กรุณาตรวจสอบเอกสารของท่าน และกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและชัดเจน
ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเอกสารการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมได้ที่ https://support.bitkub.com/hc/th/articles/360049389292
.
การฝากเงินไทยบาท
*Bitkub ขอแนะนำให้ท่านทำการฝากเงินผ่าน QR Code เนื่องจากมีความสะดวกและรวดเร็วในการยืนยันการทำธุรกรรมกว่าการฝากเงินผ่านการโอน (THB Transfer)
ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการฝากเงินไทยบาทเพิ่มเติมได้ที่ https://support.bitkub.com/hc/th/articles/360000349031


บิทคอยน์ (Bitcoin) คืออะไร

บิทคอยน์ (Bitcoin) หรือ BTC ถูกจัดประเภทว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัล สินทรัพย์ดิจิทัล และคริปโทเคอเรนซี ที่ถูกนำมาใช้เป็นช่องทางใหม่ในการโอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ตไปยังทุกที่ทั่วโลก การใช้บิทคอยน์ทำให้ผู้ใช้สามารถส่งเหรียญให้กันได้โดยไม่ต้องใช้ตัวกลาง กล่าวคือ ผู้ส่งสามารถส่งตรงไปถึงผู้รับได้เลย โดยไม่ต้องมีองค์กร อย่างธนาคาร หรือ Payment gateway มาเป็นตัวกลาง ทำให้การส่งบิทคอยน์เร็วกว่าและถูกกว่าการโอนเงินแบบดั้งเดิม

การขุดบิทคอยน์

คริปโทเคอเรนซี อย่างบิทคอยน์ไม่ได้ปรากฎขึ้นมาในกระเป๋าของเราอย่างไม่มีที่มาที่ไป ไม่เหมือนกับสกุลเงินทั่วไปอย่าง “ดอลล่าร์” หรือ “ยูโร” ที่สามารถพิมพ์ได้ แต่บิทคอยน์ถูกสร้างขึ้นมาจาก “การขุด”

การขุดบิทคอยน์ หรือ Bitcoin Mining เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นเมื่อมีการทำธุรกรรมบิทคอยน์ และมีการเพิ่มบล็อกเข้าไปในบล็อกเชน ด้วยเงินรางวัลจากการแก้สมการทางคณิตศาตร์ตอนเพิ่มบล็อกเข้าไปในบล็อกเชนนั้น ทำให้เกิดเป็นเหรียญบิทคอยน์ใหม่ของระบบ พูดง่ายๆ ก็คือ เงินรางวัลจากการขุดคือเหรียญใหม่ของระบบบิทคอยน์นั่นเอง ในการขุดต้องใช้พลังงานค่อนข้างสูงเพราะต้องแก้สมการที่ระบบสร้างขึ้นมา โดยสมการจะถูกแก้โดยวิธีสุ่มคำตอบไปเรื่อยๆ เท่านั้น กระบวนการนี้จึงใช้พลังงานในการขุดมาก และเมื่อนักขุดสามารถแก้สมการได้ บล็อกก็จะถูกเพิ่มเข้าไปในบล็อกเชน และนักขุดก็จะได้รับรางวัลเป็นค่าตอบแทน

หน้าที่ของนักขุด (Miner)

นักขุดจะได้รับค่าตอบแทนเมื่อทำหน้าที่สำเร็จ โดยนักขุดมีหน้าที่ในการตรวจสอบการโอนบิทคอยน์ และ ตัวตนของผู้ส่ง นอกจากนี้ ยังต้องหาหลักฐานว่าผู้ส่งมีบิทคอยน์เพียงพอต่อการโอนจริงๆ พูดง่ายๆ คือ ทำหน้าที่เป็นผู้ยืนยันการโอนบิทคอยน์นั่นเอง การยืนยันจะช่วยป้องกันปัญหาใช้เงินซ้ำซ้อนแบบที่เกิดขึ้นกับสกุลเงินทั่วไปที่สามารถแก้ข้อมูลในบัญชีได้ นักขุดจะทำการตรวจเช็ค 2 อย่าง ได้แก่ 1) เช็คว่าผู้รับปลายทางมีลายเซ็นที่ยืนยันว่าบุคคลนั้นเป็นผู้รับบิทคอยน์จริงๆ และ 2) ทำการยืนยันว่าผู้ส่งมีบิทคอยน์จริงๆ เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้ว ธุรกรรมนั้นจะถูกเพิ่มเข้าไปในบล็อก

ทำไมนักขุดถึงขุด?

นักขุด ขุดเพื่อรางวัลของบล็อก โดยรางวัลจะได้เป็นบิทคอยน์เหรียญใหม่ของระบบในทุกๆ ครั้งที่มีการเพิ่มบล็อก ในปี 2009 ทุกๆ ครั้งที่เพิ่มบล็อกสำเร็จนักขุดจะได้รับ 50 BTC ต่อมาในปี 2018 ได้รับ 12.5 BTC รางวัลของบล็อกจะลดลงไปเรื่อยๆ ทุกๆ 210,000 บล็อก หรือ ทุกๆ 4 ปี ซึ่งรางวัลยิ่งน้อยลงไปมากเท่าไหร่ แปลว่าเรายิ่งเข้าใกล้จำนวน 21 ล้านเหรียญมากขึ้นเท่านั้น

บิทคอยน์เปรียบเสมือนทองในหลายๆ ด้าน ทองถูกขุดจากใต้ดิน ในขณะที่บิทคอยน์ถูกขุดในรูปแบบดิจิทัลด้วยเงื่อนไขที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้สร้างเหรียญ และเช่นเดียวกันกับทอง บิทคอยน์มีจำนวนจำกัด คือเพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้นที่จะสามารถขุดได้

วันที่ 13 มกราคม 2018 เป็นวันสำคัญของบิทคอยน์ เนื่องจากบิทคอยน์ได้ถูกขุดขึ้นมา 16.8 ล้านเหรียญแล้ว และนั่นคือ 80% ของจำนวนเหรียญทั้งหมด แปลว่ามีบิทคอยน์อีกเพียง 4.2 ล้านเหรียญเท่านั้นที่จะสามารถขุดได้ หรือประมาณ 20%

บิทคอยน์โพรโตคอลกำหนดให้รางวัลสำหรับการขุดลดลงครึ่งหนึ่งทุกๆ 210,000 บล็อก โดยแต่ละบล็อกจะใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการขุด ดังนั้น รางวัลจะลดลงทุกๆ ประมาณ 4 ปี และเมื่อมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น 64 ครั้ง เหรียญบิทคอยน์ทั้งหมดก็จะถูกขุดขึ้นมา ซึ่งตรงกับปี ค.ศ. 2140 โดยประมาณนั่นเอง


บิทคอยน์ราคาเท่าไหร่ ? อะไรเป็นปัจจัยของราคาบิทคอยน์ ?

บิทคอยน์ ไม่ได้ถูกพิมพ์ขึ้นโดยธนาคารหรือรัฐบาล ดังนั้น อัตราเงินเฟ้อและนโยบายการเงินจะไม่มีผลกระทบต่อราคาของบิทคอยน์ ดังนั้น ในการลงทุนนักเทรดและนักลงทุนต้องใช้หลักการการวิเคราะห์พื้นฐานในการวิเคราะห์ราคาในอนาคต มีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์เปลี่ยนแปลง โดย 2 ปัจจัยหลักที่สำคัญ ได้แก่

1.อุปสงค์และอุปทาน

ราคาบิทคอยน์ขึ้นอยู่กับมูลค่าที่ตลาดคาดหวัง ถ้ามีผู้สนใจจะซื้อบิทคอยน์มากขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้น ในทางกลับกัน ถ้ามีผู้ต้องการขายมากขึ้น ราคาก็จะต่ำลง บิทคอยน์มีคุณสมบัติคล้ายทอง แต่แทนที่จะมีรัฐบาลหรือธนาคารควบคุม บิทคอยน์ขับเคลื่อนโดยกลุ่มนักพัฒนาระบบของเทคโนโลยี และมีจำนวนเหรียญจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ BTC เท่านั้น

2.การแข่งขัน

ถึงแม้บิทคอยน์จะเป็นที่นิยม แต่นักเทรดก็สามารถเลือกลงทุนในคริปโทเคอเรนซีอื่นๆ ได้อีกเป็นร้อยๆ เหรียญหรือที่เรียกว่า “Altcoins”


บล็อกเชน (Blockchain) คืออะไร

บล็อกเชน (Blockchain) คือ ระบบที่ทำให้การโอนบิทคอยน์เกิดขึ้นได้ ไม่เหมือนกับสกุลเงินทั่วไปอย่างเช่น ดอลล่าร์ หรือ ยูโร ที่สามารถเก็บและใช้ได้แบบรูปธรรม แต่บิทคอยน์นั้นอยู่ในโลกดิจิทัลและถูกเก็บอยู่ในบัญชีที่มีการกระจายศูนย์ที่เรียกว่า “บล็อกเชน” นั่นเอง

บล็อกเชน เปรียบเสมือนธนาคารที่ทำบัญชีของทุกๆ ธุรกรรมของบิทคอยน์ ซึ่งบัญชีนี้จะบันทึกทุกธุรกรรม ทำให้ผู้ใช้งานสามารถยืนยันความถูกต้องของธุรกรรมแต่ละธุรกรรมได้ และทำให้บิทคอยน์ทุกเหรียญปลอดภัยจากการปลอมแปลง

บล็อกเชนทำงานอย่างไร?

  • คำขอธุรกรรม – มีการส่งคำขอในการทำธุรกรรมหรือมีคนต้องการจะส่งบิทคอยน์ จากกระเป๋าหนึ่งไปอีกกระเป๋าหนึ่ง คล้ายๆ กับการจ่ายเงินซื้อสินค้าหรือจ่ายค่าบริการ
  • คำขอประกาศ – คำขอในการโอนบิทคอยน์จะถูกประกาศในเครือข่ายแบบ Peer to Peer (ที่มีคอมพิวเตอร์ทำงานเป็นโนด) ให้เครือข่ายได้รับรู้
  • การตรวจสอบ – เครือข่ายจะยืนยันความถูกต้องของธุรกรรมโดยใช้อัลกอริทึมทางคณิตศาสตร์
  • ข้อมูลของบล็อก –  เมื่อธุรกรรมถูกยืนยัน แปลว่าบิทคอยน์นั้นมีความถูกต้องและไม่ใช่คำขอซ้ำกับธุรกรรมอื่นๆ ธุรกรรมของผู้ใช้งานที่จะส่งบิทคอยน์ก็จะถูกรวมเข้ากับธุรกรรมของคนอื่นๆ รวมกันเป็น “บล็อก”
  • การเพิ่มบล็อกเข้าบล็อกเชน – บล็อกใหม่ที่เกิดขึ้นหลังการตรวจสอบนี้จะถูกผูกเข้าไปกับเครือข่ายบล็อกเชน บล็อกเชนจึงหมายถึงบล็อกแต่ละบล็อกที่เก็บข้อมูลธุรกรรมที่ยืนยันแล้วของแต่ละคนไว้แล้วถูกผูกโยงเข้าด้วยกัน ดังนั้น ทุกๆ ธุรกรรมก็จะถูกบันทึกและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
  • เสร็จสิ้นธุรกรรม – จากนั้นการส่งบิทคอยน์จากกระเป๋าหนึ่งไปอีกกระเป๋าหนึ่งก็จะสำเร็จ

เรื่องของการลงทุนไม่ว่าจะลงทุนแบบไหน ผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาหาความรู้ให้มาก ๆ ก่อนการลงทุน

ประชาชนก็ควรระมัดระวังในการลงทุน ตามที่ทาง ก.ล.ต. ได้ให้คำเตือนมาโดยตลอด ตามข้อควรปฏิบัติดังต่อไปนี้

  1. ศึกษาข้อมูลให้เข้าใจลักษณะความเสี่ยงและผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัล และอย่าหลงเชื่อคำโฆษณา ที่ชักชวนลงทุนโดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูง
  2. สำรวจว่าตนเองสามารถรับความผวนสูงได้ เพราะสินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวนสูง ประเมินมูลค่าได้ยาก และอาจเป็นเพียงการลงทุนเพื่อเก็งกำไร
  3. ประเมินตนเองว่าสามารถยอมรับการสูญเสียของเงินลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน
  4. หากไม่เคยลงทุนในหลักทรัพย์มาก่อน ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
  5. ควรลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยไม่เป็นภาระต่อตนเองและครอบครัว เพราะมีโอกาสสูญเสียเงินลงทุนทั้งก้อน
  6. หมั่นติดตามบัญชีลงทุนอยู่เสมอ

ไม่ควรนำเงิน ‘ร้อน’ หรือกู้ยืมเงิน เข้ามาเล่นคริปโต…เสี่ยงเดือดร้อน

NFT คืออะไร เหมือน Bitcoin มั้ยนะ

NFT คือ (ในนิยามผู้เขียน)  เหรียญโทเคนดิจิทัล ที่ทำขึ้นมาเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
สิ่งทุกอย่างที่แปลงไปอยู่ในรูปแบบของดิจิทัล
ย่อมาจาก  Non Fungible Tokens
ลักษณะเฉพาะตัวคือ ไม่มีอะไรมาทดแทนได้ เพราะมีเอกลักษณ์ มักถูกใช้กับงานศิลปะ เช่น รูปภาพ เพลง หนัง ไอเทมเกม ถูกซื้อขายบนตลาด(แพลตฟอร์ม) NFT เท่านั้น ไม่สามารถเทรดบนกระดานคริปโตทั่วไปอย่าง Bitkub หรือ Binance ได้เหมือน Bitcoin หรือ Eth

แต่ Cryptocurrency หรือ สกุลเงินดิจิทัล เป็น Fungible token หรือ เหรียญที่ทดแทนกันได้  เช่น
สมมติมีคนขโมย Bitcoinไป 1 เหรียญ เมื่อตำรวจไปจับ เขาคืนมา 1 เหรียญ ก็จบ
มูลค่าของ Bitcoin เหมือนเหรียญเดิมที่หายไปไม่เปลี่ยนแปลง เพราะทุกเหรียญ มีค่าเหมือนกัน

แต่ NFT อยู่ในรูปแบบของ NFT ต่อให้มีอีกคน Copy ไปก็ไม่มีทางเหมือนภาพ Original เพราะมันคือ งานศิลปะ ที่คุณค่ามาจากเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีความปลอดภัยมากขึ้นเมื่อเป็น NFT เพราะขโมยไม่ได้ ไม่เสี่ยงการถูก Copy เหมือนไฟล์อื่นๆในเน็ต และตรวจสอบสิทธิ์ ความเป็นเจ้าของได้

NFT ซื้อขายที่ไหน?

วิธีการ แปลงภาพ เป็น NFT

1.เราต้องแปลงไฟล์ภาพนั้นเป็น ดิจิทัล .jpg ด้วยการสแกน
2.จากนั้นเปิดกระเป๋าเงินคริปโต เช่น bitkub ซื้อเหรียญ Etherium ไว้
3.สมัครสมาชิกเว็บ crypto wallet คือ Metamask ที่ https://metamask.io/
เป็นกระเป๋าคริปโตกลาง ใช้รับ ถอน เงินที่ได้จากการขายงานศิลปะในรูปแบบ token 
4.โอนเหรียญ ETH จาก  bitkub.com เข้า  Metamask เตรียมไว้ใช้จ่ายค่าแปลงไฟส์ภาพ
เป็น NFT เรียกว่าค่า gas fee
5.เข้า Opensea และ Login เข้ากระเป๋าเงิน Metamask สามารถเริ่มลงภาพผลงานจำหน่ายได้ โดยอัพภาพไปให้เป็น NFT และเราจะเสีย Eth เล็กน้อยเป็นค่าแปลงไฟล์เป็น NFT แค่นั้นก็จบ

ใช้ NFT ทำอะไรมาบ้าง?

1.ขายภาพศิลปะต่างๆ เช่น Meme ในตำนาน Disaster Girl meme  หรือ เด็กหญิงแห่งหายนะ ถูกขายไป ราวๆ 16.7 ล้านบาท หรือ ติ๊ก ชีโร่ ศิลปินไทยชื่อดัง ก็นำเพลงที่เขาแต่ง แบบ Exclusive มาขายในรูปแบบ NFT เช่นกัน

2.หว่อง กาไว ผู้กำกับหนังชื่อดัง ขายฟุตเทจภาพยนตร์ที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน

3.ตลาดเกม การซื้อขายแลกเปลี่ยน ไอเทมเกม หรือ การ์ดเกม

       สรุป NFT คือ โทเคนพิเศษ ที่แสดงความเป็นเจ้าของทุกสิ่งที่เป็นดิจิทัลได้ ผ่านตลาดแพลตฟอร์มต่างๆ ซื้อขายกันได้ทั่วโลก แต่สุดท้ายแล้ว มูลค่าของ NFT ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้คนล้วนๆ เป็นช่องทางในการขายงานศิลปะ ที่กำลังมีประโยชน์และมีมูลค่ามหาศาล
ที่มา : springnews.co.th

ทักษะ ประสบการณ์ Bitcoin .. น่าสนใจ

ตอน11 ถ้ามันลงสุดแล้วทำยังไงต่อ

  • ดูยังไง ว่ามันลงสุดแล้ว ในความคิดผม วันสุดท้ายที่มันจะสุด มันจะตบลงทำหางล่างก่อน กราฟ day candlestick rsi sto macd อยู่ต่ำกว่า 20 แต่อย่างพึ่งรีบซื้อ แค่ทยอยเข้าไม้แรก คือ จะรอ กราฟ week ให้ปรับฐาน ลงจนมีสัญญาณเข้าซื้อ ต่ำกว่า 30 กราฟ day และ 4 hr มี divergence คือราคาต่ำกว่าเก่าตอนที่มันเด้ง แต่อินดิเคเตอร์ทุกตัว ไม่ต่ำกว่า ก้จะรอจังหวัดเข้า long ทีละไม้ เริ่มจาก *5 *10 *20 เริ่มค่อยๆ จาก 5% 10 20 50 all in จนกว่าจะปรับฐานเสร้จ จะไม่ไล่ราคาซื้อ ตีเส้น trend line ขาลง จะเห็นว่ามันยังห่างกับเส้น down trend line แต่มีนทำท่าจะวิ่งเข้า หาเส้น down trend line ราคา ต่ำกว่า เส้นค่าเฉลี่ย 12 26
    เราจะได้ไม่หนัก ทยอยเข้าจะไม่ขาดทุนเยอะ แบ่งไว้หลายๆ ไม้

ตอนมันจะกลับตัว มันจะตีกลับแท่งแรกคุมแท่งเก่าวันแรกก่อน แช้วจะซึมๆ เหมือนจะไม่ขึ้น 2-3 วันขึ้นช้า ทนให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ ถือให้ได้เกิน 50% ขอพอร์ต แล้วขีวิต มันจะสบาย แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นสิ่งเราคิด ก็คัดโลด

  • ถ้าเราไม่เล่น ก้ไม่ได้เงิน แต่ถ้าจะเล่น รับความเสี่ยงได้เท่าไร เสียได้เท่าไร จังหวะกลับตัว ดูตลาดหุ้น ตลาดเงิน น้ำมัน พันธบัตรสหรัฐ ทองคำ ตีกลับ ค่อยโยนเข้า ส่วนเหรียญจะเข้า เหรียญใหญ่หรือเล็ก ดูเหรียญใหญ่ btc เป็นหลัก เหรียญหลักหลักวิ่ง เหรียญเล็กวิ่งมากกว่า แต่เหรียญใหญ่ ดูกราฟ ง่านกว่า เพราะวิ่งช้ากว่า
  • ถ้าเราอยู่ต้นขบวน เราต้องทนถือให้ได้ เพราะจะได้คำใหญ่ มันจะพักฐานเป็นช่วงๆ ลองนับเวฟ หรือ fibo เอา
  • จังหวะลงเกือบสุด เตรียมกระสุนให้พร้อม+ ใจ+stop loss เสียไม่เยอะ ถ้าอินดิเคเตอร์ กองอยู่ข้างล่างแล้ว เราจะเสียไม่เยอะ ถ้าผิดทาง
  • ผมยังไม่เห็นสัญญาณ ขึ้นใหญ่ เต็มที่ก็เด้ง

ขอให้คนไทยรวยทุกคน ไปเอาเงินจากต่างชาติกัน
ผมแค่มาแชร์ในฐานะคนไทยที่รักคนไทย
ผมเป็นคนไม่ห่วงวิชา เพราะตายไป ผมเอาไปไม่ได้
ถ้าวิชาที่ผมผ่านมา ทำให้คนอื่นเสียเงินน้อยลง ผมก็แชร์ประสบการณ์

เขียนสด อย่าคิดเยอะนะครับ กำลังจิบ

cr.khongnoi

ตอนที่ 1. เริ่มต้นอย่างไร https://m.facebook.com/groups/2888156448170853/permalink/3097167003936462/?sfnsn=mo&ref=share

ตอนที่ 2. trend line https://m.facebook.com/groups/2888156448170853/permalink/3097697080550121/?sfnsn=mo&ref=share

ตอนที่ 3 money management https://www.facebook.com/groups/2888156448170853/permalink/3099002283752934/?sfnsn=mo&ref=share

ตอนที่ 4 slow stochastic
https://www.facebook.com/groups/2888156448170853/permalink/3101804766806019/?sfnsn=mo&ref=share

ตอนที่ 5 fibonacci
https://www.facebook.com/groups/2888156448170853/permalink/3102160096770486/?sfnsn=mo&ref=share

ตอนที่6 การลงทุนคืออะไร
https://m.facebook.com/groups/2888156448170853/permalink/3102903843362778/?sfnsn=mo&ref=share

ตอนที่ 7 เล่นยังไงให้จน
https://m.facebook.com/groups/2888156448170853/permalink/3103267596659736/?sfnsn=mo&ref=share

ตอนที่ 8 การเล่นขาลง
https://m.facebook.com/groups/2888156448170853/permalink/3104196673233495/?sfnsn=mo&ref=share

ตอน 9 เม่ามอย ตอนกำลังดื่ม
https://www.facebook.com/groups/2888156448170853/permalink/3107547289565100/?sfnsn=mo&ref=share

ตอน 10 มาเล่าให้ฟังว่า พอร์ต หมื่น แสน ล้าน สิบล้านวิธีคืดอย่างไร
https://www.facebook.com/groups/2888156448170853/permalink/3110794995906996/?sfnsn=mo&ref=share

ขอบคุณ cr.khongnoi

กลุ่ม facebook

กลุ่ม Facebook :
Bitkub & Binance เทรดเก็งกำไรและรายวันสำหรับมือใหม่ กับ Thitipong
https://www.facebook.com/groups/912914782607439/user/100018109570857/

Binance หัดเทรด มือใหม่ : https://www.facebook.com/groups/912914782607439

Bitcoin Crypto Thailand (พูดคุย ข่าวสาร คริปโต บิทคอยน์) : https://www.facebook.com/groups/2888156448170853

มือใหม่ หัดซื้อ หัดเทรด บิทคอยน์ สังคมเงินดิจิตัล : link ยาวมาก คลิก


สิ่งที่จำเป็นเมื่อคุณเข้ามาในตลาดคริปโตฯ


[หวังว่า…โพสต์นี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ]
[จากประสบการณ์ของผมโดยตรงหลังเข้าวงการมาแค่ 1 เดือน…ใช่ครับแค่ 1 เดือนจริงๆ😅]

1.อย่าโลภ ตั้งจุดหมายเพื่อการขายทำกำไร ยอมขายหมูบ้างก็ได้นะ : )
2.อย่าไล่ราคา นี่คือสิ่งที่มือใหม่ต้องเป็น ซึ่งสอดคล้องกับข้อแรก
3.อย่าเชื่อใครบนโลกออนไลน์มาก
4.”ในบางครั้ง”ก็ไม่ควรยึดติดกับ Elliott wave มากเกินไป (ข้อนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวมากๆ)
5.ไม่ควรซื้อขายแบบ Market ควรตั้งราคาซื้อขายไว้
6.การแบ่งไม้ ข้อนี้เป็นสิ่งที่มือใหม่ส่วนใหญ่มองข้ามไป แต่มันสำคัญมากจริงๆ😁

🔥เสริม🔥

  • ต้องศึกษาก่อนการลงทุนทุกครั้ง!
    ส่วนตัวผมอายุ 13 เข้าวงการมา 1 เดือนกว่าๆ ทุกวันพอได้กำไรบ้าง ขณะนี้กำลังศึกษา Elliott wave แบบจริงจัง

…..คำไหนผมเขียนไม่ถูกใจขออภัยด้วยครับ…..

(ภาพกันว่าง)

มือใหม่ ซื้อขาย เทรดหุ้น ขุด คลิปโต บิทคอยน์ สมัครได้ที่นี่

ยุคเงินดิจิตอล ทุกคนควรมีกระเป๋าของตัวเอง ในการทำธุรกิจ และธุรกรรมทางการเงิน จึงต้องมีกระเป๋าต่อ ไปนี้เป็นของตัวเอง

และนี่คือ กระเป๋าในการแลกเปลี่ยนเงินที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ สมัครกันนะครับ
***ได้รับใบอนุญาติจากกระทรวงการคลัง และกำกับดูแลโดย กลต. ถูกกฎหมายแน่นอน !!!

กระเป๋าบิทคอยน์สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชม.ทุกๆวัน ถอนเงินเข้าธนาคารเราได้ตลอดเวลาครับ

เว็ปตัวที่ 1 เว็ปอันดับ 1 ของไทย
สนใจลิ้งสมัครเทรดเหรียญดิจิทัลไทย ซื้อขาย เทรด บิทคอยน์ ได้รับใบอนุญาติถูกต้องตามกฎหมาย.
สมัครที่นี่ https://www.bitkub.com/signup?ref=48874


เว็ปตัวที่2
ลิ้งค์สมัครเว็บเทรดเหรียญดิจิทัลไทย ซื้อขาย เทรด บิทคอยน์ ได้รับใบอนุญาติถูกต้องตามกฎหมาย. สมัครที่นี่
https://satangcorp.com/classic/signup?referral=STBTUUBP

เว็ปตัวที่ 3
ลิ้งค์สมัครเว็บเทรดเหรียญดิจิทัลไทย ซื้อขาย เทรด บิทคอยน์ ได้รับใบอนุญาติถูกต้องตามกฎหมาย. สมัครที่นี่ https://trade.zipmex.co.th/accounts/sign-up?aff=yk2tGdQedB

เว็ปตัวที่ 4
ลิ้งค์สมัครเว็บเทรดเหรียญดิจิทัลไทย ซื้อขาย เทรด บิทคอยน์ ได้รับใบอนุญาติถูกต้องตามกฏหมาย สมัครที่นี่
https://bitazza.com/signup?aff=1FQ42B

เว็ปตัวที่ 5
แถมให้ลิ้งค์สมัครเว็บเทรดเหรียญดิจิทัลของต่างประเทศที่นิยมอันดับ1ของโลก
https://accounts.binance.com/th/register?ref=90435215

เว็ปเทรด Forex
สนใจเทรด forex รับเงินเสมือนe 10,000 ดอลลาร์ แล้วเรียนรู้วิธีการเทรดกับผู้นำตลาด
https://www.exness.com/a/97ddio0ykn?platform=mobile…