ภูเก็ต เปิดโรงแรม 9 แห่ง กักตัวทัวร์ “จีน-ยุโรป”

แนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประเภทพิเศษ หรือ special tourist visa (STV) จังหวัดภูเก็ต เปิดโรงแรม 9 แห่ง กักตัวทัวร์ “จีน-ยุโรป”


“ภูเก็ต” ซ้อมรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ครั้งแรกในรอบ 7 เดือน เปิดโรงแรม 3-5 ดาว 9 แห่ง รับจีน-ยุโรป เผยตารางบินเดือน ต.ค.-พ.ย. มีทั้งจากกว่างโจว โคเปนเฮเกน สเปน และเดนมาร์ก รองผู้ว่าฯ สาธารณสุขจังหวัด เผยมาตรการเข้มตั้งแต่สนามบิน ถึงห้องพักกักตัว มีศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินล็อกตัวตรวจเชื้อทันทีที่ผิดสังเกต

หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 ได้อนุมัติหลักการและแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประเภทพิเศษ หรือ special tourist visa (STV) โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มที่จะเข้ามาต้องพำนักระยะยาว (long stay) ยอมปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และกักตัวในห้อง 14 วัน โดยวีซ่าดังกล่าวจะได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยได้ 90 วัน และต่อได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 90 วัน รวมเป็น 270 วันนั้น

โรงแรม ALSQ อนุมัติ 9 แห่ง

นายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดมีความพร้อมทุกด้านไว้แล้ว โดยมีโรงแรมที่สมัครเข้ารับการประเมิน ALSQ จำนวน 73 แห่ง กว่า 5,800 ห้อง ซึ่งมีโรงแรมที่ผ่านการประเมิน และอนุมัติผ่านแล้วทั้งหมด 9 แห่ง จำนวน 1,222 ห้อง ได้แก่

1.โรงแรมอนันตราไม้ขาวภูเก็ตวิลล่า
2.โรงแรมตรีสรา ต.เชิงทะเล
3.โรงแรมเมธาดีรีสอร์ทแอนด์วิลล่า ต.กะรน
4.โรงแรมเกรซแลนด์รีสอร์ทแอนด์สปา ต.ป่าตอง
5.โรงแรมอนันตราภูเก็ตสวีทส์แอนด์วิลล่าไม้ขาว
6.โรงแรมบันยันทรีภูเก็ต
7.ลากูน่าฮอลิเดย์ คลับภูเก็ต รีสอร์ท
8.เจดับบลิว แมริออท ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์สปา และ
9.เดอะเซนส์เซส รีสอร์ท แอนด์ พูลวิลล่า

ซึ่งเป็นโรงแรมตั้งแต่ระดับ3 ดาว จนถึง 5 ดาว โดยจังหวัดมีเป้าหมายของจำนวนห้องพักกว่า 5 พันห้อง ซึ่งยังเหลือโรงแรมจากการประเมินอีก 64 แห่ง

สำหรับโรงพยาบาลที่เป็นคู่สัญญาหลักกับโรงแรม ALSQ คือ

1.โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต

2.โรงพยาบาลสิริโรจน์

ล่าสุดโรงพยาบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) ขอเข้าร่วม แต่ติดขัดไม่พร้อมรับผู้ติดเชื้อ ในส่วนนี้โรงพยาบาลถลาง และโรงพยาบาลป่าตอง ยินดีรับผู้ติดเชื้อมาดูแล เนื่องจากผู้เดินทางเข้ามามีประกันชีวิต ไม่เป็นภาระกับโรงพยาบาลรัฐ ดังนั้น

3.โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต

จึงเป็นโรงพยาบาลหลักเพิ่มมาอีก 1 แห่ง รวมมีโรงพยาบาลทั้งหมด 3 แห่ง ที่จะต้อง MOU กับโรงแรม ALSQ

สำหรับรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เมืองกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวนกว่า 100 คน ในช่วงประมาณวันที่ 8 ตุลาคมนี้ กลุ่มที่เดินทางมาเป็นนักท่องเที่ยวลองสเตย์ เข้ามาโดยเช่าเหมาลำ 1-3 ไฟท์ต่อสัปดาห์ ไฟลต์ละ 100 คน ดังนั้น 1 เดือนจะมาทั้งสิ้น 1,200 คน จะมีโรงแรมรองรับได้ 1 เดือน คือ 2,400 ห้อง ซึ่งที่ผ่านการประเมินแล้ว 1,222 ห้อง จะรับได้ 15 วัน

ททท.เผยภูเก็ตพร้อมมาก

นางนภสร ค้าขาย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปลัดจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นหัวหน้าทีมในการดูแลพื้นที่ ได้แจ้งที่ประชุมส่วนราชการว่า ในช่วงเริ่มต้นนี้มีนักท่องจากเมืองกว่างโจว ประเทศจีน

“ทุกหน่วยงานมีความพร้อมมากสำหรับแง้มประตูเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่สำคัญ ยังมีการซ้อมด้วยว่าถ้าเกิดมีรอยรั่ว หรือเกิดการระบาดขึ้น เราจะมีระบบการบริหารจัดการอย่างไร เพราะพื้นที่ภูเก็ตมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการโควิดมาแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดย้ำหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ให้อธิบายในโมเดล 5T และโมเดลของ STV” นางนภสรกล่าว

ภูเก็ตพร้อมรับ นักท่องเที่ยวต่างชาติ

นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ได้พิจารณาการเตรียมความพร้อมการรับผู้เดินทาง STV โดย จ.ภูเก็ตได้มีการประเมินโรงแรม ALSQ ที่เป็นสถานที่กักตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางถึงท่าอากาศยานภูเก็ต หลังผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่กักตัวนำไปยังอาคารเอ็กซ์เทอร์มินอล ภายในท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อตรวจหาเชื้อและเก็บสารคัดหลั่งส่งตรวจภายใน 30 นาที ก่อนเดินทางไปโรงแรมที่กักตัว ALSQ และติดตั้งแอปพลิเคชั่น AOT ของสนามบินภูเก็ต และแอปพลิเคชั่น TESTING สำหรับติดตามตัว

หลังผ่านการกักตัว 14 วัน นักท่องเที่ยวสามารถย้ายไปสถานที่พักแห่งอื่นได้ใน จ.ภูเก็ต เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน

ทั้งนี้ หากมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้น จะมีคณะกรรมการกำกับดูแลตามจุดต่าง ๆ อยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (EOC) อาทิ ท่าเรือ ท่ารถ ท่าอากาศยาน สามารถแจ้งเพื่อส่งตรวจหาเชื้อทันที ถ้าหากตรวจพบเชื้อต้องส่งโรงพยาบาล

นายพิเชษฐ์กล่าวต่อไปว่า การเดินทางเข้ามา จ.ภูเก็ตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เป็นไปตามที่ ศบค.ส่วนกลางได้พิจารณาอนุญาตให้เข้ามาก่อน อาจจะเป็นกลุ่มที่เข้ามาพักระยะยาว long term stay

กลุ่มที่มีบ้านหลังที่ 2 อยู่ที่ภูเก็ต และสามารถเดินทางเข้ามาภายใต้การจัดการของบริษัท ไทยแลนด์ ลองสเตย์ จำกัด

“เรามีเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า กลุ่มที่เข้ามาอันดับแรก เมื่อเข้ามาแล้วจะต้องตรวจหาเชื้อที่สนามบิน โดยทางกรมควบคุมโรคได้ติดตั้งเครื่องตรวจหาเชื้อประจำที่สนามบิน จำนวน 2 ชุด รองรับได้ประมาณ 96 คนต่อวัน ซึ่งมีการทดสอบระบบเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา โดยจะมีการฝึกซ้อมขั้นตอนกระบวนการเก็บสิ่งส่งตรวจ วันที่ 30 กันยายน 2563 และในวันที่ 2 ตุลาคม 2563 ต่อไป โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะเข้าประเมินรับรองห้อง lab ตรวจเชื้อโควิด-19ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต”

ดีมานด์ต่างชาติเริ่มขยับ

ด้านนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ณ เวลานี้ในตลาดมีดีมานด์ต่างชาติมีความประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว จากข้อมูลของคณะกรรมการ ศบค.ที่ได้ระบุว่า นักท่องเที่ยวจะเริ่มเข้ามาในวันที่ 8 ตุลาคมนี้เป็นต้นไปนั้น เชื่อว่าน่าจะต้องให้เวลากระทรวงการต่างประเทศดำเนินการสำหรับออกวีซ่าด้วย

สำหรับนักท่องเที่ยว นักธุรกิจที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้ามาประเทศไทยนั้นสามารถประสานงานผ่านบริษัทนำเที่ยวต่าง ๆ ได้ หากเป็นไปตามกฎตามที่ ศบค.ออกประกาศไปแล้ว โดยมีบริษัทไทยจัดการลองสเตย์ หรือไทยแลนด์ ลองสเตย์ เป็นหนึ่งในทางเลือกด้วย

ขอบคุณที่มา : https://www.prachachat.net/tourism/news-530123

เรื่องที่เกี่ยวข้อง