เปิดระยะเวลาอุทธรณ์เงินเยียวยาเกษตรกร
เกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนโครงการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไว้แล้ว แต่ยังคงประสบปัญหาไม่ได้รับเงินเยียวยาเนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ ขอให้รีบดำเนินการอุทธรณ์เงินเยียวยา ประกอบด้วย
- เกษตรกรที่ปรับปรุงข้อมูล ปี 62/63 ภายใน 30 เม.ย. 63 สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ตั้งแต่วันนี้ – 5 มิ.ย. 63 ไม่เว้นวันหยุด
- เกษตรกรที่ปรับปรุงข้อมูลระหว่าง 1 – 15 พ.ค. 63 สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ตั้งแต่ 31 พ.ค. – 5 มิ.ย. 63
.
เกษตรกรสามารถโทรศัพท์สอบถาม หรือเดินทางไปขออุทธรณ์ด้วยตัวเอง ณ ที่ทำการทั้ง 8 แห่งได้แก่ - สำนักงานเกษตรอำเภอ และจังหวัด
- สำนักงานประมงอำเภอ และจังหวัด
3, สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ และจังหวัด - สำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขตหรือศูนย์เครือข่ายใกล้บ้าน
- เขตบริหารอ้อย และน้ำตาลทราย 1 – 8 และศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมอ้อย และน้ำตาลทรายภาคที่ 1- 4
- สำนักงานสรรพสามิตจังหวัด
- การยางแห่งประเทศไทย (จังหวัด/สาขา)
- สำนักงานเกษตร และสหกรณ์จังหวัด
.
โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานในพื้นที่คอยให้ความช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา พร้อมตอบข้อซักถามต่าง ๆ ให้แก่พี่น้องเกษตรกร และเมื่อยื่นเรื่องอุทธรณ์เสร็จแล้วถัดไปอีก 8 วัน เกษตรกรที่ยื่นเรื่องอุทธรณ์สามารถตรวจสอบสถานะได้ด้วยตนเองที่ www.moac.go.th
รัฐมนตรี ตอบข้อสงสัย การตรวจสิทธิ์เพื่อรับเงินเยียวยาเกษตรกร ครัวเรือนละ 15,000 บาท
เกษตรกรที่ ตรวจสอบสิทธิ์ กับ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรแล้ว พบว่า “ได้รับสิทธิ์”
click
facebook กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โพสต์ข้อความว่า รวมคำถามยอดฮิต “การตรวจสิทธิ์เพื่อรับเงินเยียวยาเกษตรกร ครัวเรือนละ 15,000 บาท” ดังนี้
1. ใครมีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาเกษตรกร 15,000 บาท บ้าง?
คำตอบ เกษตกรทุกกลุ่ม พืช ประมง และปศุสัตว์ ที่ขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกร กับหน่วยงานนั้นๆ และได้ปรับปรุงทะเบียนปี 2562/2563
2. สิ่งที่ต้องทำสำหรับเกษตรกรเพื่อได้รับสิทธิ์เงินเยียวยา มีอะไรบ้าง?
คำตอบ
– เกษตรกรทุกราย ให้ไปเช็กรายชื่อที่ติดประกาศของหมู่บ้าน
– เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรปี 2562/2563 หากพบรายชื่อในประกาศแล้ว ให้รอกระทรวงการคลังพิจารณาจ่ายเงินผ่านธนาคาร ธ.ก.ส. หรือ ธนาคารอื่นใดก็ได้ สามารถตรวจสอบได้ที่ www.เยียวยาเกษตรกร.com
3. เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรก่อนปี 2563 แต่ไม่ได้แจ้งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรต้องทำยังไงบ้าง?
คำตอบ สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้ก่อนปี 2562 และยังทำการเกษตรกรอยู่ แต่ไม่ได้ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้ทำตามขั้นตอนดังนี้
– ให้ไปตรวจสอบรายชื่อที่ติดประกาศภายในหมู่บ้าน (ตามที่ตั้งแปลงปลูก)
– หากพบรายชื่อในประกาศแล้ว ขอให้รีบแจ้งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับผู้นำชุมชน หรือ อาสาสมัครเกษตรกรหมู่บ้าน (อกม.) หรือที่สำนักงานเกษตรกรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 จากนั้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินการลงไปตรวจสอบแปลงของท่าน
4. หน่วยงานใดที่รับขึ้นทะเบียนเกษตรกรบ้าง?
คำตอบ
- เกษตรกรปลูกพืช ขึ้นทะเบียน/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรที่สำนักงานเกษตรอำเภอ
- เกษตรกรทำประมง ขึ้นทะเบียนที่ สำนักงานประมงอำเภอ/จังหวัด สอบถามโทร 02-104-9444
- เกษตรกรเลี้ยงสัตว์ ขึ้นทะเบียนที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ/จังหวัด เช็กสถานะการขึ้นทะเบียน Line official @ddldthailand
เกษตรกรชาวสวนยาง
รีบขึ้นทะเบียน แจ้งข้อมูลปลูกยาง ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ตั้งแต่วันนี้ – 15 พ.ค.นี้ ณ การยางแห่งประเทศไทยใกล้บ้าน ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
เพื่อเตรียมพร้อมรับสิทธิ์ตามมาตรการช่วยเหลือเยียวยา 15,000 บาท เป็นกลุ่ม 2
ไขข้อข้องใจการลงทะเทียนเกษตรกรด้านพืช
Q : ทะเบียนเกษตรกร หรือ ทบก. คืออะไร
A : ข้อมูลของครัวเรือนผู้ประกอบการเกษตรที่แสดงถึงสถานภาพและการประกอบอาชีพการเกษตรของครัวเรือน ซึ่งเกษตรกรต้องมายื่นแบบ ทบก.01 เพื่อขึ้นทะเบียนเกษตรกร
สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกร สามารถเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือและได้รับสิทธิ์ต่างๆ ตามมาตรการของรัฐ
Q : การปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร คืออะไร
A : การแจ้งปลูกพืชทุกรอบการผลิต
และการเปลี่ยนแปลงข้อมูลครัวเรือนผู้ประกอบการเกษตร เช่น เปลี่ยน / แก้ไข กิจกรรมการเกษตร หรือ สมาชิกในครัวเรือน
Q : เกณฑ์การขึ้นทะเบียนเกษตรกร
A : บุคคลในครัวเรือนคนใดคนนึง หรือ หลายคนที่ประกอบการเกษตร
ฐานทะเบียนเกษตรกร กำหนดให้ 1 ทะเบียนบ้าน = 1 ครัวเรือน (ตั้งแต่ ต.ค.56 เป็นต้นมา)
Q : ทะเบียนเกษตรกรมีข้อมูลอะไรบ้าง
A: มีข้อมูล 9 หมวด
1. ข้อมูลพื้นฐานครัวเรือน
2. สมาชิกครัวเรือนและการเป็นสมาชิกองค์กร
3. การถือครองที่ดินเพื่อการเกษตร
4. การประกอบกิจกรรมการเกษตร
5. แหล่งน้ำ
6. เครืองจักรกลการเกษตร
7. หนี้สิน
8. รายได้
9. การเข้าร่วมโครงการภาครัฐ
* การแจ้งข้อมูลเท็จในทะเบียนเกษตรกร ถือเป็นความผิดทางอาญา ตามมาตรา 137 และ มาตรา 267 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
Q : การขึ้นทะเบียนเกษตรกรต้องทำอย่างไร
A: ครัวเรือนเกษตรกร 1 ครัวเรือน ขอขึ้นทะเบียนได้ 1 คน
– ยื่นแบบ ทบก. 01 ณ สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก หลังปลูกพืช 15 วัน > จนท.บันทึกข้อมูล > ตรวจสอบข้อมูล > ติดประกาศในชุมชน 3 วัน > จนท.ยืนยันข้อมูลในระบบ > การขึ้นทะเบียนเกษตรกรสมบูรณ์
* ช่วง COVID-19 : ยื่นได้ที่ผู้นำชุมชน หรือ อกม . รวมรวบส่งสำนักงานเกษตรอำเภอ และเจ้าหน้าที่จะดำเนินการต่อไป
* ดาวน์โหลด แบบ ทบก.01 ได้ที่ http://farmer.doae.go.th/farmerforn63-h.pdf
* แอปพลเคชัน FARMBOOK ไม่สามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกร รายใหม่ แปลงใหม่ ได้ *
รู้ไหม … เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตร
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเกษตรกรอย่างไร
1. ตรวจสอบข้อมูลบุคคล กับ กระทรวงมหาดไทย
2. ตรวจสอบข้อมูลเอกสารสิทธิ์ที่ดิน กับ กรมที่ดินและ สปก.
3. ตรวจสอบทางสังคม ผ่านการติดประกาศข้อมูลในชุมชน หากมีการคัดค้าน มีคณะทำงานระดับหมู่บ้านตรวจสอบพื้นที่วัดพิกัดที่ตั้งแปลง – วัดพื้นที่
4. วาดผังแปลงเกษตรกรรมดิจิทัล เพื่อป้องกันการขึ้นทะเบียนซ้ำซ้อน (ปัจจุบันดำเนินการแล้ว 10 ล้านแปลง)
Q : เมื่อใดต้องปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร
A : เมื่อมีการเพาะปลูกพืชทุกรอบ และเมื่อต้องการเปลี่ยนข้อมูลของครัวเรือนผู้ประกอบการเกษตร ดังนี้
– รายใหม่ แปลงใหม่ / รายเดิม แปลงใหม่ :
ยื่นแบบ ทบก.01 ณ สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก หลังปลูกพืชแล้ว 15 วัน > จนท.บันทึกข้อมูล > ตรวจสอบข้อมูล > ติดประกาศในชุมชน 3 วัน > จนท.ยืนยันข้อมูลในระบบ > การขึ้นทะเบียนเกษตรกรสมบูรณ์
– รายเดิม แปลงเดิม : สามารถปรับปรุง ผ่าน แอปพลิเคชัน Farmbook
สามารถตรวจสอบสถานะหัวหน้าและสมาชิกครัวเรือนเกษตร ได้ที่ http://farmer.doae.go.th/
Q : สถานภาพในทะเบียนเกษตรกร จะสิ้นสุดลงเมื่อใด
A : 1. เสียชีวิต
2. เป็นคนไร้ความสามารถ หรือ เสมือนไร้ความสามารถ
3. แจ้งยกเลิกประกอบการเกษตร
4. แจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จในการขึ้นทะเบียนเกษตรกร
5. ไม่มีการปรับปรุงสถานภาพเลย ติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี
(เริ่มใช้ตั้งแต่ 23 มิ.ย. 63 เป็นต้นไป และมีผลย้อนหลัง สำหรับผู้ไม่มาปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ตั้งแต่ 23 มิ.ย. 60)
** การใช้ข้อมูลทะเบียนเกษตรกรเป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละโครงการ
ที่มา : https://www.facebook.com/Chalermchai.DP/posts/249338053114247
ลงทะเบียนเยียวยาเกษตรกร สำหรับคนที่ไม่มีบัญชี ธ.ก.ส. เท่านั้น
www.เยียวยาเกษตรกร.com เปิดให้เกษตรกรที่ไม่มีบัญชี ธ.ก.ส. เข้าลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท 3 เดือนได้แล้ว ตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการคลัง ตามมติคณะรัฐมนตรี 28 เม.ย. 2563
สำหรับขั้นตอนการจ่ายเงินดังกล่าว ธ.ก.ส. จะรับข้อมูลผู้ขึ้นทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบแล้วจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง 2 กรณี ดังนี้
- เกษตรกรมีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. แล้ว สามารถใช้บัญชีเงินฝากเดิมได้โดยไม่ต้องมาเปิดบัญชีใหม่
- เกษตรกรที่ไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. สามารถแจ้งบัญชีเงินฝากที่มีอยู่กับธนาคารใดก็ได้ ผ่านเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าเกษตรกรที่จะไปลงทะเบียน แจงช่องทางการโอนเงินใน www.เยียวยาเกษตรกร.com เฉพาะเกษตรกรที่ไม่มีบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. เท่านั้น ส่วนเกษตรกรที่มีบัญชี ธ.ก.ส. แล้ว ให้รอรับเงินโอน คาดเริ่มทยอยโอนเงินได้ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.เป็นต้นไป.
ขึ้นทะเบียนเกษตรกรรับเงินเยียวยาฯ ถึง 15 พ.ค. 63
ไทยคู่ฟ้า เตือนหากใครเคยขึ้นทะเบียนแล้วแต่ไม่มีการอัปเดต หรือปรับปรุงข้อมูลในระยะ 3 ปี ให้รีบดำเนินการติดต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ภายในวันที่ 15 พ.ค. 63 ดังนี้
1. เกษตรกรปลูกพืช ติดต่อได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ
2. เกษตรกรทำประมง ติดต่อได้ที่สำนักงานประมงอำเภอ/จังหวัด
3. เกษตรกรเลี้ยงสัตว์ ติดต่อได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ/จังหวัด
4. เกษตรกรทำสวนยาง ติดต่อได้ที่การยางแห่งประเทศไทย
5. เกษตรกรปลูกอ้อย ติดต่อได้ที่สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย
6. เกษตรกรเลี้ยงหม่อนไหม ติดต่อได้ที่กรมหม่อนไหม
7. เกษตรกรปลูกใบยาสูบ กระทรวงการคลังจะเป็นผู้ขึ้นทะเบียน
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรที่จะขอรับเงินเยียวยา จะต้องไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิ์ซ้ำซ้อนกับโครงการเราไม่ทิ้งกันของกระทรวงการคลัง.
ดีเดย์ 15 พ.ค. นี้ โอนเงินเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกร
พร้อมแล้วสำหรับการโอนเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบของโรค COVID-19 ให้กับเกษตรกร 10 ล้านราย รายละ 5,000 บาทต่อเดือนเป็นเวลา 3 เดือน (พ.ค. – ก.ค. 63) ที่ผ่านการตรวจสอบตามฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
.
สำหรับวิธีการจ่ายเงิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีของเกษตรกรโดยตรง ซึ่งเกษตรกรที่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. อยู่แล้ว สามารถใช้บัญชีเงินฝากเดิมได้ ไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่
ส่วนเกษตรกรที่ไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. ขอให้แจ้งบัญชีเงินฝากของธนาคารใดก็ได้ เพื่อรอรับเงินโอน ที่เว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร .com ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. 63 เป็นต้นไป
.
ย้ำว่า เกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ตามมาตรการนี้ จะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับความช่วยเหลือจากมาตรการ “เราไม่ทิ้งกัน” ซึ่งธ.ก.ส. จะเร่งโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกร โดยจะกระจายการโอนครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ประมาณวันละ 1 ล้านราย และจะเริ่มทยอยโอนเงินได้ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. 63 เป็นต้นไป
.
และเพื่อหลีกเลี่ยงความสุ่มเสี่ยงของโรค COVID -19 เมื่อได้รับเงินโอนแล้ว เกษตรกรไม่จำเป็นต้องไปถอนเงินสดที่ธนาคาร สามารถใช้บัตร ATM ที่เป็นบัญชีใช้รับเงิน ถอนเงินออกจากตู้ ATM ได้ทุกธนาคาร หรือใช้แอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ถอนเงินโดยไม่ต้องใช้บัตรได้ที่ตู้ ATM ของ ธ.ก.ส. ได้อีกด้วย