Site icon Relaxtrip2018.com

การลงทะเบียนรับสิทธิ์ ค่าตั๋วเครื่องบิน เราเที่ยวด้วยกัน

รับสิทธิตั๋วเครื่องบิน เราเที่ยวด้วยกัน

(1) เป็นการจองบัตรโดยสารเครื่องบินตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563
(เราเที่ยวด้วยกัน ไปถึงวันที่ 31 ม.ค. 2564)

(2) ในการจองบัตรโดยสารหนึ่งครั้งจะมีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารไม่เกิน 2 ผู้โดยสารต่อ 1 ห้องพักที่จอง โดยห้องพักที่จองจะต้องเป็นห้องพักที่ได้รับสิทธิตามข้อ 1. เช่น จองห้องพัก 2 ห้อง 2 คืน จะมีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารไม่เกิน 4 ผู้โดยสาร

(3) ในการจองบัตรโดยสารหนึ่งครั้ง จำนวนการใช้สิทธิคือ 2 ผู้โดยสารต่อ 1 ห้องพักที่จอง เช่น จองห้องพัก 2 ห้อง 2 คืน จะเสียสิทธิจำนวน 4 ผู้โดยสาร แม้ว่าจะเดินทางเพียง 2 คน แต่รัฐจะสนับสนุนเงินค่าบัตรโดยสารสำหรับการโดยสารที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น

(4) การใช้สิทธิขั้นต่ำ คือ 2 ผู้โดยสารต่อการจองหนึ่งครั้ง เช่น กรณีเดินทางคนเดียวโดยจองห้องพัก 1 ห้อง 1 คืน จะเสียสิทธิจำนวน 2 ผู้โดยสาร แต่รัฐจะสนับสนุนเงินค่าบัตรโดยสารสำหรับ 1 คนเท่านั้น

(5) ต้องเป็นเส้นทางการบินที่มีต้นทางหรือจุดหมายปลายทางอยู่ในจังหวัดที่เป็นสถานที่ตั้งของโรงแรม หรือจังหวัดใกล้เคียงกับจังหวัดสถานที่ตั้งของโรงแรม ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อจังหวัดใกล้เคียงได้ในเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com

(6) ในกรณีใช้สิทธิรับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารสำหรับการบินเที่ยวขาไป วันที่ Check in ขึ้นเครื่องจะต้องห่างจากวันที่ Check in โรงแรมไม่เกิน 5 วัน ทั้งนี้ จะพิจารณาจากวันที่ Check in ทั้งโรงแรมและสายการบินจริงเท่านั้น

(7) ในกรณีที่ใช้สิทธิรับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารสำหรับการบินเที่ยวขากลับ วันที่ Check in ขึ้นเครื่องจะต้องห่างจากวันที่ Check out โรงแรมไม่เกิน 5 วัน ทั้งนี้ จะพิจารณาจากวันที่ Check in และ Check out จริงเท่านั้น

(8) ในกรณีที่จองบัตรโดยสารขาไป-กลับ (Round trip) แต่มีการโดยสารจริงเพียงเที่ยวเดียว (ไปหรือกลับ) จะขอรับสิทธิเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบินได้เพียงครึ่งหนึ่งของข้อ 2.4 เท่านั้น

(9) เมื่อ Check out ออกจากโรงแรมแล้ว จะต้องกรอกข้อมูลและกดปุ่ม “ลงทะเบียนรับสิทธิตั๋วเครื่องบิน” ผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เพื่อขอรับสิทธิเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบินภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 ทั้งนี้ ชื่อ-นามสกุล ภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในการจองบัตรโดยสารเครื่องบินจะต้องถูกต้องตรงกับชื่อ-นามสกุล ภาษาอังกฤษบนบัตรประจำตัวประชาชน

คำถามข้อสงสัย

กรณีประชาชนเดินทาง 3 ท่านใน booking เที่ยวบินเดียวกันจะสามารถขอรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินได้กี่สิทธิ และผู้โดยสารทั้งหมดต้องลงทะเบียนในโครงการหรือไม่ 

ตอบ : ประชาชนที่ทำการจองโรงแรมผ่านโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน สำเร็จ มีสิทธิในการได้รับเงินสนับสนุน 2 ผู้โดยสารต่อ 1 ห้องโรงแรมที่จองผ่านโครงการ ดังนั้นในกรณีนี้ หากมีการจองโรงแรมมากกว่า 1 ห้อง จะสามารถขอรับสิทธิเงินสนับสนุนได้มากกว่า 2 ผู้โดยสาร โดยผู้ที่จองโรงแรมและเข้ามากรอกยื่นคำขอรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเท่านั้นที่ต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนโครงการสำเร็จ ผู้โดยสารอีกสองท่านไม่ต้องทำการลงทะเบียน แต่จะต้องมีการเดินทางจริง

เครดิต : FACEBOOK “กลุ่มเราเที่ยวด้วยกัน” : ประเด็นการขอคืนค่าตั๋วเครื่องบิน 40 %

  1. การ redeem คือ 1 ห้อง = 2 คน อิงห้องพักเป็นหลักนะคะ ไป 4 คน นอนห้องใหญ่ แต่ 2 คืนก็จะไม่ได้นะคะ เพราะสิทธิ์ อิงที่ห้องพัก
    โดยที่ จะคืนได้ ทั้ง 2 คนเนี่ย คนที่จอง รร จะต้องทำการจองตั๋วด้วยและ มีชื่อ อีกคนด้วยใน booking เดียวกัน
  2. ห้ามแยกจองตั๋วเครื่องบินเด็ดขาด ถ้าไป 4 คนก็จอง 2 ห้องค่ะ โดยที่ ถ้าเราจะทำการจองทั้ง 2 ห้อง เป็นแค่ 1 booking ก็ จองตั๋วรวม 4 คน ใน booking เดียว
    แต่ถ้าเราอยาก make sure จะแยกกันจองทีละ 2 คน
    เราก็ต้อง ทำการแยกตั๋ว 2 booking เช่นกัน และในแต่ละ booking จะต้องมี ชื่อคนจอง รร นั้นๆ ให้สอดคล้องกันด้วยนะคะ
  3. โดยเงินคืน คือ 40% ของค่าตั๋ว แต่ไม่เกิน 2,000 บาท (มีผล 1 กันยา ) ต่อคน นะคะ ไม่ได้หมายความว่าจะได้ 2,000 เลย
  4. อย่าลืมเช็ค สนามบินที่ลงว่าอยู่กลุ่มเดียวกับจังหวัดที่พักมั้ย มีเพื่อน ลงพิษณุโลก ไปเที่ยวเพชรบูรณ์ แบบนี้ก็อดเบิกไม่ได้
  5. นับวัน ให้ดี เรื่อง 5 วัน นะค่ะ ของวัน check in / check out รร กับ ตั๋วเครื่องบิน
  6. สำคัญมาก อย่าลืม “ชื่อคนจอง รร จะต้องเป็นชื่อเดียวกับคนจองตั๋วเครื่องบิน” ด้วยนะคะ ก็คือบินไปด้วยกันหละ ต้องมีชื่ออยู่ใน booking เดียวกัน ถ้าจะจองแยก บุคกิ้ง ก็ต้องมีการจอง รร แยก เพื่อให้มี รร มาจับคู่กับ ตั๋วเครื่องบิน
  7. เนื่องจาก 1 booking ของตั๋วเครื่องบิน สามารถ redeem ได้แค่ครั้งเดียวนะคะ เพราะงั้นจะมาจองตั๋วเครื่องบินรวมกัน จองแยกห้องกันไม่ได้เลย
  8. แล้วถ้าจองไปกลับ คนละ booking หละ ? แบบนี้ต้องทำการจองแยก รร เป็น 2 booking ค่ะ นอนคืนละที่ งี้ เพื่อที่เราจะสามารถ จับคู่ booking ตั๋วเครื่องบิน ได้ 2 อันลงตัวพอดี
    แต่แนะนำ ลดความยุ่งยาก ถ้าตั๋วไม่แพงมาก จองไปกลับใน booking เดียวหละค่ะ
  9. check out รร เรียบร้อยแล้วถึงจะขอคืนค่าตั๋วได้นะคะ ส่วนระยะเวลาได้คืนก็ร้องเพลงรอกันไป

หน้าตาคืนค่าตั๋วเครื่องบิน

ตรวจสอบกลุ่มจังหวัดได้ที่นี่

สายการบินที่ร่วมเราเที่ยวด้วยกัน

การคิดเงินคืนค่าตั๋วเครื่องบิน

การลงทะเบียนของคืนค่าตั๋ว

  1. ใส่หมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนและเป็นผู้จองโรงแรม – จองตั๋ว
    และหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน

2. ระบบจะส่งรหัส OTP มาที่โทรศัพท์ ให้นำหมายเลขกรองในช่อง OTP

3. กรอกชื่อนามสกุลในบัตรประชาชน ภาษาอังกฤษ เลือกโรงแรมที่ Checkout แล้ว
ในจังหวัดที่เดินทางโดยเครื่องบิน

4. เลือกสายการบินที่เดินทางและ เลขที่ BOOKING ID

5. ยืนยันขอรับสิทธิ์

6. เมื่อเข้ามาตรวจเช็คระบบจะแสดงสถานะให้ทราบว่า อนุมัติเงินสนับสนุนหรือไม่ และไม่อนุมัติเพราะเหตุใด

ต้องเป็นผู้จองตั๋วโรงแรม เราเที่ยวด้วยกันและตั๋วเครื่องบิน

รอบการจ่ายเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน


หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอมสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน

  1. 1. สาระสำคัญของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน (โครงการฯ)
    1. 1.1 ช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการฯ คือ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563
    2. 1.2 คุณสมบัติของผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ผู้ประกอบธุรกิจฯ) ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
      1. (1) เป็นผู้ประกอบธุรกิจฯ ที่ยังเปิดให้บริการตามปกติ ข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
        1. (1.1) ได้รับอนุญาตหรือดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย
        2. (1.2) ได้รับอนุญาตแต่หมดอายุก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563 และได้ยื่นขอต่ออายุแล้ว
        3. (1.3) ได้รับอนุญาตแต่หมดอายุตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นมา
        4. (1.4) ผู้ประกอบธุรกิจฯ นอกเหนือจากข้อ (1.1) ถึง (1.3) ที่อยู่ในระบบฐานภาษีเงินได้หรือภาษีมูลค่าเพิ่มของกรมสรรพากร ข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
      2. (2) ปฏิบัติตามและไม่เคยฝ่าฝืนมาตรการใด ๆ ของรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
      3. (3) ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563
      4. (4) ราคาที่พักและค่าบริการการเข้าพักอื่น ๆ (ราคาสุทธิ) รวมแล้วต้องไม่สูงกว่าราคาที่ผู้ประกอบธุรกิจฯ เสนอขายผ่านช่องทางของผู้ให้บริการจองที่พักและการท่องเที่ยวออนไลน์ (Online Travel Agency : OTA) ในเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกรณีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย (Promotion) โดย OTA ที่ผู้ประกอบธุรกิจฯ มิได้มีผลประโยชน์ในรูปแบบใด ๆ และมิได้รับรู้ด้วย
      5. (5) มีช่องทางรับชำระเงินออนไลน์ หรือเป็นผู้ประกอบธุรกิจฯ ที่ OTA เป็นผู้รับชำระเงินแทน
      6. (6) ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการอื่น ๆ ของรัฐ
    3. 1.3 คุณสมบัติของประชาชนที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
      1. (1) มีหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
      2. (2) มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ ณ วันลงทะเบียน
      3. (3) เป็นผู้มีสัญชาติไทย
      4. (4) ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563
      5. (5) มีแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ทั้งนี้ กระบวนการยืนยันตัวตนเพื่อใช้บริการแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” (รวมทั้ง G-wallet ในบริการแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง”) ให้เป็นไปตามที่ธนาคารกรุงไทย (จำกัด) มหาชน (ธนาคารกรุงไทยฯ) ซึ่งเป็นผู้จัดทำระบบให้รัฐบาลและเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับข้อมูลการพิสูจน์และยืนยันตัวตนดังกล่าวกำหนด
      6. (6) ให้ความยินยอมแก่ผู้ประกอบธุรกิจฯ ผู้ให้บริการรับชำระเงินออนไลน์ของผู้ประกอบธุรกิจฯ และ/หรือ OTA ในการส่งข้อมูลการจองและข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ธนาคารกรุงไทยฯ ในฐานะผู้จัดทำระบบให้รัฐบาล
    4. 1.4 ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ผู้ผลิต และผู้ประกอบการที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
      1. (1) ร้านอาหารที่ลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563
      2. (2) สถานที่ท่องเที่ยวตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากำหนด และลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563
      3. (3) ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการในโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (One Tambon One Product : OTOP) (ผู้ประกอบการ OTOP) ที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน และลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2563
      4. (4) ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ OTOP ตาม 1.4 (1) ถึง (3) ต้องไม่เป็นผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการอื่น ๆ ของรัฐ หรือฝ่าฝืนมาตรการใด ๆ ของรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
    5. 1.5 รัฐจะสนับสนุนเงินค่าที่พักในอัตราร้อยละ 40 ของราคาสุทธิ แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน ให้กับประชาชนผู้ได้รับสิทธิ โดยรัฐจะจ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจฯ โดยตรงหลังจากประชาชนผู้ได้รับสิทธิได้ Check out ออกจากโรงแรม
    6. 1.6 รัฐจะสนับสนุน E-Voucher ผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ให้แก่ประชาชนผู้ได้รับสิทธิเมื่อ Check in เข้าพักโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการฯ โดย E-Voucher มีเงื่อนไขการใช้งานดังนี้
      1. (1) ประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เป็นผู้จองโรงแรมจะเป็นผู้ได้รับ E-Voucher
      2. (2) ใช้จ่ายได้เฉพาะในร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และสถานประกอบการของผู้ประกอบการ OTOP ตามข้อ 1.4
      3. (3) ใช้จ่ายได้เฉพาะในสถานที่ตาม (2) ที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดในทะเบียนบ้านของประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เป็นผู้จองโรงแรม
      4. (4) E-Voucher จะปรากฏในแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ในเวลา 17.00 น. ของทุกวันตลอดระยะเวลาที่เข้าพัก โดยมีมูลค่าดังนี้
        1. (4.1) มูลค่า 900 บาทต่อห้องต่อคืน สำหรับคืนวันจันทร์ถึงคืนวันพฤหัสบดี ตามรายละเอียดการจอง
        2. (4.2) มูลค่า 600 บาทต่อห้องต่อคืน สำหรับคืนวันศุกร์ถึงคืนวันอาทิตย์ ตามรายละเอียดการจอง ทั้งนี้ มูลค่าของ E-Voucher สามารถสะสมได้จนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาตาม (5)
      5. (5) สามารถใช้จ่ายได้จนถึงเวลา 23.59 น. ของวันที่ Check out
      6. (6) E-Voucher สามารถใช้จ่ายได้จำนวนร้อยละ 40 ของราคาสุทธิในใบเสร็จรับเงิน
      7. (7) ไม่สามารถใช้ช่องทางอื่นนอกจากแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ในการใช้ชำระเงินร่วมกับ E-Voucher ได้
    7. 1.7 รัฐจะสนับสนุนเงินตามข้อ 1.5 และ 1.6 รวมตลอดระยะเวลาโครงการฯ ไม่เกิน 10 สิทธิต่อหนึ่งหมายเลขประจำตัวประชาชน (คำนวณจากจำนวนคืนคูณด้วยจำนวนห้อง เช่น 2 คืน 2 ห้อง จะเท่ากับ 4 สิทธิ) และรวมทั้งโครงการฯ แล้วไม่เกิน 5 ล้านสิทธิ ทั้งนี้ รัฐอาจพิจารณาเพิ่มเติมจำนวนสิทธิได้ในภายหลัง
    8. 1.8 การพิจารณาผู้ได้รับสิทธิตามข้อ 1.5 และ 1.6 จะพิจารณาเมื่อประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เป็นผู้จองโรงแรมชำระเงินค่าที่พักสำเร็จ ตามลำดับก่อนหลัง จนกว่าจะครบจำนวนสิทธิตามข้อ 1.7 หรือจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการฯ
    9. 1.9 ขั้นตอนการดำเนินโครงการฯ
      1. (1) โรงแรม ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวตามข้อ 1.2 และ 1.4 ลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563
      2. (2) ประชาชนลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563
      3. (3) ผู้ประกอบการ OTOP ลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563
      4. (4) ประชาชนตรวจสอบรายชื่อโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
      5. (5) ประชาชนจองที่พักโดยตรงกับโรงแรมตาม (4) หรือจองผ่าน OTA ตามขั้นตอนและวิธีการที่โรงแรมหรือ OTA กำหนด ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 และให้ความยินยอมโรงแรม ผู้ให้บริการรับชำระเงินออนไลน์ของโรงแรม และ OTA ในการส่งข้อมูลการจอง รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ธนาคารกรุงไทยฯ ซึ่งเป็นผู้จัดทำระบบให้รัฐบาล ทั้งนี้ โรงแรมที่จองจะต้องไม่ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดในทะเบียนบ้านของประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เป็นผู้จองโรงแรม
      6. (6) สำหรับกรณีจองที่พักโดยตรงกับโรงแรม ให้ประชาชนตรวจสอบการแจ้งเตือนการจอง (Notification) ในแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” รวมถึงตรวจสอบรายละเอียดการจองในแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” และชำระเงินค่าที่พัก (ซึ่งเป็นจำนวนที่ได้หักเงินสนับสนุนจากรัฐแล้ว) ผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ภายในเวลา 23.59 น. ของวันถัดจากวันที่ได้รับ Notification หากไม่ชำระเงินภายในกำหนดเวลาดังกล่าว การจองจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ และเมื่อชำระเงินแล้วจะไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการจองได้อีก
      7. (7) สำหรับกรณีจองที่พักผ่าน OTA ให้ประชาชนชำระเงินค่าที่พักตามช่องทางที่ OTA กำหนด และเมื่อชำระเงินแล้วจะไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการจองได้อีก
      8. (8) ประชาชนกดปุ่ม “เช็คอิน รับสิทธิคูปองท่องเที่ยว” ในแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” เมื่อ Check in โรงแรมที่จองไว้
      9. (9) โรงแรมสแกน QR Code ที่เกิดจากกระบวนการตาม (8) เพื่อ Check in ทั้งนี้ QR Code ดังกล่าวจะมีระยะเวลาใช้งาน 3 นาที โดยสามารถสร้างใหม่ได้
      10. (10) ประชาชนเข้าพัก และกดปุ่ม “ใช้คูปองท่องเที่ยว” ในแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” เพื่อใช้จ่าย E-Voucher ตามเงื่อนไขการใช้งานข้อ 1.6
      11. (11) สามารถ Check in เพื่อใช้สิทธิตามโครงการฯ ได้ภายในเวลา 11.59 น. ของวันถัดจากวัน Check in ตามรายละเอียดการจอง หากไม่ Check in ภายในกำหนดเวลาดังกล่าว จะถือว่าสละสิทธิสำหรับวันที่ไม่ได้ Check in นั้น ทั้งนี้ เงินที่ชำระแล้วไม่สามารถเรียกคืนได้ โดยถือว่าได้ใช้จำนวนสิทธิของตนตามที่ได้รับสิทธิจริงเท่านั้น
      12. (12) รัฐจะจ่ายเงินสนับสนุนให้แก่โรงแรมตามข้อ 1.5 หลังจาก Check out แล้ว โดยรัฐจะจ่ายเงินสนับสนุนให้แก่โรงแรมตามจำนวนสิทธิที่ประชาชนได้รับจริงเท่านั้น
  2. 2. สาระสำคัญของโครงการฯ สำหรับการโดยสารเครื่องบิน
    1. 2.1 หลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามข้อ 2. นี้ ใช้บังคับกับเฉพาะประชาชนที่เดินทางโดยเครื่องบินเท่านั้น ทั้งนี้ การเดินทางดังกล่าวจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าร่วมโครงการฯ
    2. 2.2 คุณสมบัติของผู้ประกอบธุรกิจสายการบิน (สายการบิน) ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
      1. (1) มีเส้นทางบินภายในประเทศ
      2. (2) ควบคุมดูแลให้ตัวแทนจำหน่าย (ถ้ามี) เสนอขายบัตรโดยสารเครื่องบินให้แก่ประชาชนในลักษณะที่ทำให้ประชาชนทราบได้ว่าค่าบัตรโดยสารเป็นจำนวนเท่าใด และค่าคอมมิชชั่น (ถ้ามี) เป็นจำนวนเท่าใด ทั้งนี้ รัฐจะสนับสนุนเงินตามข้อ 2.4 โดยคำนวณจากค่าบัตรโดยสารเท่านั้น
      3. (3) ปฏิบัติตามและไม่เคยฝ่าฝืนมาตรการใด ๆ ของรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
      4. (4) ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการอื่น ๆ ของรัฐ
    3. 2.3 คุณสมบัติของประชาชนที่มีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน
      1. (1) ประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เป็นผู้จองโรงแรมและได้ทำการจองบัตรโดยสารเครื่องบินโดยตรงกับสายการบินหรือผ่านตัวแทนจำหน่าย
      2. (2) ให้ความยินยอมแก่สายการบินในการส่งข้อมูลการจองและข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ธนาคารกรุงไทยฯ ในฐานะผู้จัดทำระบบให้รัฐบาล
    4. 2.4 รัฐจะสนับสนุนเงินค่าบัตรโดยสารผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ของประชาชนผู้จองบัตรโดยสารเครื่องบิน ในอัตราร้อยละ 40 ของราคาสุทธิค่าบัตรโดยสารของหนึ่งผู้โดยสาร (กรณีเป็นบัตรโดยสารขาไป-กลับจะนับเป็นหนึ่งผู้โดยสาร) แต่ไม่เกิน 2,000 บาทต่อบัตรโดยสารของหนึ่งผู้โดยสาร ทั้งนี้ เงื่อนไขการขอได้รับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารมีดังนี้
      1. (1) เป็นการจองบัตรโดยสารเครื่องบินตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563
      2. (2) ในการจองบัตรโดยสารหนึ่งครั้งจะมีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารไม่เกิน 2 ผู้โดยสารต่อ 1 ห้องพักที่จอง โดยห้องพักที่จองจะต้องเป็นห้องพักที่ได้รับสิทธิตามข้อ 1. เช่น จองห้องพัก 2 ห้อง 2 คืน จะมีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารไม่เกิน 4 ผู้โดยสาร
      3. (3) ในการจองบัตรโดยสารหนึ่งครั้ง จำนวนการใช้สิทธิคือ 2 ผู้โดยสารต่อ 1 ห้องพักที่จอง เช่น จองห้องพัก 2 ห้อง 2 คืน จะเสียสิทธิจำนวน 4 ผู้โดยสาร แม้ว่าจะเดินทางเพียง 2 คน แต่รัฐจะสนับสนุนเงินค่าบัตรโดยสารสำหรับการโดยสารที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น
      4. (4) การใช้สิทธิขั้นต่ำ คือ 2 ผู้โดยสารต่อการจองหนึ่งครั้ง เช่น กรณีเดินทางคนเดียวโดยจองห้องพัก 1 ห้อง 1 คืน จะเสียสิทธิจำนวน 2 ผู้โดยสาร แต่รัฐจะสนับสนุนเงินค่าบัตรโดยสารสำหรับ 1 คนเท่านั้น
      5. (5) ต้องเป็นเส้นทางการบินที่มีต้นทางหรือจุดหมายปลายทางอยู่ในจังหวัดที่เป็นสถานที่ตั้งของโรงแรม หรือจังหวัดใกล้เคียงกับจังหวัดสถานที่ตั้งของโรงแรม ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อจังหวัดใกล้เคียงได้ในเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
      6. (6) ในกรณีใช้สิทธิรับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารสำหรับการบินเที่ยวขาไป วันที่ Check in ขึ้นเครื่องจะต้องห่างจากวันที่ Check in โรงแรมไม่เกิน 5 วัน ทั้งนี้ จะพิจารณาจากวันที่ Check in ทั้งโรงแรมและสายการบินจริงเท่านั้น
      7. (7) ในกรณีที่ใช้สิทธิรับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารสำหรับการบินเที่ยวขากลับ วันที่ Check in ขึ้นเครื่องจะต้องห่างจากวันที่ Check out โรงแรมไม่เกิน 5 วัน ทั้งนี้ จะพิจารณาจากวันที่ Check in และ Check out จริงเท่านั้น
      8. (8) ในกรณีที่จองบัตรโดยสารขาไป-กลับ (Round trip) แต่มีการโดยสารจริงเพียงเที่ยวเดียว (ไปหรือกลับ) จะขอรับสิทธิเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบินได้เพียงครึ่งหนึ่งของข้อ 2.4 เท่านั้น
      9. (9) เมื่อ Check out ออกจากโรงแรมแล้ว จะต้องกรอกข้อมูลและกดปุ่ม “ลงทะเบียนรับสิทธิตั๋วเครื่องบิน” ผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เพื่อขอรับสิทธิเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบินภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 (ขยายเราเที่ยวด้วยกัน ไปถึงวันที่ 31 ม.ค. 2564) ทั้งนี้ ชื่อ-นามสกุล ภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในการจองบัตรโดยสารเครื่องบินจะต้องถูกต้องตรงกับชื่อ-นามสกุล ภาษาอังกฤษบนบัตรประจำตัวประชาชน
    5. 2.5 รัฐจะสนับสนุนเงินค่าบัตรโดยสารเครื่องบินรวมทั้งโครงการฯ ไม่เกิน 2 ล้านผู้โดยสาร
    6. 2.6 การพิจารณาผู้ได้รับสิทธิตามข้อ 2.4 จะพิจารณาเมื่อประชาชนผู้จองได้ดำเนินการตามข้อ 2.4 (9) ครบถ้วนและได้รับการตรวจสอบข้อมูลว่าถูกต้อง ตามลำดับก่อนหลัง จนกว่าจะครบจำนวนสิทธิตามข้อ 2.5 หรือจนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาตามข้อ 2.4 (9)
  3. 3. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ
    1. 3.1 การใช้จ่าย E-Voucher จะสามารถใช้จ่ายได้เฉพาะเพื่อชำระค่าอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านอาหาร และค่าผ่านประตู ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการอื่นใด ของสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขการใช้งาน E-Voucher ตามข้อ 1.6
    2. 3.2 การชำระเงินโดยใช้ E-Voucher จะต้องชำระทั้งจำนวนตามที่ปรากฏในใบเสร็จรับเงินในคราวเดียว เช่น กรณีใบเสร็จรับเงินระบุจำนวนค่าอาหารและเครื่องดื่มรวมทั้งหมด 1,000 บาท สามารถใช้ E-Voucher ชำระได้จำนวน 400 บาท และจะต้องชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” อีก 600 บาท
    3. 3.3 เมื่อผู้เข้าร่วมโครงการฯ จองโรงแรมที่พักและชำระเงินเรียบร้อยแล้ว หากเกิดปัญหาอย่างใด ๆ ขึ้นที่ทำให้เกิดอุปสรรคต่อการเข้าพัก เข้ารับบริการ หรือการใช้สิทธิตามโครงการฯ ให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ เรียกคืนความเสียหายจากโรงแรม
    4. 3.4 ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ต้องปฏิบัติตามสาระสำคัญของโครงการฯ รวมถึงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ
    5. 3.5 ห้ามผู้เข้าร่วมโครงการฯ กระทำการใด ๆ อันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือความปั่นป่วนที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินโครงการฯ หรือมาตรการอื่น ๆ ของรัฐ
    6. 3.6 หากผู้เข้าร่วมโครงการฯ ไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการฯ ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ดังกล่าวจะต้องจ่ายเงินคืนให้แก่รัฐภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งถึงการกระทำดังกล่าว โดยจ่ายเงินคืนผ่านช่องทางที่กระทรวงการคลังกำหนด
  4. 4. ข้อความตกลงยินยอมของประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ
    * “ข้าพเจ้า” หมายถึง บุคคลผู้เข้าร่วมโครงการฯ *
    1. 4.1 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทยฯ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ
    2. 4.2 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทยฯ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดเก็บ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (ข้อมูลศาสนา และข้อมูลชีวภาพ ซึ่งจัดเก็บจากระบบและแอปพลิเคชั่นเพื่อประโยชน์ของโครงการฯ) ของข้าพเจ้า และข้อมูลการชำระเงินตามโครงการฯ ต่อหน่วยงานของรัฐ และผู้รับให้บริการที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานของรัฐ เพื่อการประมวลผลและการตรวจสอบข้อมูล และ/หรือเพื่อการยืนยันตัวตนหรือเพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อรับสิทธิตามโครงการฯ และ/หรือเพื่อการบริหารจัดการโครงการฯ
    3. 4.3 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทยฯ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดเก็บ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า และข้อมูลการชำระเงินตามโครงการฯ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินมาตรการอื่นของรัฐหรือเพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินในอนาคต
    4. 4.4 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องร้องขอ สอบถาม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า และข้อมูลการชำระเงินตามโครงการฯ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินโครงการฯ
    5. 4.5 ความยินยอมของข้าพเจ้าในอันที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บ ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า และข้อมูลการชำระเงินตามโครงการฯ ตามข้อ 4. นี้ ให้มีผลไปตลอดช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการฯ เว้นแต่ความยินยอมตามข้อ 4.3
    6. 4.6 ข้าพเจ้าตกลงปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ และรับทราบว่าหากข้าพเจ้าไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการฯ ข้าพเจ้าจะต้องคืนเงินที่ได้รับตามโครงการฯ ให้แก่กระทรวงการคลังภายใน 7 วัน
    7. 4.7 ข้าพเจ้ารับทราบและยินยอมว่า ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าข้าพเจ้าไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการฯ กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิตามโครงการฯ ของข้าพเจ้าเพื่อดำเนินการตรวจสอบ และหากพบว่าข้าพเจ้ากระทำการดังกล่าวจริง ข้าพเจ้าจะต้องคืนเงินที่ได้รับไปแล้วให้แก่กระทรวงการคลังภายใน 7 วัน ทั้งนี้ ให้การตัดสินของกระทรวงการคลังถือเป็นที่สุด
    8. 4.8 ข้าพเจ้ารับทราบว่าการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย

ข้าพเจ้าได้อ่าน รับทราบ และตกลงยินยอมปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ถูกต้องตามความเป็นจริงทุกประการ หากข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการระงับการจ่ายเงินตามโครงการฯ หรือยินยอมคืนเงินที่ได้รับพร้อมดอกเบี้ย แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ไม่ระงับซึ่งสิทธิของรัฐในอันที่จะดำเนินการตามกฎหมายข้าพเจ้าได้อ่าน และตกลงยินยอมตามรายละเอียดข้อตกลงและความยินยอมข้างต้น

Exit mobile version