รับสิทธิตั๋วเครื่องบิน เราเที่ยวด้วยกัน
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
(1) เป็นการจองบัตรโดยสารเครื่องบินตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563
(เราเที่ยวด้วยกัน ไปถึงวันที่ 31 ม.ค. 2564)
(2) ในการจองบัตรโดยสารหนึ่งครั้งจะมีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารไม่เกิน 2 ผู้โดยสารต่อ 1 ห้องพักที่จอง โดยห้องพักที่จองจะต้องเป็นห้องพักที่ได้รับสิทธิตามข้อ 1. เช่น จองห้องพัก 2 ห้อง 2 คืน จะมีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารไม่เกิน 4 ผู้โดยสาร
(3) ในการจองบัตรโดยสารหนึ่งครั้ง จำนวนการใช้สิทธิคือ 2 ผู้โดยสารต่อ 1 ห้องพักที่จอง เช่น จองห้องพัก 2 ห้อง 2 คืน จะเสียสิทธิจำนวน 4 ผู้โดยสาร แม้ว่าจะเดินทางเพียง 2 คน แต่รัฐจะสนับสนุนเงินค่าบัตรโดยสารสำหรับการโดยสารที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น
(4) การใช้สิทธิขั้นต่ำ คือ 2 ผู้โดยสารต่อการจองหนึ่งครั้ง เช่น กรณีเดินทางคนเดียวโดยจองห้องพัก 1 ห้อง 1 คืน จะเสียสิทธิจำนวน 2 ผู้โดยสาร แต่รัฐจะสนับสนุนเงินค่าบัตรโดยสารสำหรับ 1 คนเท่านั้น
(5) ต้องเป็นเส้นทางการบินที่มีต้นทางหรือจุดหมายปลายทางอยู่ในจังหวัดที่เป็นสถานที่ตั้งของโรงแรม หรือจังหวัดใกล้เคียงกับจังหวัดสถานที่ตั้งของโรงแรม ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อจังหวัดใกล้เคียงได้ในเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
(6) ในกรณีใช้สิทธิรับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารสำหรับการบินเที่ยวขาไป วันที่ Check in ขึ้นเครื่องจะต้องห่างจากวันที่ Check in โรงแรมไม่เกิน 5 วัน ทั้งนี้ จะพิจารณาจากวันที่ Check in ทั้งโรงแรมและสายการบินจริงเท่านั้น
(7) ในกรณีที่ใช้สิทธิรับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารสำหรับการบินเที่ยวขากลับ วันที่ Check in ขึ้นเครื่องจะต้องห่างจากวันที่ Check out โรงแรมไม่เกิน 5 วัน ทั้งนี้ จะพิจารณาจากวันที่ Check in และ Check out จริงเท่านั้น
(8) ในกรณีที่จองบัตรโดยสารขาไป-กลับ (Round trip) แต่มีการโดยสารจริงเพียงเที่ยวเดียว (ไปหรือกลับ) จะขอรับสิทธิเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบินได้เพียงครึ่งหนึ่งของข้อ 2.4 เท่านั้น
(9) เมื่อ Check out ออกจากโรงแรมแล้ว จะต้องกรอกข้อมูลและกดปุ่ม “ลงทะเบียนรับสิทธิตั๋วเครื่องบิน” ผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เพื่อขอรับสิทธิเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบินภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 ทั้งนี้ ชื่อ-นามสกุล ภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในการจองบัตรโดยสารเครื่องบินจะต้องถูกต้องตรงกับชื่อ-นามสกุล ภาษาอังกฤษบนบัตรประจำตัวประชาชน
คำถามข้อสงสัย
กรณีประชาชนเดินทาง 3 ท่านใน booking เที่ยวบินเดียวกันจะสามารถขอรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินได้กี่สิทธิ และผู้โดยสารทั้งหมดต้องลงทะเบียนในโครงการหรือไม่
ตอบ : ประชาชนที่ทำการจองโรงแรมผ่านโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน สำเร็จ มีสิทธิในการได้รับเงินสนับสนุน 2 ผู้โดยสารต่อ 1 ห้องโรงแรมที่จองผ่านโครงการ ดังนั้นในกรณีนี้ หากมีการจองโรงแรมมากกว่า 1 ห้อง จะสามารถขอรับสิทธิเงินสนับสนุนได้มากกว่า 2 ผู้โดยสาร โดยผู้ที่จองโรงแรมและเข้ามากรอกยื่นคำขอรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเท่านั้นที่ต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนโครงการสำเร็จ ผู้โดยสารอีกสองท่านไม่ต้องทำการลงทะเบียน แต่จะต้องมีการเดินทางจริง
เครดิต : FACEBOOK “กลุ่มเราเที่ยวด้วยกัน” : ประเด็นการขอคืนค่าตั๋วเครื่องบิน 40 %
- การ redeem คือ 1 ห้อง = 2 คน อิงห้องพักเป็นหลักนะคะ ไป 4 คน นอนห้องใหญ่ แต่ 2 คืนก็จะไม่ได้นะคะ เพราะสิทธิ์ อิงที่ห้องพัก
โดยที่ จะคืนได้ ทั้ง 2 คนเนี่ย คนที่จอง รร จะต้องทำการจองตั๋วด้วยและ มีชื่อ อีกคนด้วยใน booking เดียวกัน - ห้ามแยกจองตั๋วเครื่องบินเด็ดขาด ถ้าไป 4 คนก็จอง 2 ห้องค่ะ โดยที่ ถ้าเราจะทำการจองทั้ง 2 ห้อง เป็นแค่ 1 booking ก็ จองตั๋วรวม 4 คน ใน booking เดียว
แต่ถ้าเราอยาก make sure จะแยกกันจองทีละ 2 คน
เราก็ต้อง ทำการแยกตั๋ว 2 booking เช่นกัน และในแต่ละ booking จะต้องมี ชื่อคนจอง รร นั้นๆ ให้สอดคล้องกันด้วยนะคะ - โดยเงินคืน คือ 40% ของค่าตั๋ว แต่ไม่เกิน 2,000 บาท (มีผล 1 กันยา ) ต่อคน นะคะ ไม่ได้หมายความว่าจะได้ 2,000 เลย
- อย่าลืมเช็ค สนามบินที่ลงว่าอยู่กลุ่มเดียวกับจังหวัดที่พักมั้ย มีเพื่อน ลงพิษณุโลก ไปเที่ยวเพชรบูรณ์ แบบนี้ก็อดเบิกไม่ได้
- นับวัน ให้ดี เรื่อง 5 วัน นะค่ะ ของวัน check in / check out รร กับ ตั๋วเครื่องบิน
- สำคัญมาก อย่าลืม “ชื่อคนจอง รร จะต้องเป็นชื่อเดียวกับคนจองตั๋วเครื่องบิน” ด้วยนะคะ ก็คือบินไปด้วยกันหละ ต้องมีชื่ออยู่ใน booking เดียวกัน ถ้าจะจองแยก บุคกิ้ง ก็ต้องมีการจอง รร แยก เพื่อให้มี รร มาจับคู่กับ ตั๋วเครื่องบิน
- เนื่องจาก 1 booking ของตั๋วเครื่องบิน สามารถ redeem ได้แค่ครั้งเดียวนะคะ เพราะงั้นจะมาจองตั๋วเครื่องบินรวมกัน จองแยกห้องกันไม่ได้เลย
- แล้วถ้าจองไปกลับ คนละ booking หละ ? แบบนี้ต้องทำการจองแยก รร เป็น 2 booking ค่ะ นอนคืนละที่ งี้ เพื่อที่เราจะสามารถ จับคู่ booking ตั๋วเครื่องบิน ได้ 2 อันลงตัวพอดี
แต่แนะนำ ลดความยุ่งยาก ถ้าตั๋วไม่แพงมาก จองไปกลับใน booking เดียวหละค่ะ - check out รร เรียบร้อยแล้วถึงจะขอคืนค่าตั๋วได้นะคะ ส่วนระยะเวลาได้คืนก็ร้องเพลงรอกันไป
หน้าตาคืนค่าตั๋วเครื่องบิน
ตรวจสอบกลุ่มจังหวัดได้ที่นี่
สายการบินที่ร่วมเราเที่ยวด้วยกัน
การคิดเงินคืนค่าตั๋วเครื่องบิน
- วิธีขอรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน https://youtu.be/Fo508TXEIoY
- การคำนวณขอ Redeem ค่าตั๋ว คิดจาก Total Booking ทุกสายการบินมาตรฐานเดียวกันส่วนเงินคืน 40% ตามเกณฑ์
- กรณีที่ Booking เป็น แบบ Round Trip ถ้าขาใดขาหนึ่งผิดเงิ่อนไข จะได้ครึ่งหนึ่ง หรือ 50% จาก 40%
- วิธีคิด คืนค่าตั๋วต่อผู้โดยสาร คือ
จำนวน Total Booking หารด้วย จำนวนผู้โดยสาร
เกณฑ์คืนค่าตั๋วของโครงการฯ : 40% ต่อค่าตั๋วผู้โดยสาร
** แต่มูลค่าไม่เกิน 1,000 บาทต่อผู้โดยสาร
ลงทะเบียนได้ที่นี่ : https://www.xn--12c1bik6bbd8ab6hd1b5jc6jta.com/register/user
การลงทะเบียนของคืนค่าตั๋ว
- ใส่หมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนและเป็นผู้จองโรงแรม – จองตั๋ว
และหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน
2. ระบบจะส่งรหัส OTP มาที่โทรศัพท์ ให้นำหมายเลขกรองในช่อง OTP
3. กรอกชื่อนามสกุลในบัตรประชาชน ภาษาอังกฤษ เลือกโรงแรมที่ Checkout แล้ว
ในจังหวัดที่เดินทางโดยเครื่องบิน
4. เลือกสายการบินที่เดินทางและ เลขที่ BOOKING ID
5. ยืนยันขอรับสิทธิ์
6. เมื่อเข้ามาตรวจเช็คระบบจะแสดงสถานะให้ทราบว่า อนุมัติเงินสนับสนุนหรือไม่ และไม่อนุมัติเพราะเหตุใด
ต้องเป็นผู้จองตั๋วโรงแรม เราเที่ยวด้วยกันและตั๋วเครื่องบิน
- ระบบจะตรวจสอบฐานข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ และได้มีการ Check out แล้ว โดยนำข้อมูลจากตั๋วเครื่องบินมากรอกรายละเอียดลงให้ครบถ้วน
- เมื่อได้รับอนุมัติระบบจโอนเงินเข้า G – Wallet ใน APP เป๋าตังของผู้ยื่นคำของ
รอบการจ่ายเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน
หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอมสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
- 1. สาระสำคัญของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน (โครงการฯ)
- 1.1 ช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการฯ คือ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563
- 1.2 คุณสมบัติของผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ผู้ประกอบธุรกิจฯ) ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
- (1) เป็นผู้ประกอบธุรกิจฯ ที่ยังเปิดให้บริการตามปกติ ข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
- (1.1) ได้รับอนุญาตหรือดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย
- (1.2) ได้รับอนุญาตแต่หมดอายุก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563 และได้ยื่นขอต่ออายุแล้ว
- (1.3) ได้รับอนุญาตแต่หมดอายุตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นมา
- (1.4) ผู้ประกอบธุรกิจฯ นอกเหนือจากข้อ (1.1) ถึง (1.3) ที่อยู่ในระบบฐานภาษีเงินได้หรือภาษีมูลค่าเพิ่มของกรมสรรพากร ข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
- (2) ปฏิบัติตามและไม่เคยฝ่าฝืนมาตรการใด ๆ ของรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
- (3) ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563
- (4) ราคาที่พักและค่าบริการการเข้าพักอื่น ๆ (ราคาสุทธิ) รวมแล้วต้องไม่สูงกว่าราคาที่ผู้ประกอบธุรกิจฯ เสนอขายผ่านช่องทางของผู้ให้บริการจองที่พักและการท่องเที่ยวออนไลน์ (Online Travel Agency : OTA) ในเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกรณีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย (Promotion) โดย OTA ที่ผู้ประกอบธุรกิจฯ มิได้มีผลประโยชน์ในรูปแบบใด ๆ และมิได้รับรู้ด้วย
- (5) มีช่องทางรับชำระเงินออนไลน์ หรือเป็นผู้ประกอบธุรกิจฯ ที่ OTA เป็นผู้รับชำระเงินแทน
- (6) ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการอื่น ๆ ของรัฐ
- (1) เป็นผู้ประกอบธุรกิจฯ ที่ยังเปิดให้บริการตามปกติ ข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
- 1.3 คุณสมบัติของประชาชนที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
- (1) มีหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
- (2) มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ ณ วันลงทะเบียน
- (3) เป็นผู้มีสัญชาติไทย
- (4) ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563
- (5) มีแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ทั้งนี้ กระบวนการยืนยันตัวตนเพื่อใช้บริการแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” (รวมทั้ง G-wallet ในบริการแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง”) ให้เป็นไปตามที่ธนาคารกรุงไทย (จำกัด) มหาชน (ธนาคารกรุงไทยฯ) ซึ่งเป็นผู้จัดทำระบบให้รัฐบาลและเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับข้อมูลการพิสูจน์และยืนยันตัวตนดังกล่าวกำหนด
- (6) ให้ความยินยอมแก่ผู้ประกอบธุรกิจฯ ผู้ให้บริการรับชำระเงินออนไลน์ของผู้ประกอบธุรกิจฯ และ/หรือ OTA ในการส่งข้อมูลการจองและข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ธนาคารกรุงไทยฯ ในฐานะผู้จัดทำระบบให้รัฐบาล
- 1.4 ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ผู้ผลิต และผู้ประกอบการที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
- (1) ร้านอาหารที่ลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563
- (2) สถานที่ท่องเที่ยวตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากำหนด และลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563
- (3) ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการในโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (One Tambon One Product : OTOP) (ผู้ประกอบการ OTOP) ที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน และลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2563
- (4) ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ OTOP ตาม 1.4 (1) ถึง (3) ต้องไม่เป็นผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการอื่น ๆ ของรัฐ หรือฝ่าฝืนมาตรการใด ๆ ของรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
- 1.5 รัฐจะสนับสนุนเงินค่าที่พักในอัตราร้อยละ 40 ของราคาสุทธิ แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน ให้กับประชาชนผู้ได้รับสิทธิ โดยรัฐจะจ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจฯ โดยตรงหลังจากประชาชนผู้ได้รับสิทธิได้ Check out ออกจากโรงแรม
- 1.6 รัฐจะสนับสนุน E-Voucher ผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ให้แก่ประชาชนผู้ได้รับสิทธิเมื่อ Check in เข้าพักโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการฯ โดย E-Voucher มีเงื่อนไขการใช้งานดังนี้
- (1) ประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เป็นผู้จองโรงแรมจะเป็นผู้ได้รับ E-Voucher
- (2) ใช้จ่ายได้เฉพาะในร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และสถานประกอบการของผู้ประกอบการ OTOP ตามข้อ 1.4
- (3) ใช้จ่ายได้เฉพาะในสถานที่ตาม (2) ที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดในทะเบียนบ้านของประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เป็นผู้จองโรงแรม
- (4) E-Voucher จะปรากฏในแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ในเวลา 17.00 น. ของทุกวันตลอดระยะเวลาที่เข้าพัก โดยมีมูลค่าดังนี้
- (4.1) มูลค่า 900 บาทต่อห้องต่อคืน สำหรับคืนวันจันทร์ถึงคืนวันพฤหัสบดี ตามรายละเอียดการจอง
- (4.2) มูลค่า 600 บาทต่อห้องต่อคืน สำหรับคืนวันศุกร์ถึงคืนวันอาทิตย์ ตามรายละเอียดการจอง ทั้งนี้ มูลค่าของ E-Voucher สามารถสะสมได้จนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาตาม (5)
- (5) สามารถใช้จ่ายได้จนถึงเวลา 23.59 น. ของวันที่ Check out
- (6) E-Voucher สามารถใช้จ่ายได้จำนวนร้อยละ 40 ของราคาสุทธิในใบเสร็จรับเงิน
- (7) ไม่สามารถใช้ช่องทางอื่นนอกจากแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ในการใช้ชำระเงินร่วมกับ E-Voucher ได้
- 1.7 รัฐจะสนับสนุนเงินตามข้อ 1.5 และ 1.6 รวมตลอดระยะเวลาโครงการฯ ไม่เกิน 10 สิทธิต่อหนึ่งหมายเลขประจำตัวประชาชน (คำนวณจากจำนวนคืนคูณด้วยจำนวนห้อง เช่น 2 คืน 2 ห้อง จะเท่ากับ 4 สิทธิ) และรวมทั้งโครงการฯ แล้วไม่เกิน 5 ล้านสิทธิ ทั้งนี้ รัฐอาจพิจารณาเพิ่มเติมจำนวนสิทธิได้ในภายหลัง
- 1.8 การพิจารณาผู้ได้รับสิทธิตามข้อ 1.5 และ 1.6 จะพิจารณาเมื่อประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เป็นผู้จองโรงแรมชำระเงินค่าที่พักสำเร็จ ตามลำดับก่อนหลัง จนกว่าจะครบจำนวนสิทธิตามข้อ 1.7 หรือจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการฯ
- 1.9 ขั้นตอนการดำเนินโครงการฯ
- (1) โรงแรม ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวตามข้อ 1.2 และ 1.4 ลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563
- (2) ประชาชนลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563
- (3) ผู้ประกอบการ OTOP ลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563
- (4) ประชาชนตรวจสอบรายชื่อโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
- (5) ประชาชนจองที่พักโดยตรงกับโรงแรมตาม (4) หรือจองผ่าน OTA ตามขั้นตอนและวิธีการที่โรงแรมหรือ OTA กำหนด ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 และให้ความยินยอมโรงแรม ผู้ให้บริการรับชำระเงินออนไลน์ของโรงแรม และ OTA ในการส่งข้อมูลการจอง รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ธนาคารกรุงไทยฯ ซึ่งเป็นผู้จัดทำระบบให้รัฐบาล ทั้งนี้ โรงแรมที่จองจะต้องไม่ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดในทะเบียนบ้านของประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เป็นผู้จองโรงแรม
- (6) สำหรับกรณีจองที่พักโดยตรงกับโรงแรม ให้ประชาชนตรวจสอบการแจ้งเตือนการจอง (Notification) ในแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” รวมถึงตรวจสอบรายละเอียดการจองในแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” และชำระเงินค่าที่พัก (ซึ่งเป็นจำนวนที่ได้หักเงินสนับสนุนจากรัฐแล้ว) ผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ภายในเวลา 23.59 น. ของวันถัดจากวันที่ได้รับ Notification หากไม่ชำระเงินภายในกำหนดเวลาดังกล่าว การจองจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ และเมื่อชำระเงินแล้วจะไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการจองได้อีก
- (7) สำหรับกรณีจองที่พักผ่าน OTA ให้ประชาชนชำระเงินค่าที่พักตามช่องทางที่ OTA กำหนด และเมื่อชำระเงินแล้วจะไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการจองได้อีก
- (8) ประชาชนกดปุ่ม “เช็คอิน รับสิทธิคูปองท่องเที่ยว” ในแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” เมื่อ Check in โรงแรมที่จองไว้
- (9) โรงแรมสแกน QR Code ที่เกิดจากกระบวนการตาม (8) เพื่อ Check in ทั้งนี้ QR Code ดังกล่าวจะมีระยะเวลาใช้งาน 3 นาที โดยสามารถสร้างใหม่ได้
- (10) ประชาชนเข้าพัก และกดปุ่ม “ใช้คูปองท่องเที่ยว” ในแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” เพื่อใช้จ่าย E-Voucher ตามเงื่อนไขการใช้งานข้อ 1.6
- (11) สามารถ Check in เพื่อใช้สิทธิตามโครงการฯ ได้ภายในเวลา 11.59 น. ของวันถัดจากวัน Check in ตามรายละเอียดการจอง หากไม่ Check in ภายในกำหนดเวลาดังกล่าว จะถือว่าสละสิทธิสำหรับวันที่ไม่ได้ Check in นั้น ทั้งนี้ เงินที่ชำระแล้วไม่สามารถเรียกคืนได้ โดยถือว่าได้ใช้จำนวนสิทธิของตนตามที่ได้รับสิทธิจริงเท่านั้น
- (12) รัฐจะจ่ายเงินสนับสนุนให้แก่โรงแรมตามข้อ 1.5 หลังจาก Check out แล้ว โดยรัฐจะจ่ายเงินสนับสนุนให้แก่โรงแรมตามจำนวนสิทธิที่ประชาชนได้รับจริงเท่านั้น
- 2. สาระสำคัญของโครงการฯ สำหรับการโดยสารเครื่องบิน
- 2.1 หลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามข้อ 2. นี้ ใช้บังคับกับเฉพาะประชาชนที่เดินทางโดยเครื่องบินเท่านั้น ทั้งนี้ การเดินทางดังกล่าวจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าร่วมโครงการฯ
- 2.2 คุณสมบัติของผู้ประกอบธุรกิจสายการบิน (สายการบิน) ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
- (1) มีเส้นทางบินภายในประเทศ
- (2) ควบคุมดูแลให้ตัวแทนจำหน่าย (ถ้ามี) เสนอขายบัตรโดยสารเครื่องบินให้แก่ประชาชนในลักษณะที่ทำให้ประชาชนทราบได้ว่าค่าบัตรโดยสารเป็นจำนวนเท่าใด และค่าคอมมิชชั่น (ถ้ามี) เป็นจำนวนเท่าใด ทั้งนี้ รัฐจะสนับสนุนเงินตามข้อ 2.4 โดยคำนวณจากค่าบัตรโดยสารเท่านั้น
- (3) ปฏิบัติตามและไม่เคยฝ่าฝืนมาตรการใด ๆ ของรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
- (4) ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการอื่น ๆ ของรัฐ
- 2.3 คุณสมบัติของประชาชนที่มีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน
- (1) ประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เป็นผู้จองโรงแรมและได้ทำการจองบัตรโดยสารเครื่องบินโดยตรงกับสายการบินหรือผ่านตัวแทนจำหน่าย
- (2) ให้ความยินยอมแก่สายการบินในการส่งข้อมูลการจองและข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ธนาคารกรุงไทยฯ ในฐานะผู้จัดทำระบบให้รัฐบาล
- 2.4 รัฐจะสนับสนุนเงินค่าบัตรโดยสารผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ของประชาชนผู้จองบัตรโดยสารเครื่องบิน ในอัตราร้อยละ 40 ของราคาสุทธิค่าบัตรโดยสารของหนึ่งผู้โดยสาร (กรณีเป็นบัตรโดยสารขาไป-กลับจะนับเป็นหนึ่งผู้โดยสาร) แต่ไม่เกิน 2,000 บาทต่อบัตรโดยสารของหนึ่งผู้โดยสาร ทั้งนี้ เงื่อนไขการขอได้รับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารมีดังนี้
- (1) เป็นการจองบัตรโดยสารเครื่องบินตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563
- (2) ในการจองบัตรโดยสารหนึ่งครั้งจะมีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารไม่เกิน 2 ผู้โดยสารต่อ 1 ห้องพักที่จอง โดยห้องพักที่จองจะต้องเป็นห้องพักที่ได้รับสิทธิตามข้อ 1. เช่น จองห้องพัก 2 ห้อง 2 คืน จะมีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารไม่เกิน 4 ผู้โดยสาร
- (3) ในการจองบัตรโดยสารหนึ่งครั้ง จำนวนการใช้สิทธิคือ 2 ผู้โดยสารต่อ 1 ห้องพักที่จอง เช่น จองห้องพัก 2 ห้อง 2 คืน จะเสียสิทธิจำนวน 4 ผู้โดยสาร แม้ว่าจะเดินทางเพียง 2 คน แต่รัฐจะสนับสนุนเงินค่าบัตรโดยสารสำหรับการโดยสารที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น
- (4) การใช้สิทธิขั้นต่ำ คือ 2 ผู้โดยสารต่อการจองหนึ่งครั้ง เช่น กรณีเดินทางคนเดียวโดยจองห้องพัก 1 ห้อง 1 คืน จะเสียสิทธิจำนวน 2 ผู้โดยสาร แต่รัฐจะสนับสนุนเงินค่าบัตรโดยสารสำหรับ 1 คนเท่านั้น
- (5) ต้องเป็นเส้นทางการบินที่มีต้นทางหรือจุดหมายปลายทางอยู่ในจังหวัดที่เป็นสถานที่ตั้งของโรงแรม หรือจังหวัดใกล้เคียงกับจังหวัดสถานที่ตั้งของโรงแรม ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อจังหวัดใกล้เคียงได้ในเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
- (6) ในกรณีใช้สิทธิรับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารสำหรับการบินเที่ยวขาไป วันที่ Check in ขึ้นเครื่องจะต้องห่างจากวันที่ Check in โรงแรมไม่เกิน 5 วัน ทั้งนี้ จะพิจารณาจากวันที่ Check in ทั้งโรงแรมและสายการบินจริงเท่านั้น
- (7) ในกรณีที่ใช้สิทธิรับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารสำหรับการบินเที่ยวขากลับ วันที่ Check in ขึ้นเครื่องจะต้องห่างจากวันที่ Check out โรงแรมไม่เกิน 5 วัน ทั้งนี้ จะพิจารณาจากวันที่ Check in และ Check out จริงเท่านั้น
- (8) ในกรณีที่จองบัตรโดยสารขาไป-กลับ (Round trip) แต่มีการโดยสารจริงเพียงเที่ยวเดียว (ไปหรือกลับ) จะขอรับสิทธิเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบินได้เพียงครึ่งหนึ่งของข้อ 2.4 เท่านั้น
- (9) เมื่อ Check out ออกจากโรงแรมแล้ว จะต้องกรอกข้อมูลและกดปุ่ม “ลงทะเบียนรับสิทธิตั๋วเครื่องบิน” ผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เพื่อขอรับสิทธิเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบินภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 (ขยายเราเที่ยวด้วยกัน ไปถึงวันที่ 31 ม.ค. 2564) ทั้งนี้ ชื่อ-นามสกุล ภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในการจองบัตรโดยสารเครื่องบินจะต้องถูกต้องตรงกับชื่อ-นามสกุล ภาษาอังกฤษบนบัตรประจำตัวประชาชน
- 2.5 รัฐจะสนับสนุนเงินค่าบัตรโดยสารเครื่องบินรวมทั้งโครงการฯ ไม่เกิน 2 ล้านผู้โดยสาร
- 2.6 การพิจารณาผู้ได้รับสิทธิตามข้อ 2.4 จะพิจารณาเมื่อประชาชนผู้จองได้ดำเนินการตามข้อ 2.4 (9) ครบถ้วนและได้รับการตรวจสอบข้อมูลว่าถูกต้อง ตามลำดับก่อนหลัง จนกว่าจะครบจำนวนสิทธิตามข้อ 2.5 หรือจนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาตามข้อ 2.4 (9)
- 3. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ
- 3.1 การใช้จ่าย E-Voucher จะสามารถใช้จ่ายได้เฉพาะเพื่อชำระค่าอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านอาหาร และค่าผ่านประตู ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการอื่นใด ของสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขการใช้งาน E-Voucher ตามข้อ 1.6
- 3.2 การชำระเงินโดยใช้ E-Voucher จะต้องชำระทั้งจำนวนตามที่ปรากฏในใบเสร็จรับเงินในคราวเดียว เช่น กรณีใบเสร็จรับเงินระบุจำนวนค่าอาหารและเครื่องดื่มรวมทั้งหมด 1,000 บาท สามารถใช้ E-Voucher ชำระได้จำนวน 400 บาท และจะต้องชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” อีก 600 บาท
- 3.3 เมื่อผู้เข้าร่วมโครงการฯ จองโรงแรมที่พักและชำระเงินเรียบร้อยแล้ว หากเกิดปัญหาอย่างใด ๆ ขึ้นที่ทำให้เกิดอุปสรรคต่อการเข้าพัก เข้ารับบริการ หรือการใช้สิทธิตามโครงการฯ ให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ เรียกคืนความเสียหายจากโรงแรม
- 3.4 ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ต้องปฏิบัติตามสาระสำคัญของโครงการฯ รวมถึงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ
- 3.5 ห้ามผู้เข้าร่วมโครงการฯ กระทำการใด ๆ อันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือความปั่นป่วนที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินโครงการฯ หรือมาตรการอื่น ๆ ของรัฐ
- 3.6 หากผู้เข้าร่วมโครงการฯ ไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการฯ ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ดังกล่าวจะต้องจ่ายเงินคืนให้แก่รัฐภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งถึงการกระทำดังกล่าว โดยจ่ายเงินคืนผ่านช่องทางที่กระทรวงการคลังกำหนด
- 4. ข้อความตกลงยินยอมของประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ
* “ข้าพเจ้า” หมายถึง บุคคลผู้เข้าร่วมโครงการฯ *- 4.1 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทยฯ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ
- 4.2 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทยฯ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดเก็บ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (ข้อมูลศาสนา และข้อมูลชีวภาพ ซึ่งจัดเก็บจากระบบและแอปพลิเคชั่นเพื่อประโยชน์ของโครงการฯ) ของข้าพเจ้า และข้อมูลการชำระเงินตามโครงการฯ ต่อหน่วยงานของรัฐ และผู้รับให้บริการที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานของรัฐ เพื่อการประมวลผลและการตรวจสอบข้อมูล และ/หรือเพื่อการยืนยันตัวตนหรือเพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อรับสิทธิตามโครงการฯ และ/หรือเพื่อการบริหารจัดการโครงการฯ
- 4.3 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทยฯ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดเก็บ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า และข้อมูลการชำระเงินตามโครงการฯ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินมาตรการอื่นของรัฐหรือเพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินในอนาคต
- 4.4 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องร้องขอ สอบถาม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า และข้อมูลการชำระเงินตามโครงการฯ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินโครงการฯ
- 4.5 ความยินยอมของข้าพเจ้าในอันที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บ ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า และข้อมูลการชำระเงินตามโครงการฯ ตามข้อ 4. นี้ ให้มีผลไปตลอดช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการฯ เว้นแต่ความยินยอมตามข้อ 4.3
- 4.6 ข้าพเจ้าตกลงปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ และรับทราบว่าหากข้าพเจ้าไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการฯ ข้าพเจ้าจะต้องคืนเงินที่ได้รับตามโครงการฯ ให้แก่กระทรวงการคลังภายใน 7 วัน
- 4.7 ข้าพเจ้ารับทราบและยินยอมว่า ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าข้าพเจ้าไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการฯ กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิตามโครงการฯ ของข้าพเจ้าเพื่อดำเนินการตรวจสอบ และหากพบว่าข้าพเจ้ากระทำการดังกล่าวจริง ข้าพเจ้าจะต้องคืนเงินที่ได้รับไปแล้วให้แก่กระทรวงการคลังภายใน 7 วัน ทั้งนี้ ให้การตัดสินของกระทรวงการคลังถือเป็นที่สุด
- 4.8 ข้าพเจ้ารับทราบว่าการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย
ข้าพเจ้าได้อ่าน รับทราบ และตกลงยินยอมปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ถูกต้องตามความเป็นจริงทุกประการ หากข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการระงับการจ่ายเงินตามโครงการฯ หรือยินยอมคืนเงินที่ได้รับพร้อมดอกเบี้ย แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ไม่ระงับซึ่งสิทธิของรัฐในอันที่จะดำเนินการตามกฎหมายข้าพเจ้าได้อ่าน และตกลงยินยอมตามรายละเอียดข้อตกลงและความยินยอมข้างต้น