ปฏิบัติธรรมที่สวนโมกข์ สุราษฎร์ธานี

ปฏิบัติธรรมที่สวนโมกข์ สุราษฎร์ธานี อบรมอานาปานสติภาวนา

 สวนโมกขพลาราม (สวนโมกข์ สุราษฎร์ธานี) ร่วมกับ ธรรมทานมูลนิธิ จัดให้มีการอบรมสมาธิภาวนาแบบอานาปานสติ ซึ่งเป็นวิธีที่พระพุทธองค์ทรงปฏิบัติจนตรัสรู้ และทรงแนะนำให้ศึกษาปฏิบัติให้มาก เพราะอำนวยประโยชน์ทั้งด้าน ความสงบ (สมถะ) และ ความรู้รอบ (วิปัสสนา) สำหรับผู้สนใจศึกษาธรรมะ และต้องการปฏิบัติจนเห็นผลด้วยตนเอง

จุดประสงค์ของการอบรม
        เพื่อชี้แนะหลักธรรมที่เป็นหัวใจพระพุทธศาสนา ที่สามารถนำไปใช้ แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้จริง และเพื่อฝึกปฏิบัติอานาปานสติภาวนา จนสามารถสัมผัสความสงบเย็นภายใน และความเป็นอิสระของจิตใจ อันเกิดจาก ความประจักษ์ในสัจธรรม

สวนโมกข์ สุราษฏร์
 สวนโมกขพลาราม

กำหนดการอบรม

        วันที่ 19-27 ของทุกเดือน  (เข้าที่พักวันที่ 19  ก่อนเวลา 14.00 น. กลับ วันที่ 27 ก่อนเวลา 10.00 น. )

หลักการเป็นอยู่ 3 ประการ
   1. เป็นอยู่อย่างต่ำ มุ่งกระทำอย่างสูง
   2. เป็นอยู่อย่างง่าย กระทำสิ่งที่ยาก
   3. ใกล้ชิดธรรมชาติ เพื่อศึกษารอบรู้ธรรมชาติ (ธรรมะ)

คุณสมบัติของผู้เข้าอบรม

         1. มีอายุ 20-65 ปี ทุกสาขาอาชีพ (ผู้ที่อายุต่ำ/สูงกว่าที่ระบุอาจพิจารณาอนุญาตตามความเหมาะสม)
         2. มีความตั้งใจจริงและศรัทธาที่จะรับการอบรม
         3. พร้อมและเต็มใจที่จะรักษาและปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนด
         4. ให้ความร่วมมือในการรักษาความสงบ ด้วยการงดพูดคุยสนทนา
         5. ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรม ทางกาย/จิต
         6. พร้อมที่จะอุทิศเวลา ตลอดการอบรม เพื่อการศึกษาและการปฏิบัติธรรม

   คำแนะนำสำหรับผู้จะเข้ารับการอบรมฯ :
          – ศึกษาธรรมะที่เป็นพื้นฐานตามสมควร
          – ต้องมีความพร้อมทั้งสุขภาพกาย-จิต

 ผู้ที่เข้าอบรม ต้องเดินทางมาถึงสถานที่อบรม (สวนโมกข์นานาชาติ)วันที่ 19ภายในเวลา 15.00 น. เพื่อรับฟังการแนะนำสถานที่และระเบียบความเป็นอยู่  (จึงจำเป็นต้องมาเวลานี้) วันที่ 27 เวลา 06.00 น. นำชม ธรรมาศรมธรรมมาตา และ ธรรมาศรมธรรมทูต, เวลา 10.00 น. เดินทางกลับ 

        สำหรับท่านที่ยังไม่เดินทางกลับ ในวันที่ 27 สามารถเลือกซื้อหนังสือ, เทป, ซีดีธรรมะของท่านพุทธทาสที่อาคารคณะธรรมทาน, ชมผลงานของท่าน เกือบทั้งหมดที่ ศาลาธรรมโฆษณ์, ศึกษาภาพปริศนาธรรมที่ โรงมหรสพทาง วิญญาณ และเยี่ยมชมสถานทีอื่น ๆ  ที่น่าสนใจภายในสวนโมกขพลาราม

รูปแบบการจัดอบรม

         ถือแนวทางการพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตให้สมบูรณ์ครบถ้วนตามระบบองค์รวมแห่งพุทธธรรมทั้งสามด้าน กล่าวคือศีล-สมาธิ-ปัญญา อันจะนำไปสู่วิถีชีวิตที่สุขสงบเย็น เป็นประโยชน์ มีดุลยภาพและยั่งยืน ทั้งส่วนตนและสังคมโดยรวม กล่าวคือ
       1. ศีล : ฝึกการใช้ชีวิตที่สงบเย็น เรียบง่าย เป็นอิสระจาก พันธนาการทางวัตถุส่วนเกินให้มากที่สุด ให้ความสำคัญต่อการรักษา ปฏิบัติตามระเบียบวินัยอันดีของชุมชน ดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่า เป็นประโยชน์ปราศจากการเบียดเบียนผู้อื่นและตนเอง โดยถือแนวการ ปฏิบัติศีลแปดเป็นบรรทัดฐานขั้นต่ำ.

       2. สมาธิ : ฝึกหัดพัฒนายกระดับความมีคุณภาพและประสิทธิภาพของจิต ทั้งทางด้านสติและสมาธิ ด้วยระบบอานาปานสติภาวนา โดย ฝึกหัดปฏิบัติในทุกอิริยาบถของการดำรงชีวิตตลอดระยะเวลาของการอบรม.

       3. ปัญญา : ด้วยการนำเสนอหลักธรรมที่เป็นแก่นหลักของพุทธธรรม เพื่อเป็นแนวทางและพื้นฐานความรู้ที่จะนำไปสู่การปฏิบัติ จนเกิด การพัฒนาปัญญาญาณ รู้เห็นแจ้งสภาวะตามความเป็นจริงของสัจจธรรม แห่งชีวิตและสรรพสิ่งทั้งหลายที่เกี่ยวข้อง.

      อนึ่ง จุดมุ่งหมายอันเป็นหัวใจสำคัญประการหนึ่งของการอบรมครั้งนี้ ได้แก่การพัฒนาสภาวะความสงบเย็นภายในจิตใจของผู้ร่วม กิจกรรมเป็นพื้นฐานเบื้องต้น จึงถือเป็นข้อตกลงที่เคร่งครัด ในการงดพูดจา ติดต่อสื่อสาร กับบุคคลต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก ตลอดระยะเวลาของการอบรม ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องถือปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อประโยชน์ทั้งต่อตนเองและส่วนรวม.

         การเป็นอยู่ : การใช้ชีวิตเป็นอยู่ ณ ธรรมาศรมนานาชาติ ซึ่งเป็นชุมชนแห่งพุทธะ (ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน) ชุมชนแห่งสันติสงบร่มเย็น และการฝึกฝนพัฒนาตนเอง จึงใช้แนวทางที่ท่านอาจารย์พุทธทาส ให้ไว้สำหรับผู้ปฏิบัติธรรมที่สวนโมกข์ กล่าวคือ “กินอยู่อย่างต่ำ มุ่ง กระทำอย่างสูง”, “เป็นอยู่อย่างง่าย มุ่งกระทำสิ่งที่ยาก” และใช้ชีวิต ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด ดังนี้
          1. รับประทานอาหารวันละ 2 มื้อ (งดเว้นเนื้อสัตว์) วันที่ 25  จัดให้ฝึกเข้าอยู่อุโบสถศีล โดยรับประทานอาหารเพียงมื้อเดียว
          2. ฝึกหัดการนอนด้วยหมอนไม้ พร้อมเครื่องนอนที่เรียบง่ายที่สุด ฝึกการใช้ชีวิตเท้าเปล่า ไม่สวมรองเท้า
          3. ใช้ชีวิตอยู่กับตัวเองโดยลำพัง เพื่อให้สามารถศึกษา เรียนรู้ เข้าใจภาวะจิตใจของตัวเองได้อย่างเต็มที่ตลอดเวลา
          4. ใช้เวลาของชีวิตให้คุ้มค่ามากที่สุด ด้วยการเข้าร่วมกิจกรรม ทุกกิจกรรม และฝึกฝนอบรมตนเองตลอดเวลาของการอบรม
          5. ใช้ชีวิตด้วยความสงบเย็น ผ่อนคลาย ไม่เคร่งเครียดเร่งร้อน ใกล้ชิดธรรมชาติให้มากที่สุด เพื่อเรียนรู้สภาวะแห่งความสมดุลพอเหมาะพอดี ในทุก ๆ การกระทำแห่งการดำเนินชีวิต

การเตรียมตัว :
          1. ท่านควรศึกษาระเบียบข้อปฏิบัติการเป็นอยู่และตารางเวลา กิจกรรมให้เข้าใจอย่างละเอียดชัดเจน เพื่อให้ท่านสามารถปรับตัวดำเนิน ชีวิตแห่งการปฏิบัติธรรมได้อย่างถูกต้อง โดยไม่เกิดความวิตกกังวลใด ๆ
         2. จัดการธุระส่วนตัวให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนเริ่มกิจกรรม เพื่อตัด สิ่งที่จะรบกวนจิตใจของท่านตลอดระยะเวลา ของการอบรม
          3. หากมีข้อสงสัยหรือปัญหาใด ๆ โปรดสอบถามอาสาสมัครผู้ ทำหน้าที่ประสานการจัดอบรม เพื่อขจัดสิ่งรบกวนจิตใจท่านก่อนเริ่มการอบรม และเพื่อหลีกเลี่ยงการพูดคุยให้มากที่สุดตลอดระยะเวลาของการอบรม    

          ข้อควรระลึก : ท่านที่ตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรม ควรระลึกเสมอว่า ท่านต้องการเข้าร่วมกิจกรรม อบรมพัฒนา ฝึกฝนตนเองให้มี คุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะต้องผ่านกระบวนการฝึกฝนอบรมตนที่ยาก ลำบากบ้างเป็นธรรมดา โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเรียนรู้และปรับตัว จะต้องใช้ความอดทนและความเพียรเป็นอย่างสูง แต่จะนำมาซึ่ง ผลอันมีคุณค่าสูงยิ่งต่อการดำรงชีวิตอย่างมิอาจประเมินค่าได้ กรุณา อย่าเข้าร่วมอบรมเพื่อทดลองเล่น หรือหวังว่าจะได้อะไรดี ๆ โดยปราศ จากการลงแรง หรือได้มาด้วยความสะดวกสบายเลย ท่านจะพบกับความ ผิดหวังอย่างแน่นอน โปรดตระหนักไว้เสมอว่า พระบรมศาสดา ตรัสรู้บรรลุสัจจธรรมอันสูงสุด ในสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่อย่าง ธรรมชาติธรรมดาที่สุด มิได้ตรัสรู้ในพระราชวังอันแสนสะดวกสบาย ที่พระองค์ทรงสละละทิ้งออกมา

ข้อพึงปฏิบัติ
   1. อยู่ร่วมตลอดการอบรม เข้าร่วมทุกรายการและตรงต่อเวลา
   2. งดติดต่อบุคคลภายนอก และไม่ออกนอกบริเวณที่อบรม
   3. งดการพูดคุยกับผู้ปฏิบัติอื่น มีปัญหากรุณาถามวิทยากรหรือเจ้าหน้าที่
   4. ไม่นำอาหารหรือของกินอย่างอื่นติดตัวมา ควรรับประทานอาหารเฉพาะ
        ที่จัดให้  เพื่อความเป็นอยู่อย่างง่าย
   5. ตั้งใจปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างถูกต้อง ด้วยความกระตือรือร้น
   6. ไม่คาดหวังเกินไปจนเคร่งเครียด ปฏิบัติด้วยความผ่อนคลาย
   7. งดส่งเสียงดังทุกกรณี และมีความเกรงใจผู้อื่น
   8. มีสติในทุกอิริยาบถ ทำงานและกิจวัตรทุกอย่างให้เป็นการปฏิบัติธรรม
   9. งดใช้เครื่องประดับของมีค่า ฯลฯ และไม่ควรนำติดตัวมา

ของใช้จำเป็นที่ต้องเตรียมมา

         1   เสื้อตัวยาวคลุมสะโพก ไม่รัดรูป ไม่บาง (ไม่ใช้เสื้อผ้าแขนกุด) ผ้านุ่งหรือ กางเกงขายาว สีสุภาพ (ไม่นุ่งขาสั้น)
         2.   ผ้าสำหรับเปลี่ยนอาบน้ำ (ผู้ชาย-ผ้าขาวม้า/ผู้หญิง-ผ้าถุงสีเข้ม ๒ ผืน)
         3.   กางเกงยืดขายาว สำหรับฝึกกายบริหารกาย-บริหารจิต
         4.   ยาทากันยุง   
         5.   ไฟฉาย, ร่ม
          6.   ยา (หากมีโรคประจำตัว)    
         7.   ถุงย่าม หรือถุงผ้า (ไม่ใช้ถุงพลาสติก)

กำหนดการประจำวัน

   ตื่นนอน       ๐๓.๓๐ น.   

    ๐๔.๐๐   –   ๐๕.๐๐ น.          ทำวัตรสวดมนต์เช้า
    ๐๕.๐๐   –   ๐๖.๐๐ น.          อ่านธรรมมะรับอรุณ นั่งสมาธิ
    ๐๖.๐๐   –   ๐๗.๐๐ น.          ออกกำลังกายยามเช้า
    ๐๗.๐๐   –   ๐๘.๐๐ น.          ฝึกปฏิบัติอานาปานสติภาวนา
    ๐๘.๐๐   –   ๑๐.๐๐ น.          อาหารเช้า,  งานอาสาสมัคร,  พักผ่อน
    ๑๐.๐๐   –   ๑๑.๓๐ น.          ฝึกปฏิบัติอานาปานสติภาวนา
    ๑๑.๓๐   –   ๑๒.๓๐ น.          ซีดี อานาปานสติภาวนา
    ๑๒.๓๐   –   ๑๔.๐๐ น.          อาหารกลางวัน,  พักผ่อน
    ๑๔.๐๐   –   ๑๕.๓๐ น.          ฝึกปฏิบัติอานาปานสติภาวนา
    ๑๕.๓๐   –   ๑๖.๓๐ น.          ซีดี อานาปานสติภาวนา
    ๑๖.๓๐   –   ๑๗.๐๐ น.          ฝึกปฏิบัติอานาปานสติภาวนา
    ๑๗.๐๐   –   ๑๘.๐๐ น.          ทำวัตรสวดมนต์เย็น
    ๑๘.๐๐   –   ๑๙.๓๐ น.          ดื่มน้ำปานะ  พักผ่อน
    ๑๙.๓๐   –   ๒๑.๐๐ น.          ธรรมะก่อนนอน  ปฏิบัติอานาปานสติภาวนา   
    ๒๑.๐๐   –   ๐๓.๓๐ น.          พักผ่อน 

สิ้นสุดการรับสมัครล่วงหน้าทุกวันที่ 18ของเดือน

สิ่งที่ผู้ปฏิบัติธรรมต้องเตรียมให้พร้อมเมื่อเข้าอบรม

1. ชุดปฏิบัติธรรม ผ้าถุงดำ, เสื้อขาวสำหรับปฏิบัติธรรม, เสื้อซับในตัวยาว, เข็มขัด(แม่ชีแต่งกายตามปกติ) เตรียมมาให้พอสำหรับอยู่ตลอดระยะเวลาการอบรมไม่อนุญาตให้ใช้ผ้าโสร่ง กางเกงขาสั้น เสื้อรัดรูป สายเดี่ยว แขนกุด

2. ชุดออกกำลังกาย กางเกงไม่รัดรูป, เสื้อยืด

3. เสื้อกันหนาว ถุงเท้า เตรียมมาให้พอ เนื่องจากช่วงระยะเวลานี้อากาศเย็นและมีฝนตก

4. นาฬิกาปลุก (ไม่อนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือมาใช้เป็นนาฬิกาปลุก)

5. ของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดตัว, แปรงสีฟัน, ยาสีฟัน, สบู่ , ผงซักฟอก, ผ้าอนามัย , รองเท้าแตะ, กระบอกใส่น้ำร้อน (ถ้าต้องการใช้)
ผ้าเช็ดมือ ๔ ผืน สำหรับใช้ในเวลารับประทานอาหาร (ไม่ใช้กระดาษทิชชู)(ควรใช้ชุดชั้นในที่ซักแล้วแห้งง่าย เพราะสภาพอากาศชุ่มชื้น)

6. ยาประจำตัว

เพื่อเป็นการลดขยะมูลฝอย ของใช้ส่วนตัวควรเลือกชนิดที่บรรจุใส่ขวด เช่น สบู่, น้ำยาซักผ้า, และเตรียมมาให้เพียงพอสำหรับอยู่ตลอดระยะเวลาการอบรม
รับประทานอาหารตามที่โครงการจัดให้ ไม่นำอาหารแห้ง น้ำดื่มและเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ มาทั้งสิ้น

หมายเหตุ
– ไม่นำรถยนต์ส่วนตัวมาจอดไว้ในระหว่างการอบรม
– มีรถรับจ้างรอที่ชั้นล่างอาคารธรรมทานมูลนิธิ เพื่อรับเข้าไปธรรมาศรมธรรมมาตา สวนโมกขพลาราม ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ น.


กรอกใบสมัคร

ขอบคุณข้อมูลจาก ธรรมทานมูลนิธิ


ข้อมูลการติดต่อ
ที่อยู่ : 68/1 หมู่ 6 ต.เลม็ด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี อำเภอไชยา 84110
โทรศัพท์ : 086 090 3296

This image has an empty alt attribute; its file name is 2020-08-11_233025.jpg
เดินทางจากสนามบินสุราษฎร์ธานี เพียง 30 นาที
This image has an empty alt attribute; its file name is สวนโมกข์.jpg
สวนโมกขพลาราม
ด้านหน้าสวนโมกขพลาราม

เรื่องที่เกี่ยวข้อง