วัดป่าเจริญราช


โครงการปฏิบัติธรรมวัดป่าเจริญราช

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

พระครูปทุมภาวนาจารย์ (หลวงพ่อวีระนนท์ วีรนนฺโท) เจ้าอาวาสวัดป่าเจริญราช ได้ตั้งปณิธานไว้แน่วแน่ว่า ต้องการให้วัดป่าเจริญราช ซึ่งปัจจุบันได้รับแต่งตั้งเป็นสำนักปฏิบัติธรรม ประจำจังหวัดปทุมธานีแห่งที่ 13 ให้เป็นศูนย์ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานสำหรับนักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ให้ได้เข้ารับการฝึกอบรมพัฒนาจิตใจ ให้เข้าใจจิตใจตนเอง เข้าใจต่อสภาวะธรรมต่างๆ ตามธรรมชาติ ตามหลักคำสอนและแนวทางการปฏิบัติ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยมีครูบาอาจารย์ที่มีความรู้ ความสามารถ คอยชี้แนะแนวทางการปฏิบัติ และแสดงพระธรรมเทศนาในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติธรรม ทั้งนี้เพื่อให้โยคีผู้เข้ารับการฝึกอบรมปฏิบัติธรรม สามารถนำหลักธรรมคำสอน และแนวทางการฝึกจิตใจของตนเอง ไปแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งในหลายๆปีที่ผ่านมา ทางวัดฯได้จัดให้มีการอบรมวิปัสสนากรรมฐานทุกวัน ตลอดทั้งเดือน โดยแบ่งโครงการปฏิบัติธรรมออกเป็น 5 รูปแบบ คือ

1.โครงการพัฒนาจิตเพื่อพ่อ (หลักสูตรแนะนำ)

หลักสูตรแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการไปปฏิบัติธรรม โดยมีพระวิปัสสนาจารย์เมตตาให้คำแนะนำอบรมสั่งสอนตลอดโครงการ จัดขึ้นเป็นประจำทุกวันที่ 1 – 8 ของทุกเดือน เป็นคอร์สปฏิบัติธรรมแบบต่อเนื่อง เข้มข้น มีการ“สมาทานปิดวาจา” ซึ่งสงวนสิทธิ์สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการฯ ที่ต้องอยู่ครบทั้ง 8 วันเท่านั้น โดยตลอดระยะเวลาของโครงการ ผู้เข้าร่วมฯจะได้รับเมตตาจากพระวิปัสสนาจารย์ ในการดูแล ให้คำแนะนำ และสอนวิธีการปฏิบัติ และยังได้รับเมตตาจากพระครูปทุมภาวนาจารย์ ในการสอบอารมณ์กรรมฐาน ให้คำชี้แนะ ทั้งนี้โยคีผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องสมาทานศีล 8 และปิดวาจา(ในวันที่ 3) ไม่พูดคุย ติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นใด ที่ไม่ใช่พระวิปัสสนาจารย์ด้วยวิธีใดๆ ทั้งนี้เพื่อให้โยคีผู้เข้าร่วมโครงการ ได้รับผลจากการปฏิบัติได้ดียิ่งๆขึ้นไป

ระยะเวลาของโครงการ

โครงการเริ่มต้นทุกวันที่ ๑ ถึงวันที่ ๘ ของทุกเดือน ตลอดทั้งปี โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องอยู่ปฏิบัติธรรมครบตลอดทั้ง ๘ วัน และต้องสมัคร/ลงทะเบียนภายในวันที่ ๑ ไม่เกิน ๑๒.๐๐ น. เท่านั้น ทั้งนี้ทางวัดฯสงวนสิทธิ์ ไม่รับผู้ปฏิบัติธรรม เข้า-ออกระหว่างโครงการฯ

การลงทะเบียน

ผู้ที่ประสงค์จะเข้าปฏิบัติธรรม ให้ลงทะเบียนได้ ในวันที่ ๑ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. ณ ศาลาปฏิบัติธรรม ทั้งนี้ การลงทะเบียนจะสมบูรณ์ต่อเมื่อเจ้าหน้าที่ลงลายมือชื่อในใบลงทะเบียนแล้ว จากนั้นให้นำสัมภาระเข้าเก็บยังที่พักที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ โดยแยกที่พักระหว่างหญิงและชาย ซึ่งไม่สามารถเลือกที่พักเองได้ และสงวนสิทธิ์การจองที่พักล่วงหน้า

สถานที่

ทางวัดได้จัดเตรียมสถานที่อันเป็นสัปปายะ เพื่อให้ผู้ที่ต้องการเรียนรู้ ดูกายใจ ได้มีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้เกิดสภาวะธรรม ที่จะนำผู้ปฏิบัติให้ได้เข้าถึงความจริงแห่งสภาวะจิต โดยจิตใจที่มุ่งมั่น น้อมนำมาดีแล้ว มีสถานที่อันเหมาะสม ได้พบครูบาอาจารย์ พระวิปัสสนาจารย์ ผู้มีประสบการณ์ในการปฏิบัติธรรม คอยชี้แนะแนวทางให้กับผู้ปฏิบัติธรรมอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง

การปฏิบัติธรรม

ผู้ปฏิบัติธรรมจะได้รับเมตตาจากพระวิปัสสนาจารย์ ในการส่งอารมณ์กรรมฐาน นำเดินจงกรมระยะที่ ๑ ตามเวลาที่กำหนด จากนั้นจะสอนการนั่งสมาธิภาวนา โดยเน้นที่การกำหนดภาวนาแบบ พองหนอ ยุบหนอ ส่วนท่านใดจะภาวนาแบบพุทโธ หรือ แบบสัมมาอรหัง ก็ได้เช่นกัน และยังสามารถสอบถามสภาวธรรมกับหลวงพ่อ หรือพระวิปัสสนาจารย์ได้ ไม่ว่าจะภาวนาในรูปแบบใด

การสวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น

เป็นรูปแบบหนึ่งของการเจริญสติ ที่จะทำให้ผู้ปฏิบัติธรรมเกิดสมาธิ มีใจจดจ่ออยู่กับบทสวดมนต์ ซึ่งการทำวัตรนี้ จะมีพระอาจารย์นำสวดมนต์บทต่างๆทุกครั้ง

ผู้เข้าปฏิบัติธรรมต้องเข้าร่วม สวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น ตามเวลาที่กำหนดทุกครั้ง ยกเว้นกรณีที่จำเป็นจริงๆซึ่งต้องเรียนให้พระอาจารย์ หรือแจ้งเจ้าหน้าที่รับทราบ

การฟังธรรมบรรยาย

ในช่วงค่ำเวลาประมาณ ๒๐.๐๐ น.ถึง ๒๑.๐๐ น. ทุกวันตลอดโครงการ ทุกท่านจะได้รับฟังธรรมบรรยาย จากหลวงพ่อหรือพระวิปัสสนาจารย์ โดยธรรมบรรยายนั้นๆ จะเกี่ยวเนื่องกับสภาวการปฏิบัติ เพื่อให้คำชี้แนะ และเป็นแนวทางในการเจริญสติ การแก้ไขอารมณ์กรรมฐาน หรืออื่นๆ ตามสภาวธรรมของผู้ปฏิบัติในแต่ละวัน

การสอบอารมณ์

เพื่อให้ผู้ปฏิบัติธรรมที่เกิดสภาวะธรรมที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง ได้มีแนวทางเจริญสติที่ถูกต้อง หลวงพ่อได้เมตตาเปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติธรรม สอบถาม บอกเล่าถึงวิธีการ อาการ และ/หรือความรู้สึกของตนในระหว่างการปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการเดินจงกรม การนั่งสมาธิภาวนา หรือบอกเล่าถึงสภาวธรรมต่างๆที่เกิดขึ้น หลวงพ่อจะให้คำแนะนำถึงวิธีการปฏิบัติต่อสภาวธรรมนั้นๆ ให้ทุกท่านได้ปฏิบัติอย่างถูกต้องและพัฒนาส่วนที่ยังขาดอยู่ให้เกิดความสมดุลย์กัน

การปิดวาจา

เพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้เข้าถึงสภาวธรรม อันเป็นสภาวะภายในของตน ให้ทุกท่านได้ศึกษาสภาวอารมณ์เฉพาะของตนเองที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งเป็นคุณประโยชน์สูงสุดกับผู้ปฏิบัติธรรมเอง ดังนั้นหลวงพ่อจึงกำหนดให้ผู้ปฏิบัติทุกท่าน ทำการ สมาทานปิดวาจา งดการสนทนาต่างๆ ยกเว้นกับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลหรือพระวิปัสสนาจารย์เท่านั้น ดังนั้นผู้ที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องเตรียมความพร้อมที่จะปิดวาจาด้วย,การสมาทานปิดวาจานี้ เป็นการกล่าวให้สัจจะ ต่อหน้าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และพระวิปัสสนาจารย์ ดังนั้นผู้ปฏิบัติธรรมจะต้องรักษาสัจจะนี้  โดยความหมายของการปิดวาจานั้น นอกจากการงดการพูดคุยแล้ว ยังรวมถึงการติดต่อสื่อสารด้วยสัญญาณ ท่าทางหรือเขียนข้อความผ่านสือและเทคโนโลยีต่างๆ อันจะเป็นการกระทำที่ทำให้ผู้ปฏิบัติธรรม ส่งจิตออกข้างนอกที่ไม่ใช่เรื่องภายในกายและในจิตใจของตนเอง ควรงดเว้นทั้งสิ้น

ระเบียบการเข้าปฏิบัติธรรม

การเข้าปฏิบัติธรรม โครงการพัฒนาจิตเพื่อพ่อ ณ วัดป่าเจริญราช ทุกวันที่ ๑ – ๘ ของเดือน ตลอดทั้งปี

ก่อนการลงทะเบียนเข้าปฏิบัติธรรม ทุกท่านต้องศึกษาและยอมรับกฎระเบียบของวัด ดังนี้

  •  คุณสมบัติของผู้เข้าปฏิบัติธรรม
    • ต้องเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ไม่วิกลจริต เป็นโรคลมชัก หรือลมบ้าหมู
    • ต้องเป็นผู้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่พิการอวัยวะที่เป็นเหตุให้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และไม่เป็นโรคร้ายแรงหรือโรคติดต่อที่สังคมรังเกียจ
    • ไม่เป็นผู้ติดยาเสพติดให้โทษทุกชนิด เช่น ยานัตถุ์ บุหรี่ สุรา ยาบ้า หรือยาเสพติดอื่นๆ
    • ต้องไม่เป็นผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง
    • รับผู้ปฏิบัติธรรมอายุ ๑๕ ปีขึ้นไป
    • ทางวัดไม่อนุญาตให้เข้าปฏิบัติธรรมเพื่อแก้บน
  • กฏระเบียบของการเข้าปฏิบัติธรรม
    • ต้องอยู่ปฏิบัติธรรมครบทั้ง ๘ วัน ตลอดโครงการ
    • รักษาศีล ๘ อย่างเคร่งครัด สำรวมกาย วาจา ใจให้เป็นปกติตลอดเวลา โดยใช้หลักสติปัฏฐานสี่ ให้ความเคารพและเชื่อฟังคำแนะนำของพระอาจารย์
    • หากมีความสงสัยในการปฏิบัติธรรม ให้สอบถามสภาวธรรมกับพระวิปัสสนาจารย์เท่านั้น
    • งดพูด – คุยโทรศัพท์ ตลอดระยะเวลาในโครงการ หากจำเป็นให้ขออนุญาตพระอาจารย์หรือเจ้าหน้าที่เป็นกรณีไป
    • ห้ามก่อเหตุทะเลาะวิวาท ด่าทอ พูดจาเสียดสี หรือแสดงกิริยาอาการอื่นใดที่ไม่เหมาะสม หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ทั้งคู่กรณีต้องออกจากวัดไปโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น
    • ผู้ปฏิบัติธรรมต้องลงทำวัตร และปฏิบัติธรรมพร้อมกันที่ศาลาปฏิบัติธรรม ตามเวลาที่กำหนดไว้ หากมีเหตุจำเป็นสุดวิสัย ที่ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติธรรมได้ ให้แจ้งพระอาจารย์หรือเจ้าหน้าที่ทราบทุกครั้ง
    • ไม่อนุญาตให้ผู้ปฏิบัติธรรม เข้าพบหลวงพ่อที่ห้องรับแขก หรือออกนอกบริเวณวัดโดยไม่เรียนให้พระอาจารย์ หรือไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบโดยเด็ดขาด
  • สิ่งที่ต้องจัดเตรียม เพื่อการเข้าปฏิบัติธรรมในโครงการ
    • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, บัตรข้าราชการ, หนังสือเดินทาง อย่างใดอย่างหนึ่ง
    • ของใช้ส่วนตัว เช่น ยาประจำตัว แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ ผ้าเช็ดตัว รองเท้า(ควรเรียบร้อยเหมาะกับสถานที่) งดเว้นการสวมใส่เครื่องประดับต่างๆ,งดการใช้เครื่องปะทินผิวทุกชนิด, ชุดชั้นในควรเป็นสีที่ใกล้เคียงกับชุดปฏิบัติธรรม
    • ชุดปฏิบัติธรรม ผู้ปฏิบัติธรรมควรจัดเตรียมชุดปฏิบัติธรรมของตนเอง ให้ครบตามจำนวนวันที่ปฏิบัติ งดการซักผ้า(หากไม่จำเป็น), ชาย กางเกงขายาวสีขาว เสื้อแขนสั้นสีขาว, หญิง เสื้อแขนยาวสีขาว ผ้าถุงสีขาว กางเกงขายาวสีขาว สไบสีขาว ควรสวมเสื้อซับใน รวบผม ให้เรียบร้อย
    • ผ้าห่ม

ตารางเวลา
วันที่ ๑

  • เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. ลงทะเบียน เข้าที่พักและรับประทานอาหารกลางวัน
  • เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๓.๓๐ น. ปฐมนิเทศชี้แจงระเบียบปฏิบัติ
  • เวลา ๑๓.๓๐ – ๑๖.๐๐ น. พิธีสมาทานศีล ๘, สมาทานพระกัมมัฏฐาน และวิธีปฏิบัติพระกรรมฐาน
  • เวลา ๑๗.๓๐ – ๑๙.๔๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
  • เวลา ๒๐.๐๐ – ๒๑.๐๐ น. ฟังธรรมบรรยาย ภาคปฏิบัติ โดย หลวงพ่อวีระนนท์ วีรนนฺโท หรือ พระวิป้สสนาจารย์

วันที่ ๒

  • เวลา ๐๔.๐๐ น. สัญญาณระฆัง สรีระกิจ
  • เวลา ๐๔.๓๐ – ๐๖.๓๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเช้า ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
  • เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๐.๓๐ น. ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
  • เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
  • เวลา ๑๗.๓๐ – ๑๙.๔๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
  • เวลา ๒๐.๐๐ – ๒๑.๐๐ น. ฟังธรรมบรรยาย ภาคปฏิบัติ โดย หลวงพ่อวีระนนท์ วีรนนฺโท หรือพระวิป้สสนาจารย์ ,พิธีสมาทานปิดวาจา

วันที่ ๓ ถึง วันที่ ๗ ไม่มีการสวดมนต์ทำวัตรเช้า – เย็น โดยให้ปฏิบัติธรรมอย่างเดียว และฟังธรรมบรรยาย ในเวลา ๒๐.๐๐น.

วันที่ ๘ (วันปิดโครงการ)

  • เวลา ๐๔.๐๐ น. สัญญาณระฆัง สรีระกิจ
  • เวลา ๐๔.๓๐ – ๐๖.๓๐ น. ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
  • เวลา ๐๘.๓๐ – ๑๐.๓๐ น. พิธีให้โอวาท, ผู้ปฏิบัติธรรมกล่าวแสดงความรู้สึก(เปิดใจ), พิธีลาศีล ๘ สมาทานศีล ๕, ขอขมาศีล ขอขมาธรรม ขอขมาพระกรรมฐาน, พิธีมาลาบูชาครู, พิธีถวายพระพร
  • การรับประทานอาหาร
    • ผู้ปฏิบัติธรรม พร้อมกันในที่ ที่ทางวัดได้จัดเตรียมไว้สำหรับการรับประทานอาหาร เช้าเวลา ๐๖.๓๐ น. กลางวัน เวลา ๑๐.๓๐ น. และรับน้ำปานะ เวลา ๑๖.๐๐ น. –
    • ก่อนถึงเวลารับประทานอาหาร ผู้ปฏิบัติธรรมควรช่วยกันจัดที่นั่ง สำหรับผู้ปฏิบัติธรรมด้วยกัน
    • ต้องเดินตักอาหารด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย ห้ามพูดคุยกัน
    • ขณะนั่งรอ และรับประทานอาหาร ผู้ปฏิบัติธรรมควรงดพูดคุย หรือแสดงอาการใด ๆ ที่ไม่สำรวม
    • เมื่อเสร็จจากการรับประทานอาหารแล้ว ผู้ปฏิบัติธรรมควรช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ และทำความสะอาดภาชนะให้เรียบร้อย ไม่ควรปล่อยทิ้งให้เป็นภาระของบุคคลอื่น
  • ข้อปฏิบัติในวันกลับบ้านเมื่อครบกำหนดการปฏิบัติธรรม ต้องเก็บของใช้ส่วนตัวกลับให้หมด ห้ามทิ้งไว้ให้เป็นภาระผู้อื่น หากทิ้งไว้ ทางวัดจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น และควรช่วยเหลือทำความสะอาดที่พัก ศาลาปฏิบัติธรรม ห้องน้ำ เป็นต้น

– ในกรณีที่ผู้ปฏิบัติธรรมท่านใด ไม่สามารถปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดไว้ ทางวัดจะกล่าวตักเตือนให้ทราบก่อน หากยังไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวได้อีก ทางวัดขออนุญาตให้ท่านกลับไปปฏิบัติฯที่บ้าน ทั้งนี้เพื่อความผาสุขของผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่าน ที่ตั้งใจเข้าปฏิบัติธรรม และเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของการอยู่ร่วมกัน

 หมายเหตุ – ผู้ที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาจิตเพื่อพ่อ หรือสาธุชนผู้ใจบุญทั้งหลาย สามารถร่วมทำบุญได้ตามกำลังศรัทธา โดยแจ้งความจำนงต่อเจ้าหน้าที่ประจำโครงการเท่านั้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทรศัพท์ 0-2995-2112 แฟ็กซ์ 0-2995-2477 
หรือสอบถามโดยตรงได้ที่ 
อาจารย์ดรุณี พัวพันธ์สกุล (แม่น้อง) โทร.085 666 4898 

2. โครงการปฏิบัติธรรมเป็นหมู่คณะ

ทางวัดป่าเจริญราชได้เปิดให้คณะบุคคล สาธุชน จากห้างร้าน บริษัท คณะนักเรียนนักศึกษา หรือองค์กรต่างๆทั่วไป ที่มีความศรัทธา สามารถเข้าปฏิบัติธรรมแบบหมู่คณะโดยพร้อมกันได้ โดยสามารถติดต่อเพื่อแจ้งข้อมูล หรือกำหนดวัน เวลา ที่ต้องการเข้ารับการอบรม ได้ตลอดทุกวันที่วัดป่าเจริญราช

ตั้งแต่วันที่ 9 ของทุกเดือนเป็นต้นไป ทางวัดป่าเจริญราชได้เปิดให้ กลุ่มบุคคลทั่วไป ห้างร้าน บริษัท คณะนักเรียนนักศึกษา หรือคณะบุคคลทั่วไป ได้จองติดต่อขอเข้าปฏิบัติธรรมแบบหมู่คณะได้ตลอดทั้งเดือน โดยติดต่อประสานงาน ขอจองวันล่วงหน้ากับเจ้าหนี้ผู้ดูแลรับผิดชอบ

ระเบียบการเข้าปฏิบัติธรรม

การเข้าปฏิบัติธรรม ก่อนที่จะลงทะเบียนเข้าปฏิบัติธรรม ต้องศึกษาและยอมรับกฎระเบียบของวัด ดังนี้

  • คุณสมบัติของผู้เข้าปฏิบัติธรรม
    • ต้องเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ไม่วิกลจริต เป็นโรคลมชัก หรือลมบ้าหมู
    • ต้องเป็นผู้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่พิการอวัยวะ และไม่เป็นโรคร้ายแรงหรือโรคติดต่อที่สังคมรังเกียจ
    • ไม่เป็นผู้ติดยาเสพติดให้โทษทุกชนิด เช่น ยานัตถุ์ บุหรี่ สุรา ยาบ้า หรือยาเสพติดอื่นๆ
    • ต้องไม่เป็นผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง
    • ทางวัดไม่อนุญาตให้มาปฏิบัติธรรมเพื่อแก้บน
  • สิ่งที่ต้องเตรียมมา
    • สำเนา บัตรประจำตัวประชาชน บัตรข้าราชการ หนังสือเดินทาง อย่างใดอย่างหนึ่ง
    • ของใช้ส่วนตัว เช่น ยาประจำตัว แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ ผ้าเช็ดตัว รองเท้าควรเรียบร้อยเหมาะกับสถานที่ งดเว้นการสวมใส่เครื่องประดับ การใช้เครื่องปะทินผิวทุกชนิด ชุดชั้นในควรเป็นสีที่ใกล้เคียงกับชุดปฏิบัติธรรม
    • ชุดปฏิบัติธรรม ผู้ปฏิบัติธรรมควรนำชุดปฏิบัติธรรมของตนเองมาให้ครบตามจำนวนวันที่ปฏิบัติ งดการซักผ้า หากไม่จำเป็น ชาย กางเกงขายาวสีขาว เสื้อแขนสั้นสีขาว หญิง เสื้อแขนยาวสีขาว ผ้าถุงสีขาว กางเกงขายาวสีขาว สไบสีขาว ควรสวมเสื้อซับใน รวบผม ให้เรียบร้อย
    • ผ้าห่ม
  • กฎระเบียบสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมตารางเวลา
    • ต้องอยู่ปฏิบัติธรรมครบตลอดโครงการ
    • รักษาศีล ๘ อย่างเคร่งครัด สำรวมกาย วาจา ใจให้เป็นปกติตลอดเวลา โดยใช้หลักสติปัฏฐานสี่ ให้ความเคารพและเชื่อฟังคำแนะนำของพระอาจารย์
    • หากมีความสงสัยในการปฏิบัติธรรม ให้สอบถามสภาวธรรมกับพระวิปัสสนาจารย์เท่านั้น
    • งดพูด – คุยโทรศัพท์ ตลอดระยะเวลาในโครงการ หากจำเป็นให้ขออนุญาตพระอาจารย์หรือเจ้าหน้าที่เป็นกรณีไป
    • ห้ามก่อเหตุทะเลาะวิวาท ด่าทอ พูดจาเสียดสี หรือแสดงกิริยาอาการอื่นใดที่ไม่เหมาะสม หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ทั้งคู่กรณีต้องออกจากวัดไปโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น
    • ผู้ปฏิบัติธรรมต้องลงทำวัตร และปฏิบัติธรรมพร้อมกันที่ศาลาปฏิบัติธรรม ตามเวลาที่กำหนดไว้ หากมีเหตุจำเป็นสุดวิสัย ไม่สามารถปฏิบัติได้ ให้แจ้งพระอาจารย์หรือเจ้าหน้าที่ทราบทุกครั้ง
    • ไม่อนุญาตให้ผู้ปฏิบัติธรรม เข้าพบหลวงพ่อที่ห้องรับแขกโดยเด็ดขาด
      • วันที่ ๑
        • เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. ลงทะเบียน เข้าที่พักและรับประทานอาหารกลางวัน
        • เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๓.๓๐ น. ปฐมนิเทศชี้แจงระเบียบปฏิบัติ
        • เวลา ๑๓.๓๐ – ๑๖.๐๐ น. พิธีสมาทานศีล ๘ สมาทานพระกัมมัฏฐาน และวิธีปฏิบัติพระกรรมฐาน
        • เวลา ๑๗.๓๐ – ๑๙.๔๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
        • เวลา ๒๐.๐๐ – ๒๑.๐๐ น. ฟังธรรมบรรยาย ภาคปฏิบัติ โดย หลวงพ่อวีระนนท์ วีรนนฺโท
      • วันที่ ๒ เป็นต้นไป
        • เวลา ๐๔.๐๐ น. สัญญาณระฆัง สรีระกิจ
        • เวลา ๐๔.๓๐ – ๐๖.๓๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเช้า ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
        • เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๐.๓๐ น. ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
        • เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
        • เวลา ๑๗.๓๐ – ๑๙.๔๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
        • เวลา ๒๐.๐๐ – ๒๑.๐๐ น. ฟังธรรมบรรยาย ภาคปฏิบัติ โดย หลวงพ่อวีระนนท์ วีรนนฺโท 
      • วันปิดโครงการ
        • เวลา ๐๔.๐๐ น. สัญญาณระฆัง สรีระกิจ
        • เวลา ๐๔.๓๐ – ๐๖.๓๐ น. ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
        • เวลา ๐๘.๓๐ – ๑๐.๓๐ น. พิธีให้โอวาท ผู้ปฏิบัติธรรมแสดงความรู้สึก พิธีลาศีล ๘ สมาทานศีล ๕ ขอขมาศีล ขอขมา ธรรม ขอขมาพระกรรมฐาน พิธีมาลาบูชาคุณ พิธีถวายพระพร

3. โครงการปฏิบัติธรรมสำหรับบุคคลทั่วไป

ตั้งแต่วันที่ 9 ของทุกเดือนเป็นต้นไป ทางวัดป่าเจริญราชได้เปิดให้สาธุชน บุคคลทั่วไป สามารถเข้าปฏิบัติธรรมได้ทุกวันตลอดทั้งเดือน โดยไม่กำหนดระยะเวลาการปฏิบัติ แต่ไม่เกินครั้งละ 7  วัน โดยมีพระวิปัสสนาจารย์เมตตาให้คำแนะนำอบรมสั่งสอน ทั้งนี้ในช่วงการเข้าปฏิบัติธรรมจะต้องไม่ตรงกับช่วงการปฏิบัติธรรมแบบหมู่คณะ ซึ่งอาจมีการประกาศงดการรับล่วงหน้า โดยสามารถติดตามข้อมูล ข่าวสารได้ทางเว็บไซด์ และเฟสบุ๊คของทางวัด หรือสอบถามได้โดยตรงกับเจ้าหน้าที่อาสาผู้ดูแลโครงการ 

ลงทะเบียนได้ทุกวันตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. เข้าที่พักและรับประทานอาหารกลางวัน

4. โครงการค่ายพุทธบุตร

โครงการค่ายพุทธบุตร จัดให้มีขึ้นเพื่อให้เยาวชนก่อนวัยแรกรุ่นอายุ ๙-๑๒ ปี และกำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นอายุ ๑๓-๑๕ ปี ได้เข้ารับการฝึกอบรมธรรมะ และการปฏิบัติธรรมโดยพระอาจารย์ และคณะเจ้าหน้าที่ผู้มีประสบการณ์ในการฝึกอบรมแก่เยาวชน โดยมีพระครูปทุมภาวนาจารย์ (หลวงพ่อวีระนนท์ วีรนนฺโท) เจ้าอาวาสวัดป่าเจริญราช ได้เมตตาเป็นประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ซึ่งโครงการนี้ ได้จัดให้มีขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนเมษายน สามารถติดตามหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่จิตอาสาจาก ชมรมกระแสใจ วัดป่าเจริญราช ผู้ดูแลโครงการโดยตรงได้ที่ 
คุณบุษรัตน์ มกรแก้วเกยูร โทร.085 1202005, คุณอณิระ โพธินิล โทร.081 6223204, คุณดวงกมล มณีกุล โทร. 089 2053385, คุณธัญฑ์มรรฆศ์ สุนันท์กิ่งเพชร โทร. 081 9841920

ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์
พระครูปลัดวีระนนท์ วีรนนฺโท

คณะที่ปรึกษา
รศ.ดร.สุจิตรา อ่อนค้อม
ดร.วิลเลียม วิมุกตายน
คุณน้ำทิพย์ ภูธนชัย
อาจารย์ดรุณี พัวพันธ์สกุล

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

  1. พุทธบุตรมีความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ และปฏิบัติหน้าที่ของพุทธบุตรได้อย่างดีและมีความสุข
  2. พุทธบุตรได้รับความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และสามารถนำหลักธรรมปฏิบัติไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างมีความสุข “ฉลาด เก่ง ดี และมีความสุข”
  3. พุทธบุตรมีจิตสำนึกในการรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นเยาวชนที่มีคุณภาพในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป

ติดต่อสอบถามข้อมูลเจ้าหน้าที่ชมรม
• คุณบุษรัตน์ มกรแก้วเกยูร โทร. 085 1202005
• คุณอณิระ โพธินิล โทร. 081 6223204
• คุณดวงกมล มณีกุล โทร. 089 2053385
• คุณธัญฑ์มรรฆศ์ สุนันท์กิ่งเพชร โทร. 081 9841920

ติดต่อฝ่ายรับใบสมัครเข้าร่วมโครงการ
• คุณสิรินภา สินตระการผล โทร. 081 5596679
• คุณอโนทัย สินตระการผล โทร. 081 6825088


หลักการและเหตุผล

   ในปัจจุบันสังคมโลกอยู่ในท่ามกลางกระแสยุคโลกาภิวัฒน์  มีความเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยี  สังคม  เศรษฐกิจ
การเมือง  และวัฒนธรรมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะความเจริญทางด้านเทคโนโลยีการสื่่อสารผ่านโลกอินเตอร์เน็ต ทำให้มีการสื่อสารได้อย่างเสรีภาพ การรับกระแสวัฒนธรรมตะวันตก เข้ามาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตของสังคมไทย จึงมีมากขึ้น ทำให้สภาพสังคมไทยมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  มีผลต่อแนวคิดความถูกต้อง จริยธรรม ตลอดจนศีลธรรมอันดีของคนในสังคม ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีปัญหาทางสังคมต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะปัญหาวัยรุ่น เช่น ปัญหา
วัยรุ่นติดยาเสพติด ปัญหาวัยรุ่นติดเกมคอมพิวเตอร์ ปัญหาวัยรุ่นฆ่าตัวตาย ปัญหาวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
ปัญหาสี่อลามกอนาจาร เป็นต้น

วัยรุ่น (adolescent) คือวัยหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต ซึ่งคาบเกี่ยวระหว่างความเป็นเด็กต่อเนื่องกับความเป็นผู้ใหญ่ เป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาการต่างๆ ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา บุคลิกภาพ และสังคมตลอดจนพัฒนาการด้านอารมณ์อย่างรวดเร็วมาก นักจิตวิทยาได้แบ่งช่วงวัยรุ่นเป็น 3 ช่วงดังนี้ คือ ช่วงอายุประมาณ ๑๒-๑๕ ปี เป็นช่วงแรกรุ่นที่มีพฤติกรรมความเป็นเด็กมาก ช่วงอายุ ๑๖-๑๗  เป็นช่วงวัยรุ่นตอนกลาง มีพฤติกรรมก้ำกึ่งระหว่างความเป็นเด็กและผู้ใหญ่ ช่วงอายุ  ๑๘-๒๕  เป็นระยะวัยรุ่นตอนปลาย มีพฤติกรรมค่อนข้างไปทางเป็นผู้ใหญ่ โดยจะเห็นว่าช่วงวัยรุ่นเป็นวัยวิกฤตชีวิตที่สำคัญของมนุษย์  คือเป็นช่วยระยะเวลาที่มนุษย์มีความสับสนทางจิตใจมากที่สุด  ซึ่งหากวัยรุ่นผู้ใดได้ดำเนินชีวิตในช่วงเวลานี้ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น เด็กวัยรุ่นผู้นั้นย่อมเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ด้วยดี

ดังนั้นทางชมรมผู้ปฏิบัติธรรมวัดป่าเจริญราช จึงจัดโครงการค่ายพุทธบุตร อบรมการปฏิบัติสมาธิวิปัสสนากรรมฐาน อันเป็นวิธีการปฏิบัติ ที่เน้นการฝึกสติให้รู้เท่าทันอารมณ์ตนเอง เพื่อปลูกฝังจริยธรรม คุณธรรม และศีลธรรมอันดี ตลอดจน
ปลูกฝังให้เด็กนำหลักพุทธธรรม มาเป็นอุดมคติประจำตัว เพื่อเป็นเกราะป้องกัน และสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจเมื่อเผชิญกับปัญหา

ในการจัดโครงการครั้งนี้ ได้เลือกพุทธบุตร คือเด็กก่อนวัยแรกรุ่น อายุ ๙-๑๒ และกำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น
อายุ ๑๓-๑๕ ปี เนื่องจากเด็กวัยนี้มักถูกกระตุ้น และผลักดันให้ประพฤติตนเหมือนผู้ใหญ่ เด็กจะถูกคาดหวังให้เข้มแข็ง แข่งขัน มีความสำเร็จใจด้านต่างๆ ทำให้เด็กเกิดความกังวล ความเครียด มีพฤติกรรมต่อต้านพ่อแม่ ครูบาอาจารย์และสังคม เป็นวัยที่เชื่อเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ อีกทั้งชอบเลียนแบบวัฒนธรรมตะวันตก จึงเห็นว่าควรส่งเสริมและปลูกฝังการมีจริยธรรม คุณธรรม และศีลธรรมอันดีในพุทธบุตรวัยนี้ โดยโครงการนี้จะเน้นคุณธรรมความกตัญญูกตเวที ให้เด็กเกิดจิตสำนึกถึงพระคุณแม่ พระคุณพ่อ พระคุณครูบาอาจารย์ ตามหลักพุทธธรรม อันเป็นหลักธรรมพื้นฐานในการเป็นเด็กดีและเยาวชนที่ดีในสังคมต่อไป

กลุ่มเป้าหมาย

  • รุ่นที่ ๕/๑ อายุระหว่าง ๙-๑๒ ปี จำนวน ๑๒๐ คน
  • รุ่นที่ ๕/๒ อายุระหว่าง ๑๓-๑๕ ปี จำนวน ๑๒๐ คน

วัตถุประสงค์

  • ปลูกฝังให้พุทธบุตรมีความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา และครูบาอาจารย์
  • เพื่อพัฒนาจิตและปลูกฝังจริยธรรม คุณธรรม และศีลธรรมอันดี ตามหลักพุทธศาสนาอันเป็น แนวทางการประพฤติตนที่ดี มีทักษะในการดำเนินชีวิต “ฉลาด เก่ง ดี และมีความสุข”
  • เพื่อฝึกจิตให้มีสติรู้เท่าทันอารมณ์ รู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเอง และแสดงออกทางด้านอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม ทำให้สามารถปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงของวัยอย่างรวดเร็วได้  เนื่องจากวัยนี้เป็นวัยแห่งความคึกคะนอง
  • เพื่อปลูกฝังหน้าที่พุทธบริษัทให้เยาวชนเข้าใจอย่างถูกต้อง  และมีจิตสำนึกในการรักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ระยะเวลาอบรมโครงการ  ๔ วัน ๓ คืน ในเดือนเมษายนของทุกปี (เริ่มเปิดรับสมัครในวันที่ ๑ เมษายน ของทุกปี และปิดรับจนกว่าจะเต็ม)

พระวิปัสสนาจารย์ : 
พระครูปลัดวีระนนท์ วีรนนฺโท เจ้าอาวาสวัดป่าเจริญราช และ พระอาจารย์วัดป่าเจริญราช 

พระวิทยากรรับเชิญ:
พระมหารพีภัทร วชิรปญฺโญ  (ทีมธรรมไซโค วัดทองนพคุณ)

คณะวิทยากร :  
คุณวีระ ศรีสนิท เจ้าหน้าที่ชมรมกระแสใจ  และวิทยากรรับเชิญ 

ผู้รับผิดชอบโครงการ :
ชมรมกระแสใจ วัดป่าเจริญราช

5. โครงการปฏิบัติธรรมสัญจร

จัดและดำเนินการโดย เจ้าหน้าที่จิตอาสาชมรมกระแสใจ วัดป่าเจริญราช โดยเปิดรับสมัครบุคคลผู้สนใจทั่วไป ให้เข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรมสัญจร ระหว่างวันที่ 9-16 เดือนธันวาคม เป็นประจำทุกปี ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีพระครูปทุมภาวนาจารย์ (หลวงพ่อวีระนนท์ วีรนนฺโท) เจ้าอาวาสวัดป่าเจริญราช เมตตาเป็นที่ปรึกษา และเป็นพระวิปัสสนาจารย์ ให้การฝึกอบรมกรรมฐานแบบเข้มข้น ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่โครงการได้โดยตรงที่ 
คุณบุษรัตน์ มกรแก้วเกยูร โทร.085 1202005,คุณอณิระ โพธินิล โทร.081 6223204,คุณดวงกมล มณีกุล โทร. 089 2053385,คุณธัญฑ์มรรฆศ์ สุนันท์กิ่งเพชร โทร. 081 9841920

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
website : วัดป่าเจริญราช
In Box Facebook : ศิษย์วัดป่าเจริญราช

เรื่องที่เกี่ยวข้อง