หลีกหนีความวุ่นวายมาพักผ่อน ใช้ชีวิต สโลว์ไลฟ์ แบบเรียบง่ายกันที่เชียงคาน
“เชียงคาน เมืองคนงาม ข้าวหลามขาว มะพร้าวแก้ว เพริดแพร้วเกาะแก่ง แหล่งวัฒนธรรม น้อมนำศูนย์ศิลปาชีพ”
จุดแรกเวะเช็คอินกันที่ปั้ม ปตท. เชียงคานกันก่อนเลย เห็นปั้มนี้แสดงว่าเราเข้าเขตเชียงคาน บรรยากาศภายในปั้ม ไม่ว่าจะเป็นเซเว่น ร้านอาหาร สไตล์การตกแต่งจะแปลกตาจากที่เราเคยคุ้นเคยกัน
เมื่อย่างก้าวเข้ามาภายในชุมชนริมน้ำโขง สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นเป็นกันเอง จะเห็น 2 ฝั่งข้างถนนยาวทั้งเส้น เป็นบ้านและที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว มาช่วงกลางวันจะยังคงเงียบสงบ ไม่มีแสงสีใดๆ ที่พักภายในเชียงคานจะมีทั้ง 2 ฝั่งถนน ด้านหนึ่งจะติดแม่น้ำโขง ใครได้พักห้องพักริมน้ำบรรยากาศฟินสุดๆ เก็บบรรยากาศภาพที่พัก “เถ้าแก่ลาว” ห้องชั้น2 วิวแม่น้ำโขง
เช็คราคาและ Review กับ Agoda เก้าแก่ลาว เกสต์เฮ้าส์
บรรยากาศยามเช้า จะมีพระมาบิณฑบาตรตั้งแต่ 6 โมงเช้า ที่นี่เค้าจะตักบาตรข้าวเหนียวกัน สำหรับใครที่ไม่ได้เตรียมของตักบาตรมา ที่นี่จะมีร้านจัดทำชุดตักบาตรหลายร้าน ชุดเล็ก 60 บาท ชุดใหญ่ 100 บาตร
วันนี้เป็นวันพระจึงมีพระมาเดินบิณฑบาตรน้อย ถ้าใครตื่นไม่ทัน สามารถเดินไปตักบาตรที่วัด ร่วมทำบุญถวายภัตราหารกันทีวัดศรีคุนเมือง กันได้เลย
สักการะขอพร พระประธานที่วัดศรีคุนเมือง วัดศรีคุนเมือง สร้างขึ้นเมืองปี พ.ศ. 2199 เดิมชื่อ “วัดใหญ่” วัดนี้เป็นแหล่งรวมงานศิลปะทั้งแบบล้านนาและล้านช้าง ดังจะเห็นได้จากโบสถ์ ซึ่งหลังคา ลดหลั่นอย่างศิลปะล้านนา ศิลปวัตถุมีหลายชิ้น เช่น พระพุทธรูปไม้จำหลักลงรักปิดทองปางประทานอภัยแบบล้านช้าง
แหล่งช้อปยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเชียงคาน ต้องไม่พลาด ถนนคนเดิน ทั้งอาหารการกิน ของพื้นเมือง ของฝาก ครบครัน
การเดินทางมายังเชียงคาน
การเดินทางมายังเชียงคาน ก็นั่งรถปรับอากาศ ขึ้นที่หมอชิต กรุงเทพ – เชียงคาน หรือ สายกรุงเทพ – เลย และต่อรถเข้ามายังเชียงคาน ระยะทาง 53 กิโลเมตร ช่วงนี้มีการปรับปรุงเส้นทางอยู่
เมื่อมาถึงปั๊มปตท.มีป้ายบอกถึงเชียงคาน ก็เตรียมตัวลงรถจอดตลาดเชียงคาน ก็สามารถเดินซิลไปยังที่พัก หรือ หากห่างออกจากถนนคนเดินก็นั่งรถสกายแลบ
ซึ่งการมาเชียงคาน ควรจะมาถึงซักบ่ายโมง เพื่อเข้าเช็คอิน ไม่ต้องรอเงลาเช็คอิน หรือหากมาก่อน ก็ควรมีแผนไว้ล่วงหน้าว่าจะเหมารถไปเที่ยวที่ไหนก่อน หรือ เดินชิลถ่ายรูปหน้าร้าน (ร้านจะเปิดกันช่วงเย็น) หรือริมโขง
ช่วง Covid-19 ต้องให้เวลาทำความสะอาดที่พักครับ
ประวัติเมืองเชียงคาน
เชียงคาน เดิมตั้งอยู่ที่เมืองชะนะคาม ประเทศลาว ซึ่งสร้างโดยขุนคาน โอรส ของขุนคัวแห่งอาณาจักรล้านช้าง เมือประมาณ พ.ศ. 1400
ต่อมาประมาณ พ.ศ 2240 อาณาจักรล้านช้างแยกออกเป็นสองอาณาจักร คือ อาณาจักรหลวงพระบางซึ่งมี พระเจ้ากีสราช เป็นกษัตริย์ปกครอง และ อาณาจักรเวียงจันทน์ ซึ่งมีพระเจ้าไชยองค์เว้ เป็นกษัตริย์ปกครอง
โดยกำหนดเขตให้ดินแดนเหนือแม่น้ำเหือง ขึ้นไปเป็นอาณาจักรหลวงพระบาง และ ใต้แม่น้ำเหือง ลงมาเป้นอาณาเขตเวียงจันทน์
ต่อมาทางหลวงพระบางได้สร้างเมืองปากเหือง ซึ่งอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำโขงเป็นเมืองหน้าด่านและทางเวียงจันทน์ได้ตั้งเมืองเชียงคานเดิมเป็นเมืองหน้าด่านเช่นกัน
ในสมัยรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้พระอนุพินาถ (กิ่ง ต้นสกุลเครือทองศรี) เป็นเจ้าเมืองปากเหืองคนแรก แล้วพระราชทานชื่อเมืองใหม่ว่า เมืองเชียงคาน
ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พวกจีนฮ่อได้ยกทัพมาตีเมืองเวียงจันทน์ เมืองหลวงพระบาง และได้เข้าปล้นสะดม เมืองเชียงคานเดิม ที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ชาวเชียงคานเดิม จึงอพยพผู้คนไปอยู่เมืองเชียงคานใหม่ (เมืองปากเหือง) เป็นจำนวนมาก
ครั้นต่อมา เห็นว่าชัยภูมิ เมืองเชียงคานใหม่ (เมืองปากเหือง) ไม่เหมาะสมที่จะสร้างเมือง ผู้คนส่วนใหญ่ จึงพากันอพยพไปอยู่ที่บ้านท่านาจัน ซึ่งใกล้กับที่ตั้งของอำเภอเชียงคานปัจจุบัน แล้วตั้งชื่อเมืองใหม่ว่าเมืองใหม่เชียงคาน
ในสมัยรัชกาลที่4 ไทยได้เสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงให้กับฝรั่งเศส ทำให้เมืองเชียงคาน (เมืองปากเหือง) ตกเป็นของฝรั่งเศส คนไทยที่อยู่เมืองปากเหืองเมืองใหม่เชียงคาน หรือ อำเภอเชียงคานปัจจุบัน แล้วได้เปลี่ยนชื่อเมือง เป็น เมืองเชียงคาน ได้ตั้งที่ทำการอยู่วัดมหาธาตุ เรียกว่าศาลาเมืองเชียงคาน
ต่อมาได้ย้ายที่ทำการเมืองไปอยู่บริเวณวัดโพนชัย จนกระทั่งปี 2452 เมืองเชียงคานยกฐานะเป็นอำเภอ ขึ้นกับ จังหวัดเลย
