ศบค. เผยผลการประชุมยกระดับมาตรการคุมเข้ม Covd-19 พื้นที่ควบคุมสูงสุด เข้มงวดสูงสุด สีแดงเข้ม จำนวน 6 จังหวัด
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
วันที่ 29 เม.ย. 64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค. แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม เป็นประธานว่า ที่ประชุมศบค.มีมติ ปรับระดับการกักตัวให้กลับมากักตัว 14 วัน เหมือนเดิมในทุกประเภท อาทิ โดยไม่อนุญาตให้ออกจากห้องพักได้ ยกเว้นจะทำการตรวจหาเชื้อ หรือรักษาพยาบาล
นอกจากนี้ ที่ประชุมศบค.ยังมีมติปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยทั่วราชอาณาจักร พื้นที่ควบคุมสูงสุด เข้มงวดสูงสุด สีแดงเข้ม จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี นนทบุรี เชียงใหม่ ปทุมธานี และสมุทรปราการ
โดยมีข้อกำหนดดังนี้
- ห้ามจัดกิจกรรมที่รวมกลุ่มกันเกิน 20 คน
- ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มให้จำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในลักษณะนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่านั้น โดยงดการบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม และแอลกอฮอล์ในร้าน และเปิดให้บริการได้จนถึงเวลา 21.00 น.
- สนามกีฬา สถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส ปิดบริการ ยกเว้นเป็นสถานที่เอกเทศตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อฯ
- สนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกายประเภทกลางแจ้ง หรือที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 น.
- สามารถจัดการแข่งขันกีฬาโดยไม่ให้มีผู้ชมในสนาม และแข่งขันกีฬาได้รับอนุญาตจากนายกรัฐมนตรีให้จัดแข่งขันได้
- ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆจนถึงเวลา 21.00 น ยกเว้นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมและสวนสนุก
- ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน ให้เปิดบริการดำเนินการได้ตามปกติของสถานที่นั้นๆ แต่ไม่เกินเวลา 23.00 น. เปิดให้บริการหลัง 04.00 น.
นอกจากนี้ยังมีการ งดเดินทางออกนอกพื้นที่ ให้ประชาชนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดงดการเดินทางออกนอกพื้นที่โดยไม่มีเหตุจำเป็นเพื่อลดการเดินทางที่อาจจะเสี่ยงต่อการติดโรค
ทั้งนี้ ยืนยันว่าเป็นการขอความร่วมมือ ไม่ได้ถือเป็นเคอร์ฟิว โดยข้อบังคับทั้งหมดจะถูกประกาศใช้ผ่านราชกิจจานุเบกษาในวัน ที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป
มาตรการป้องกันการแพร่ระบาด Covid-19 ที่ได้ผล และเป็นวัคซีนที่ดีที่สุด
มาครการทางสังคม
มาตรการทางสาธารณสุข
มาตรการส่วนบุคคล
มาตรการองค์กร
รัฐบาลได้กำหนดมาตรการให้ภาครัฐและขอความร่วมมือภาคเอกชนนำมาตรการ Work from Home มาใช้แบบเต็มรูปแบบจนถึงสิ้นเดือนเมษายน (30 เม.ย.)
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค สรุปภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดของกรุงเทพมหานคร ว่า คาดการณ์ในอีก 1 เดือนหน้าหากไม่ดำเนินมาตรการใดๆ ไทยจะมีผู้ติดเชื้อ วันละ 9 พันราย แต่ปัจจุบันนี้มีการปิดสถานบันเทิงและมีมาตรการอื่นๆ ทำใด้ยอดผู้ป่วยเฉลี่ย 900 รายต่อวัน และหากทุกคนช่วยกันลดกิจกรรมการรวมตัวกัน เช่น การชกมวย,การวิ่ง ก็จะสามารถลดได้ เหลือ 500-600 คนต่อวัน
และหากมีการทำ Work from Home มากขึ้น จะลดได้เฉลี่ยไม่ถึงวันละ 400 คน หากมีการล็อกดาวน์เฉพาะจุดก็จะติดเชื้อวันละ 100 คนต่อวัน
รัฐบาลได้กำหนดมาตรการให้ภาครัฐและขอความร่วมมือภาคเอกชนนำมาตรการ Work from Home มาใช้แบบเต็มรูปแบบจนถึงสิ้นเดือนเมษายน (30 เม.ย.)
สำหรับมาตรการด้านสาธารณสุข (สธ.) จะใช้มาตรการค้นหาคัดกรองเชิงรุกและติดตามผู้ติดเชื้อให้รักษาตัวอยู่ รพ. อยู่ในการดูแลของแพทย์ เพราะ รพ. จะมีมาตรการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไปสู่คนอื่นได้ดีที่สุด
ส่วนสถานการณ์ตอนนี้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เชื่อมโยงสถานบันเทิง นักเรียนนักศึกษาออกค่ายกิจกรรมร่วมกันและพบการติดเชื้อในครอบครัวมากขึ้น ดังนั้นจึงขอความร่วมมือประชาชนใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง เพราะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี
ช่วยกันป้องกัน ดำเนินการตามมาตรการทั้ง 4 กันนะ