เที่ยวเขื่อนแก่งกระจานและโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ

เที่ยวเขื่อนแก่งกระจานและโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ

“พะเนินทุ่งสูงตระหง่าน ตระการตา ทอทิพย์ ป่าดงดิบอุทยาน แก่งกระจานเขื่อนดิน”

เขื่อนแก่งกระจานยามเย็น
เขื่อนแก่งกระจานยามเย็น

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย

มาเริ่มกันเลย นั่งคิดทริป 2 คืน 1 วันใกล้กรุงเทพ ไปเที่ยวที่ไหนดี สุดท้ายได้ Gift Voucher ของ ดี วารี ดีวา นานารีสอร์ท มา 1 ใบ พัก 2 คืน ดูว่ารีสอร์ทนี้อยู่ที่ไหนนะ “แก่งกระจาน” ดี วารี ดีวา นานารีสอร์ท ริมแม่น้ำเพชร ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเขื่อนแก่งกระจาน

นานารีสอร์ท แก่งกระจาน
นานารีอสร์ท แก่งกระจาน


และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ภายในพื้นที่พักแก่งกระจานถูกจัดตกแต่ง และจัดวางพื้นที่ได้อย่างลงตัว มีมุมที่นั่งพักผ่อนให้คุณได้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าไปด้วยการอ่านหนังสือเล่มโปรด หรือฟังเพลงเบาๆ เพิ่มความสุนทรีย์ให้กับชีวิตในช่วงวันหยุดแห่งการพักผ่อน หรือถ้าอยากว่ายน้ำที่นี้ก็มีสระว่ายน้ำส่วนกลางให้ได้ลงเล่น แต่ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศซึมซับกับธรรมชาตก็สามารถลงเล่นน้ำในแม่น้ำได้เช่นกัน สัมผัสที่พักแก่งกระจาน

ถึงวันเดินทาง ออกจากกรุงเทพสายๆ วิ่งถนนพระราม 2 ออกเส้นวังมะนาว เข้าเขตเพชรบุรี เข้าเส้นทางลัด เพื่อวิ่งถนนสายชนบท เพื่อดูท้องนาท้องไร่ สังเกตชาวนา ชาวสวน เค้าทำอะไรกัน




ทางเข้ารีสอร์ทจะอยู่ใกล้กับตัวอำเภอแก่งกระจาน สังเกตป้ายชื่อรีสอร์ท เลี้ยวเข้าไปพอสมควร ถนนไม่กว้างมากนัก

ถึงที่พัก Check in ดี วารี ดีว่า นาน่าแก่งกระจาน เจ้าหน้าที่ยิ้มแย้มทักทาย บอกมี Gift Voucher ตามที่จองไว้ น้องเค้าส่งซองกุญแจให้ ถึงห้องเป็นห้อง JACUZZI SUITE เลยคิดว่า Gift Voucher ให้ห้องดีขนาดนี้เลยเหรอ แต่ยังไม่ได้เดินสำรวจภายในรีสอร์ท ว่ามีอะไรบ้าง ขับรถมา 3 ชั่วโมง กินขนมนั่งพักผ่อนก่อนดีกว่า

Jpeg
ชอบมุมนี้
ธรรมชาติของลีลาวดี
ของชอบคนขับ


แต่ด้วยยังพอมีเวลารีบขึ้นไปบนสันเขื่อนแก่งกระจานกันก่อน 17.00 น. เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะปิดทางขึ้นซะก่อน ไม่ได้ชมวิวเขื่อนกันละ จะไว้ขึ้นไปตอนเช้า ก็ขี้เกียจตื่น
เขื่อนแก่งกระจาน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่มีความเป็นธรรมชาติใกล้กรุงเทพ ที่พักแก่งกระจาน ส่วนใหญ่อยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย คลอบคลุมหลายอำเภอในจังหวัดเพชรบุรี เป็นผืนป่าธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์

เขื่อนแก่งกระจานยามเย็น
เขื่อนแก่งกระจานยามเย็น
เชื่อนแก่งกระจาน
นางแบบไม่ร้อนok
หน้าเขื่อนผลิตไฟฟ้า
หน้าเขื่อนผลิตไฟฟ้า
เขื่อนแก่งกระจานยามเย็น
เขื่อนแก่งกระจานยามเย็น

เขื่อนแก่งกระจาน เป็นเขื่อนดินกั้นแม่น้ำเพชรบุรี ที่บริเวณเขาเจ้า และเขาไม้รวกประชิดกับ ตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี อยู่ทางด้านเหนือน้ำ ของเขื่อนเพชรขึ้นไปตามถนน 27 กิโลเมตร สันเขื่อนยาว 760 เมตร กว้าง 8 เมตร สูง 58 เมตร ระดับสันเขื่อน 106 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ฐานตอนที่กว้างที่สุด 250 เมตร สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2509 เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่

เขื่อนแก่งกระจานยามเย็น
เขื่อนแก่งกระจานยามเย็น
เขื่อนแก่งกระจานยามเย็น
เขื่อนแก่งกระจานยามเย็น

แก่งกระจานเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำที่สำคัญทั้งสองสายกล่าวคือแม่น้ำปราณบุรี และแม่น้ำเพชรบุรีซึ่งเป็นแม่น้ำใกล้ที่พักแก่งกระจาน ทุกท่านจะได้รับความสนุกสนานจากกิจกรรมทางน้ำที่ใสสะอาด ไหลเย็น ทอดยาวไปไกลแสนไกล ตื่นตากับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่อาศัยอยู่ในแก่งกระจาน ใกล้กับทั้งสองฟากฝั่งของแม่น้ำเพชรบุรี

เขื่อนแก่งกระจานยามเย็น
เขื่อนแก่งกระจานยามเย็น
เขื่อนแก่งกระจานยามเย็น
เขื่อนแก่งกระจานยามเย็น
หน้าเขื่อนระบบผลิตไฟฟ้า
หน้าเขื่อนระบบผลิตไฟฟ้า

เขื่อนแก่งกระจานสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 19,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานเฉลี่ยประมาณ ปีละ 70 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง

หน้าเขื่อนระบบผลิตไฟฟ้า
หน้าเขื่อนระบบผลิตไฟฟ้า

ธรรมชาติรอบเขื่อนแก่งกระจานนั้นสวยงามทุกมุมมอง และต้องจัดไว้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถมาเยือนได้ตลอดทั้งปีอย่างไม่ต้องมีฤดูกาล เพราะที่แก่งกระจานไม่ว่าจะแดด ฝน ร้อน หนาว ภูมิอากาศของที่นี่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เพราะทุกเช้าเราก็จะตื่นขึ้นมาเจอหมอกบางๆ ถ้าวันไหนฝนตก หรืออากาศเย็นนิด หมอกก็จะหนาขึ้นหน่อย ก่อนที่มันจะจางหายไปในแสงแดดอ่อนยามสาย โดยแทนที่ด้วยสายลมที่พัดเอื่อยๆ ตลอดวัน ก่อนจะได้ชมพระอาทิตย์ตกดินลับเหลี่ยมเขาสูงสะท้อนสีสันสวยจากฟากฟ้าลงสู่ผิวน้ำ ณ เขื่อนแก่งกระจาน

หน้าเขื่อนระบบผลิตไฟฟ้า
หน้าเขื่อนระบบผลิตไฟฟ้า
หน้าเขื่อนระบบผลิตไฟฟ้า
หน้าเขื่อนระบบผลิตไฟฟ้า

เสร็จจากชมวิวถ่ายรูปบนสันเขื่อน แวะตลาดนัดหาของกินอร่อยๆ ลองท้องก่อนดีกว่า เสร็จจากชมวิวถ่ายรูปบนสันเขื่อน แวะตลาดนัดหาของกินอร่อยๆ ลองท้องก่อนดีกว่า แล้วกลับไปพักผ่อนเคลียร์งานที่ตามมาเที่ยวด้วย ก่อนหลับสบายท่ามกลางสายฝนตกเบา (จนท.รีสอร์ทบอกว่า ฝนตกมา 3 วันแล้ว วันนี้พี่มาเพิ่งจะหยุดไป)

ตื่นเช้ามาคงไม่ขึ้นไปบนเขื่อนละ กินอาหารเช้ากัน

นานารีสอร์ท
บรรยากาศที่นานารีสอร์ท

และเดินสำรวจรีสอร์ทกันดีกว่า ซึ่งเท่าที่สังเกตเป็นรีสอร์ทที่กว้างมาก มีสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้องสัมนา ประชุม และห้องพักหลายห้อง สายๆ สั่งอาหารลองท้องกินสองสามอย่างก่อนจะออกไปชมโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9

โครงการชั่งหัวมัน

โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์รวบรวมพืชเศรษฐกิจนานาชนิด เพื่อเป็นแนวทางให้กับเกษตรกรโดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอท่ายาง แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ  ตั้งอยู่ใน อ. ท่ายาง จ. เพชรบุรี เกิดขึ้นจากความเอาพระทัยใส่ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ที่ทรงมีต่อเกษตรกรในการที่จะพัฒนาส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้ ประสบความสำเร็จและสามารถเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน

โครงการชั่งหัวมัน

ประวัติที่มาของโครงการนี้ เริ่มตอนที่ตอนพระองค์ท่านประทับอยู่ ณ วังไกลกังวลแล้วมีชาวบ้านนำมันเทศมาถวาย ช่วงนั้นพระองค์ ต้องเสด็จกลับกรุงเทพ เลยรับสั่งให้ เจ้าหน้าที่นำหัวมันเทศนั้นไปวางไว้บนตาชั่งในห้องทรงงานจากนั้นก็เสด็จกลับกรุงเทพ

โครงาการชั่งหัวมัน

เวลาล่วงเป็นเดือน เมื่อเสด็จกลับมาหัวหินทรงพบว่า มันเทศนั้นได้แตกใบ เลยตรัสว่า “มัน อยู่ที่ไหนก็ขึ้น”ดังนั้นจึงมีพระราชดำริให้จัดหาที่ดิน เพื่อทำโครงการด้านการเกษตร ปี พ.ศ. 2551 ก็ได้ซื้อที่ดินจำนวน 120 ไร่ และต่อมาในกลางปี 2552 ทรงซื้อที่ดินแปลงติดกันเพิ่มอีก ณ บ้านหนองคอไก่ ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 250 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์รวบรวมพืชเศรษฐกิจนานาชนิด เพื่อเป็นแนวทางให้กับเกษตรกร

โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอท่ายางจังหวัดเพชรบุรี ที่มีพื้นที่ค่อนข้าง แห้งแล้ง ทรงพระราชทานพันธุ์มันเทศซึ่งงอกออกมาจากหัวมันที่ตั้งโชว์ไว้บนตาชั่งในห้องทรงงานที่วังไกลกังวล ให้นำมาปลูกไว้ที่ที่ดินแปลงนี้พระราชทาน ชื่อโครงการว่า “โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ” โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมโครงการนี้ด้วยพระองค์เอง มีพระตำหนักทรงงานที่ตั้งอยู่ภายในโครงการเป็นบ้านไม้สองชั้นเรียบง่ายที่ใช้ทรงงานและพักผ่อนพระอิริยาบถเมื่อครั้งเสด็จเยี่ยมโครงการนี้ รวมถึงรถที่ทรงใช้ทรงงานก็จอดอยู่ภายในบริเวณพระตำหนักด้วย

นอกจากนี้ ได้สร้างกังหันลมผลิตไฟฟ้าขาย ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และบริษัท พระพายเทคโนโลยี จำกัด ร่วมกันออกแบบติดตั้ง กังหันลมและระบบจำหน่ายไฟฟ้าจำนวน 20 ชุด ขนาดกำลังผลิตรวม 50 KW ได้รับการ สนับสนุนงบประมาณบางส่วนจากกองทัพบก นับเป็นโครงการส่วนพระองค์ที่แท้จริงรวมถึงเป็นพื้นที่ให้ศึกษาดูงานสำหรับ ประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา มาได้เป็นครอบครัวหรือหมู่คณะ  โดยได้มีรถรงพานำชมทั่วไร่พร้อมวิทยากรบรรยายตามแต่ละจุด เปิดให้ชมตั้งแต่ 08.30 น. – 18. 00 น.

นอกจากนี้ยังมีบริการจักรยานรองรับผู้เข้าชมและห้องชมวีดิทัศน์ของโครงการ กิจกรรมต่าง ๆ  ภายในโครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริจัดเตรียมไว้ สำหรับให้ความรู้ด้านการเกษตร รวมถึงมีจักรยานให้ปั่นรอบโครงการ ซึ่งโครงการฯได้ขอความร่วมมือเก็บค่าบริการเข้าชม สำหรับผู้ใหญ่ ( อายุ 15 ปีขึ้นไป ) ท่านละ 20 บาท นักเรียน นิสิต นักศึกษา ในเครื่องแบบคนละ 10 บาท ส่วน พระสงฆ์ สามเณร แม่ชี นักบวช ผู้พิการ และเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ ได้รับการยกเว้นค่าบริการ   หากต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะควรติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.0-3247-2700-1

เนื้อที่ภายในโครงการกว้างไกลตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ในพื้นที่แห่งนี้ สภาพเดิมโดยทั่วไปแห้งแล้งเจ้าของเดิมปลูกต้นยูคาลิปตัสตัดไม้ขายมีแปลงปลูก มะนาวเดิมอยู่ประมาณ 35 ไร่แปลงอ้อยประมาณ 30 ไร่ การพัฒนาพื้นที่ส่วนที่เป็นแปลงยูคาลิปตัสทั้งหมด

แต่ปัจจุบันได้ จัดสรรทำการเกษตรเป็นอย่างดี มีทั้งแปลงพืชเศรษฐกิจที่ปลูกหลายชนิด อาทิ สับปะรด มะนาว มะพร้าว รวมทั้งมันเทศ นอกเหนือจากพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ ก็ยังมีการปลูกไม้ผล พืชไร่ และพืชผักต่างๆ อาทิ แก้วมังกร ชมพู่เพชร กล้วย ฟักทอง กะเพรา โหระพา พริก ฯลฯ  มีแปลงปลูกข้าว ทั้งข้าวเจ้าและข้าวเหนียว ปลูกยางพารา โดยทั้งหมดนี้จะเน้นไม่ให้มีการใช้สารเคมี หรือหากต้องใช้ก็ต้องมีในปริมาณที่น้อยที่สุด  มีฟาร์มโคนม ฟาร์มไก่ และแปลงเกษตรที่จัดเป็นสวน สวยให้คนที่แวะมาเยี่ยมชม  และได้รับพระราชทานวัวนมจากโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดามาเลี้ยงไว้ที่นี่ โดยใช้พื้นที่ใต้กังหันลมเป็น พื้นที่ปลูกหญ้าสำหรับ เลี้ยงวัว ด้านหน้ามีร้านโกลเด้นท์เพลส ซึ่งเป็นร้านขายสินค้าทางการเกษตรแบบปลอดสารพิษรวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆของโครงการ

ขากลับจากโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ หลงทางนิดหน่อย แต่ก็หาทางกลับรีสอร์ทได้ แวะกินก๋วยเตี๋ยวก่อนเข้าที่พัก
ตื่นเช้ากินอาหารเช้าเสร็จ เดินเก็บภาพสวยๆ ในรีสอร์ท ก่อน Check out กลับกรุงเทพ ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. จบทริปนี้ 3 วัน 2 คืน แบบไม่เหนื่อยจากการเที่ยว และตั้งใจจะมาเยือนเพชรบุรีใหม่อีกครั้งแน่นอน

แพยางมาจากต้นน้ำ
แพยางมาจากต้นน้ำ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง