สิทธิโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” 8 ธ.ค. 2563 ขยายเวลาถึง 30 เม.ย. 64 และเพิ่มสิทธิห้องพัก 1 ล้านสิทธิ เริ่ม 16 ธ.ค. 63
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
การรับสิทธิ์โครงการ คนละครึ่ง เฟส 2
คืบหน้า 8 ธ.ค. 2563 ขยายเวลาถึง 30 เม.ย. 64 และเพิ่มสิทธิห้องพัก 1 ล้านสิทธิ เริ่ม 16 ธ.ค. 63
ครม.ขยายเวลา เราเที่ยวด้วยกัน ตามที่ประชุม ศบศ. เห็นชอบปรับปรุงโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ขยายเวลาใช้สิทธิออกไปจนถึง 30 เม.ย. 64 จองห้องพักได้ไม่เกิน 15 คืนต่อ 1 สิทธิ มีรายละเอียด คือ
- เดิมจองที่พักได้ไม่เกิน 10 คืน ต่อ 1 สิทธิ เพิ่มเป็น 15 คืนต่อ 1 สิทธิ
- ขยายช่วงเวลาการจองที่พัก จากเวลา 06.00 – 21.00 น. เป็นเวลา 06.00 – 24.00 น.
- เพิ่มจำนวนห้องพักในโครงการจากเดิม 5 ล้านคืน เป็น 6 ล้านคืน เริ่มใช้ 16 ธ.ค. 63
- ขยายระยะเวลาการใช้สิทธิโครงการถึง 30 เมษายน 2564
- เพิ่มโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตฯ แต่มีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี และมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้
- อนุมัติให้ธุรกิจและบริการที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานการท่องเที่ยว สามารถใช้ระบบคูปองออนไลน์ หรือ E-Voucher ได้ ประกอบด้วย
– ธุรกิจการขนส่งภาคท่องเที่ยว
– ธุรกิจสปาหรือนวดเพื่อสุขภาพ - ปรับการสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน จากเดิมรัฐสนับสนุนร้อยละ 40 แต่สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อ 1 สิทธิ เป็นสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อ 1 สิทธิ
** เฉพาะการเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดที่ภาคการท่องเที่ยวพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูง ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ และเชียงราย ** - กำหนดหลักเกณฑ์การลาสำหรับข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และพนักงานรัฐวิสาหกิจ สามารถลาพักร้อนในวันธรรมดาเพิ่มได้ 2 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลาเมื่อใช้สิทธิในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
สิทธิ์ลดค่าที่พัก 40% ในเราเที่ยวด้วยกัน.com ยังเหมือนเดิม
21 ก.ค. 2563 ครม. ปรับ เที่ยววันธรรมดา เพิ่มคูปองให้ 300 บาท รวมเป็น 900 บาท
เที่ยววันธรรมดา ในโครงการ”เราเที่ยวด้วยกัน” รับเงินให้เปล่าเพิ่ม 300 บาท/วัน
21 ก.ค. 2563 ครม.รับทราบมติคณะกรรมการกลั่นกรอง เรื่องการใช้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม เห็นชอบเพิ่มวงเงินในการใช้จ่าย ซื้อของจากร้านค้าจำนวน 600 บาทต่อวัน เป็น 900 บาทต่อวัน หรือ เพิ่มขึ้น 300 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวสิทธิ์ท่องเที่ยวในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ในวันธรรมดา หรือ จันทร์ถึงศุกร์
” น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้มีการเพิ่มวงเงินในการใช้จ่ายโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ในการช่วยค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวจากวันละ 600 บาท เพิ่มเป็น 900 บาท ในกรณีการจองที่พักเพื่อเที่ยวในวันธรรมดาเท่านั้นโดยให้มีผลทันที ส่วนผู้ลงทะเบียนสิทธิท่องเที่ยววันเสาร์-อาทิตย์ยังรับวันละ 600 บาทเช่นเดิม
ในส่วนที่เพิ่มขึ้น 300 บาทนี้ เนื่องจากเดิมตั้งไว้ว่ายอดการจองโรงแรมสูงสุดคือคืนละ 7,000 บาท แต่กลับมียอดการจองโรงแรมราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3,000 บาท ทำให้มีเงินในส่วนนี้เหลืออยู่ จึงนำมาทบให้เป็น 900 บาทสำหรับคนเที่ยววันธรรมดา”
Timeline เราเที่ยวด้วยกัน
ขั้นที่ 1. ลงทะเบียนในเว็บ “เราเที่ยวด้วยกัน.com” ให้เสร็จ
https://people.xn--12c1bik6bbd8ab6hd1b5jc6jta.com/
# รวมโรงแรมที่พักเข้าร่วมโครงการ “เที่ยวปันสุข” หรือ “เราเที่ยวด้วยกัน” รับสวนลด 40%
# เปิดให้เช็ก โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว “เราเที่ยวด้วยกัน” เที่ยวปันสุข
# ขั้นตอนสมัครแอป “เป๋าตัง” วิธีการจองโรงแรม และเช็คอิน เราเที่ยวด้วยกัน
ขั้นตอนที่ 2 นำโค้ดไปกดจองที่พัก “เราไปเที่ยวกัน”
จากนั้นก็ให้นำโค้ดที่ได้มา ไปใช้ในการจองที่พักในเมนู “เราไปเที่ยวกัน” อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมีให้เลือกถึง 5 ล้านคืน(รูมไนท์) โดย 1 คน 1 สิทธิ์ จองได้สูงสุดไม่เกิน 5 ห้องต่อคืน ซึ่งระบบจะเชื่อมเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ของโรงแรมที่ประชาชนต้องการจองห้องพัก
ขั้นตอนที่ 3 จองเสร็จต้องจ่ายทันที 60%
เมื่อจองเสร็จก็จ่ายค่าที่พักให้โรงแรม 60% ของราคาห้องพักต่อคืน โดยชำระด้วยบัตรเครดิต QR Code หรือ พร้อมเพย์ และจากนั้นรัฐบาลสนับสนุนจ่ายค่าห้องพักให้ 40% โอนตรงให้ทางโรงแรม แต่สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน โดยการจองห้องพักต้องจองล่วงหน้า 3 วันก่อนเดินทาง
ขั้นตอนที่ 4 ต่อด้วยจองตั๋วเดินทาง ห้องพัก 1 ห้องจะได้รับสิทธิ์จองตั๋ว 2 ใบ
พอจองที่พักเสร็จแล้ว ถ้าใครจะจองซื้อตั๋วเครื่องบินด้วย ระบบก็จะให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์จองตั๋วเครื่องบินที่เมนู “เที่ยวปันสุข” ได้ต่อเนื่องไปเลย โดยจะสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% เช่นกัน และประชาชนจ่ายเพียง 60% แต่การใช้สิทธิ์ส่วนลดค่าตั๋วเดินทางนั้น จะใช้ในลักษณะที่ให้ประชาชนออกค่าใช้จ่ายไปก่อน แล้วรัฐจะโอนจ่ายคืนให้ในภายหลัง ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่ง
และมีการปรับเพิ่มสิทธิ์ให้เพิ่มเติม คือ แต่เดิมกำหนดไว้ว่าหากประชาชนใช้สิทธิ์ “เราไปเที่ยวกัน” จองห้องพัก 1 ห้อง จะได้รับสิทธิจองตั๋วเครื่องบิน 1ใบ แต่ล่าสุดปรับใหม่เป็นจองห้องพัก 1 ห้องจะได้รับสิทธิ์จองตั๋ว 2 ใบ เพื่อให้เดินท่องเที่ยวได้พร้อมกันเป็นคู่
ขั้นตอนที่ 5 รอรับเงิน 3,000 บาท เข้าแอพฯ “เป๋าตังค์”
หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการจองดังกล่าวแล้ว ในวันที่ออกเดินทางท่องเที่ยวจริง นักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนจองที่พักผ่าน “เราไปเที่ยวกัน” เอาไว้ จะได้รับเงินเที่ยวในลักษณะบัตรกำนัลดิจิทัล หรือ อี-เวาเชอร์ ผ่านแอพฯ “เป๋าตัง” จำนวน 1,200 บาทเพื่อนำไปใช้เป็นค่าอาหาร ค่าใช้บริการในแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดท่่ลงทะเบียน (ซึ่งในแต่ละร้านอาหารและแหล่งท่องเที่ยว ที่ไปใช้บริการ นักท่องเที่ยวจ่าย 60% ของค่าใช้จ่ายจริง รัฐจ่าย 40%)
สถานประกอบการผ่านแอพฯ “ถุงเงิน”
โดยสามารถสแกนบาร์โค้ดชำระเงินให้สถานประกอบการผ่านแอพฯ “ถุงเงิน” ซึ่งสถานประกอบการต่างๆ จะต้องเตรียมพร้อมแอพฯ ถุงเงินไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย และนักท่องเที่ยวสามารถใช้เงินก้อนนี้ได้ตั้งแต่วันที่เช็คอิน ถึงวันที่เช็คเอาท์ เวลา 23.59 น. เท่านั้น หากใช้เงินจำนวนนั้นๆ ไม่หมด จะไม่สามารถนำไปใช้ต่อที่จังหวัดอื่นๆ ได้ (ต้องใช้ในจังหวัดที่ไปเที่ยวเท่านั้น) และระบบจะยึดเงินส่วนที่เหลือกลับคืนทันที
ผู้ใช้สิทธิ์ต้องจ่าย 60% ก่อน และ เงิน 40% รัฐบาลจะจ่ายให้ผู้ประกอบการ ไม่ใช่คืนมาที่ผู้เข้าพัก
ประชาชนที่เข้าร่วมในโครงการ “เราไปเที่ยวกัน” 1 คนจะได้ 1 สิทธิ์ พักโรงแรมได้ไม่เกิน 5 คืน ซึ่งเงื่อนไขที่วางไว้ว่ารัฐบาลจ่ายให้ 40% ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน เท่ากับราคาห้องสูงสุดจะอยู่ที่คืนละ 7,500 บาท ถ้าใช้สิทธิ์เต็ม 5 คืน เท่ากับรัฐบาลจะจ่ายค่าที่พัก 15,000 บาทแทนผู้ใช้สิทธิ์ โดยผู้ใช้สิทธิ์ต้องจ่าย 60% ก่อน เป็นเงิน 22,500 บาท และเงิน 40% จำนวน 15,000 บาท รัฐบาลจะจ่ายให้ผู้ประกอบการ ไม่ใช่คืนมาที่ผู้เข้าพัก
โครงการเราเที่ยวด้วยกัน จำกัดสิทธิ์ที่พัก 5 ล้านห้อง แต่ละคนจองได้ไม่เกิน 5 ห้องต่อคนต่อคืน
- ไปกี่คนก็ได้ที่ห้องพักมี พัก 1 ห้อง เป็นเวลา 5 คืน
- ไปกี่คนก็ได้ พัก 1 ห้อง แต่พักหลายวันหลายที่ พักประจวบคีรีขันธุ์ 1 คืน สมุทรสงคราม 2 คืน เพชรบุรี 2 คืน ก็ทำได้
- ไปกันกี่คนก็ได้ พัก 5 ห้อง พักได้ 1 คืน
วิธีการจองโรงแรมที่พัก เราเที่ยวด้วยกัน 13 ก.ค. 2563 จาก Krungthaicare
ขั้นตอนการสมัครใช้ “เป๋าตัง” หากมีแล้ว แค่ update หรือติดตั้งใหม่ยืนยัน otp ผ่านเลขหมายเดิมและ PIN เข้า App เดิม
รายละเอียดการติดตั้ง App เป๋าตัง
1. เข้าไปที่ Play Store หากคุณใช้สมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการ Android และ App Store หากเครื่องของคุณใช้ระบบปฏิบัติการ iOS
2. โหลดแอป “เป๋าตัง” มีให้ทั้งระบบ IOS และ Android
3. เปิดแอป “เป๋าตัง” ใส่เบอร์มือถือและใส่รหัส OTP ที่ได้จาก SMS
4. อ่านข้อตกลงและเงื่อนไขให้ดี กดยอมรับเงื่อนไขการใช้บริการ แล้วกดตกลง
5. ตั้งรหัสผ่าน 6 หลัก และกดตกลงเพื่อใช้งานแอป “เป๋าตัง” ด้วยระบบสแกนนิ้ว
6. ยืนยันตัวตนผู้ลงทะเบียนด้วยการกด G-Wallet
7. กดยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขเพื่อรับสิทธิ
8. สแกนบัตรประชาชน
9. ใส่ข้อมูลตามบัตรประชาชนและกดยืนยัน
10. ใส่รหัส OTP ที่ได้จาก SMS อีกรอบ
11. ถ่ายรูปหน้าตัวเอง โดยให้รูปหน้าอยู่ในกรอบพอดี รอ SMS ยืนยันและเริ่มใช้งานได้
วิธีง่ายๆ ในการจองโรงแรม ที่พัก เพื่อใช้สิทธิโครงการ มี 2 วิธี
1. จองห้องพักโดยแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิ์ร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน แจ้งเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียน
2. ติดต่อจองโรงแรม ที่พัก ผ่านโทรศัพท์ / เว็บไซต์ของโรงแรม หรือ Online Travel Agency ที่ร่วมโครงการ แจ้งเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียน
3. ได้รับการแจ้งเตือนชำระเงินผ่านแอปฯเป๋าตัง
4. ตรวจสอบข้อมูลและชำระเงิน (ร้อยละ 60) ตามช่องทางที่กำหนด ซึ่งต้องชำระผ่าน G-wallet
ขั้นตอนการจองโรงแรม 2 แบบ
– จองโดยตรงกับโรงแรม
- ติดต่อเพื่อจองที่พักผ่านช่องทางต่างๆ โดยโรงแรมจะเป็นผู้บันทึกข้อมูลเข้าระบบ
- ได้รับ Notification ผ่านทางแอปฯ เป๋าตัง
- รายการ การจองโรงแรมปรากฏบนแอปฯ เป๋าตัง
- ลูกค้าตรวจสอบข้อมูลการจองก่อนชำระเงิน
- ชำระเงินและรับ Voucher เพื่อใช้ check-in บนแอปฯ เป๋าตัง
- จองผ่าน Online Travel Agency (OTA)
– จองผ่าน Online Travel Agency (OTA)
- กรอกข้อมูลการจองผ่านช่องทาง OTA
- ติดตั้งแอป ‘Agoda’ เวอร์ชั่น 8.26.0 2.1 สามารถผ่านStore หรือ สแกน QR 2.2 หรือสามารถเข้าผ่าน https://bit.ly/3jdf7E5 ( โดยต้องจองผ่านแอปเท่านั้น!! )
- ยืนยันใช้สิทธิ์
- เมื่อเข้า ไปที่ Agoda https://bit.ly/3jdf7E5 ให้คลิกรับส่วนลดจากเราไปเที่ยวกัน
- กรอกเลข 4 ตัวท้ายของบัตรประชาชน
- สามารถค้นหาโรงแรมที่เข้าร่วมและจองได้ทันที
- เลือกห้องพัก
- เมื่อเลือกโรงแรมแล้วจะปรากฏราคาของห้องพักต่างๆ ซึ่งราคานี้เป็นราคาสุทธิ หลังจากหักส่วนลดจากโครงการแล้ว
- เมื่อเลือกห้องพักได้ให้กด SELECT จองเลย
- .ยืนยันการใช้สิทธิและชำระเงิน
- ตรวจดูราคาอีกที ราคาที่เห็นเป็นราคาหลังหักส่วนลดจากโครงการแล้ว
- กรอกข้อมูลส่วนตัว ( ชื่อ – สกุล, เลข 4 ตัวท้ายของบัตรประชาชน,อีเมล์,เบอร์โทร,ประเทศไทย)
- เมื่อกรอกข้อมูลถูกต้องจะขึ้นสีเขียว
- เลือกวิธีการชำระเงิน และชำระเงินผ่านช่องทาง OTA
- รับ Voucher เพื่อใช้ check-in บนแอปฯ เป๋าตัง
- จองเสร็จเรียบร้อย ในแอป Agoda : แสดงราคาและส่วนลดจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
- ในแอป เป๋าตัง : ปรากฎสิทธิที่ใช้ และวันเข้าพักสามารถกดเช็คอิน
- แสดง QR ได้รับ 600 บาทในเป๋าตังไว้ใช้จ่ายอีกด้วย
ตัวอย่าง สิทธิค่าห้องพัก 40% ไม่เกิน 3,000 บาท สูงสุด 5 ห้องต่อคืน
ขั้นตอนการจองที่พักผ่าน App Agoda (เท่านั้น) เวอร์ชั่น 8.26.0 ขึ้นไป
1.ต้องโหลด app / อัปเดต Agoda ก่อนนะ
2.กดใช้งาน app Agoda
3.กดคลิกเพื่อใช้สิทธิ์
4 ใส่หมายเลขบัตรปชช. 4 ตัวสุดท้าย
ออ จอง “เราเที่ยวด้วยกัน” ผ่าน agoda ต้องจองเวลา 06.00 – 21.00 น. เท่านั้น
5. คลิกจองเลย เพื่อค้นหาโรงแรม ที่ต้องการ ราคาที่ปรากฎลด 40 % แล้ว
6. ถูกใจคลิกจองจะมีหน้าให้เรากรอกข้อมูล ดังนี้
- ชื่อ – นามสกุล
- หมายเลขบัตรประชาชน 4 หลักสุดท้าย
- อีเมล์
- หมายเลขโทรศัพท์
- ภูมิลำเนาที่อยู่อาศัย
- ข้อมูลของเตียง / ปลอดบุหรี่
7. ยืนยันข้อมูลการเข้าพัก
8. เปลี่ยนวิธีชำระเงินไม่ใช้บัตรเครดิต เป็นโอนผ่านระบบธนาคาร ซึ่งรองรับของกรุงไทย, ไทยพาณิชย์, กสิกร, กรุงศรีอยุธยา, ธนชาติ, Uob และที่ร้านสะดวกซื้อ
9. กดยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข
10. เรื่อยลูกศร ระบบจะไปที่ระบบโอนเงิน
11. เข้าสู่ระบบโอนเงินชำระค่าที่พักเรียบร้อยจะมีการแจ้งการจองสมบูรณ์
11. กลับเข้าไป App เป๋าตัง เพื่อเช็คสิทธิ์และคูปองที่ได้รับ เพื่อนำไปเช็คอิน ณ ที่พัก
ซึ่งบน App จะมีปุ่มให้เช็คอิน // จบเหนื่อยมะ
รีวิวการจองโรงแรมผ่าน Agoda แบบละเอียด
โดยสามารถลงทะเบียนผูก G-wallet แบบต่าง ๆก่อน
5. ระบบส่งคูปองเข้าแอปฯ เป๋าตัง สำหรับนำไป check-in ที่โรงแรม
การเพิ่มบัตรเครดิต-เดบิต ใน app เป๋าตัง
เราเที่ยวด้วยกัน โชว์ขั้นตอนการเพิ่มบัตรเครดิต-เดบิต ในแอปฯ เป๋าตัง เพื่อใช้จ่ายเป็นค่าท่องเที่ยว ค่าอาหารเพียง 60%
วิธีการเพิ่มบัตรเครดิต-เดบิต เพื่อชำระเงินมีขั้นตอน ดังนี้
- เลือกปุ่ม เพิ่มบัตรเครดิต
- เลือกเพิ่มบัตรเครดิต-เดบิต
- กรอกข้อมูลหมายเลขบัตร วันหมดอายุ เลข CVV และชื่อหน้าบัตร
- เข้าสู่ระบบของผู้ให้บริการบัตรเครดิตเพื่อทำรายการเพิ่มบัตรเครดิต
- เพิ่มบัตรสำเร็จ
- ระบบแสดงบัตรที่เพิ่มเข้ามาใหม่
3 ขั้นตอน การเช็คอินโรงแรม พร้อมรับคูปอง 600 บาท
3 ขั้นตอน การเช็คอินโรงแรม พร้อมรับคูปอง 600 บาท ด้วยแอปฯ เป๋าตังสำหรับวิธีการเช็คอินโรงแรม ที่พัก ทำได้ง่ายๆ โดยมีขั้นตอน ดังนี้
ตัวอย่างการใช้คูปองและการจ่ายจริง สูงสุด 5 สิทธิ์
รายละเอียดหลักของการใช้คูปอง
- คูปองนี้จะได้รับในวันที่เช็คอินโรงแรม 1 ห้อง 1 สิทธิ เวลา17:00น. เป็นต้นไป
- การใช้จ่ายจะใช้แอปเป๋าตัง สแกนจ่ายแล้วระบบจะคำนวณเสมือนส่วนลด 40% เหลือ 60%ให้เราจ่าย
- สามารถทยอยใช้ได้เรื่อยๆ จนกว่ายอดส่วนลดจะครบ 600 บาท หรือเทียบเท่าใช้จ่าย1,500.-โดยE-Voucher จะหมดอายุ 23.59 น. ของวันที่เช็กเอาต์
- หาก E-Voucher เหลือ สามารถใช้ระหว่างเดินทางกลับ จนกว่าจะสิ้นสุดวันที่เช็กเอาต์ ขอเพียงอย่าใช้ในภูมิลำเนาของตัวเอง
- ดูร้านค้าที่เข้าร่วมได้ที่ : https://search-merchant.เราเที่ยวด้วยกัน.com/
สิทธิรับคูปอง
- เมื่อถึงโรงแรมให้เปิดแอป เป๋าตัง
- ไปที่รายการเช็คอิน
- คลิกเปิดคิวอาร์โค้ด ให้โรงแรมใช้แอปฯ ถุงเงินมาสแกน ก็จะเช็กอินสำเร็จ
- จะได้รับ E-Voucher 600 บาท/คืน ในเวลา 17.00 น. ของทุกวัน
รายละเอียดคูปองอาหาร
- เมื่อจะใช้ “คลิกคูปอง”
- จำนวน E-Voucher 600 บาท
- กดใช้ที่ร้านค้าหรือสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น
ตัวอย่าง เช่น ใช้ 1,200 บาท E-Voucher รัฐจะออก40% =480 บาท เราจ่ายจริง 720 บาท โดยไม่จำเป็นต้องใช้ทีเดียว สามารถสะสมวันถัดไปได้ ทยอยใช้ได้
โดย E-Voucher จะหมดอายุ 23.59 น. ของวันที่เช็กเอาต์ - ยอดเงินที่เหลือสามารถใช้ G-Wallet หรือผูกบัตรเครดิตก็ได้
- ยืนยันรายการ
- ใส่ pin
- รายการสำเร็จ
ขั้นตอน Check in ด้วยแอปฯ เป๋าตังเพื่อรับคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว
- เข้าสู่เมนู เราเที่ยวด้วยกัน เพื่อเช็กอินโรงแรมที่จองไว้
- กด เช็กอิน เพื่อรับคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว
- แสดง QR ให้ โรงแรมใช้แอปฯ ถุงเงิน สแกนเพื่อเช็กอิน
- ได้รับคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว เข้าระบบ
ขั้นตอนการใช้คูปองอาหาร/ท่องเที่ยว
- กดปุ่มใช้คูปองอาหาร/ท่องเที่ยว
- กดปุ่มสแกน QR เพื่อใช้คูปอง
- สแกน QR ร้านค้า ถุงเงิน
- แสดงยอดเงินที่ต้องชำระ โดยคำนวณสัดส่วน Co-Payment 60:40
- เลือกช่องทางชำระเงินได้ทั้ง G-Wallet หรือ บัตรเครดิต/เดบิต (รองรับบัตรเครดิต VISA MasterCard JCB และ Local Debit Card ในประเทศ)
- ยืนยันการชำระเงิน
- ใส่รหัส PIN 6 หลัก
- ทำรายการสำเร็จและบันทึก Slip
- **คูปองอาหาร/ท่องเที่ยว จะใช้ได้ถึงสิ้นวันที่ Check out (เวลา 23.59 น.) เท่านั้น **
ช่องทางการเติมเงินเข้ากระเป๋า G-Wallet เพื่อชำระค่าโรงแรม
การจองตั๋วเครื่องบิน
- ต้องจองโรงแรมที่พักผ่าน App ก่อน ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
- ประชาชนที่เข้ามากรอกข้อมูลเพื่อรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินจะต้องเป็นผู้ที่จองโรงแรมผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกันเท่านั้น
- โดยมีสิทธิในการได้รับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 2 สิทธิผู้โดยสาร ต่อ 1 ห้องโรงแรมที่จอง (แต่ไม่เกิน 10 สิทธิผู้โดยสารต่อประชาชน)
- ทั้งนี้ เงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเท่ากับ 40% ของราคาค่าตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 1,000 บาท ต่อผู้โดยสาร
ตัวอย่างการใช้สิทธิ์ รับเงินคืน 40 % จากค่าตั๋ว ไม่เกิน 1,000 บาทต่อ 1 ที่นั่ง จำกัดห้องพักละ 2 ที่นั่ง สูงสุด 10 สิทธิ์
- ต้องจ่ายเงินค่าตั๋วเต็มจำนวนไปก่อน ณ ตอนจองตั๋วเครื่องบิน
- ต้องมีการเดินทางในเที่ยวบินนั้นจริง รวมถึง check-in และ check-out ที่โรงแรมที่จองไว้กับโครงการจริง
- ตั๋วเครื่องบินเป็นประเภทไปหรือกลับ หรือทั้งไปและกลับจากจังหวัดที่อยู่ภาคเดียวกันจังหวัดที่จองโรงแรม
- กรณีขึ้นลงคนละจังหวัดก็สามารถทำได้ กับเป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคเดียวกันกับจังหวัดที่จองโรงแรม
- วันที่เดินทางไปหรือกลับ ต้องไม่ห่างจากวัน check-in หรือ check-out โรงแรมที่จองผ่านโครงการไม่เกิน 5 วัน
- หลังเช็กเอาต์ จะมีปุ่ม “ลงทะเบียนรับค่าคืนตั๋ว” คนที่เดินทางไปพักโรงแรมต่าง ๆ ให้กรอกข้อมูล ชื่อสกุล เลขการจองตั๋ว (Booking No.)
- การเดินทางกลับจากการท่องเที่ยวจะต้องอยู่ภายใน 31 ตุลาคม 2563
- โอนคืนวันที่ 15 และ 30 ของเดือน
คำถาม – ตอบการใช้ app เป๋าตัง
กรณีที่มีแอปฯ เป๋าตังอยู่แล้ว ต้องทำการลงทะเบียนใหม่หรือไม่
ประชาชนที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ ต้องลงทะเบียนรับสิทธิที่ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ก่อน จึงจะสามารถใช้สิทธิบนแอปฯเป๋าตังได้
กรณีที่เดิมเคยใช้แอปฯเป๋าตัง แต่ปัจจุบันไม่ใช้่โทรศัพท์เบอร์เดิม แล้วจะใช้งานแอปเป๋าตังได้อย่างไร
- สามารถเข้าใช้งานด้วยการผูกบัญชีกรุงไทย
- สามารถเข้าใช้งาน G-wallet ด้วยการรับรหัส OTP จากเบอร์ที่ลงทะเบียนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อยืนยันตัวตน
- ติดต่อเบอร์ 02-111-1144 หรือสาขาธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ
เมื่อจองโรงแรมเรียบร้อยแล้ว จะทราบอย่างไรว่าได้รับการยืนยันจากโรงแรม
สามารถตรวจสอบผลยืนยันการจองโรงแรมที่แอปฯเป๋าตัง จากการแจ้งเตือนบนแอปฯ ซึ่งประชาชนสามารถทำการตรวจสอบรายละเอียดส่วนลดจากสิทธิที่ได้รับ และชำระเงินได้ที่ Payment Link บนแอปฯ
จะทราบได้อย่างไรว่า E – Voucher ที่จองสามารถใช้งานได้วันไหน
สามารถทราบได้หลังจากที่ประชาชนชำระเงินส่วน 60% ที่จองโรงแรมสำเร็จ และตรวจสอบ E-voucher บนแอปฯเป๋าตัง ที่เมนู G-wallet
ประชาชนจะได้รับบัตรกำนัล ส่วนลดค่าอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวอย่างไร
ประชาชน ต้องทำการจองโรงแรมพร้อมชำระเงินส่วน 60% สำเร็จ และเดินทางไปเข้าพักที่โรงแรม เมื่อทำการเช็คอิน ที่พักเรียบร้อย ระบบจะแสดงคูปองส่วนลดอาหาร/ท่องเที่ยว บนแอปฯเป๋าตังให้ใช้งานเวลา 17.00น. ในวันเช็คอิน
คูปองอาหารมีวันหมดอายุหรือไม่
คูปองส่วนลดค่าอาหาร/สถานที่ท่องเที่ยว จะมีอายุการใช้งานถึงวันเช็คเอ้าท์ก่อนเที่ยงคืน
E – Voucher โรงแรมที่ได้รับ สามารถเปลี่ยนแปลงวันเข้าพัก หรือยกเลิกได้หรือไม่
ผู้ที่ได้รับสิทธิส่วนลดโรงแรมเรียบร้อยแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงวันเข้าพัก หรือ ยกเลิกการจองได้
หลังจากที่โรงแรมส่ง PayMent Like เพื่อยืนยันการจอง ประชาชนต้องเข้าไปชำระเงินภายในกี่วัน
ประชาชนที่ได้รับ Payment Link บนแอปฯเป๋าตัง สามารถชำระเงินเพื่อยืนยันการจองได้ภายในวันถัดไป (T+1)
E – Voucher ที่ได้รับจากโรงแรม จะหมดอายุวันไหน
ส่วนลดค่าโรงแรมจะหมดอายุ ตามวันที่จองที่พัก
ผู้ประกอบการสนใจลงทะเบียน
สำหรับประเภทกิจการที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ คือ
- โรงแรม ที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรม
- ร้านอาหาร
- สถานที่ท่องเที่ยวตามรายชื่อจาก ททท.
โดยผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการจะต้อง
- มีบัญชีธนาคารกรุงไทย
- สมัครใช้บริการแอปพลิเคชันถุงเงิน
- สมัครใช้บริการระบบชำระเงินออนไลน์ (Payment Service Provider) หรือผู้ให้บริการ Online Travel Agency กับผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ เฉพาะผู้ประกอบการโรงแรม/ที่พัก เท่านั้น
- ลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการที่ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
ซึ่งผู้ประกอบการที่ลงทะเบียน เข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซด์ ต้องเป็นเจ้าของกิจการ หรือผู้ได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของกิจการ ให้ทำการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ โดยยืนยันตัวตนด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือผ่านรหัส OTP ที่ทำการลงทะเบียน
- Online Travel Agency (OTA) ได้แก่ Agoda, Traveloka
- Website โรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ (ถ้ามี)
- www.เราเที่ยวด้วยกัน.com โดยไปที่ค้นหากิจการโรงแรม
- ช่องทางติดต่ออื่นๆ ที่โรงแรมมี เช่น Line, Facebook, เบอร์โทรศัพท์
# Linkแนะนำ ยกให้ “เขา” ทั้งใจ รีวิวที่พักวิวเขา” โดนใจ “เราเที่ยวด้วยกัน”
# Link แนะนำ ถ้าใจไม่เซก็เดินลงทะเลได้ซิลๆ เราเที่ยวด่วยกัน
จบเนื้อหา เที่ยวปันสุข
ขั้นตอนการลงทะเบียนรับสิทธิ์เป๋าตังค์เดิม
– ติดตั้ง app และการยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิ์
เพจ Krungthai Care ตอบทุกปัญหาคาใจ ลงทะเบียน “เป๋าตัง”
ลงทะเบียนผิดทำไง, สมัครใหม่-เปลี่ยนจังหวัดได้ไหม, ตั้งแต่ไม่รับ SMS ยืนยัน, โทรศัพท์โหลด App ‘เป๋าตัง’ ไม่ได้, สแกน QR Code แล้วไม่ขึ้นรายการ,สแกนหน้าไม่ผ่าน, ยอดเงินไม่ขึ้น, ร้านค้าหักเงินไม่ได้
เฟซบุ๊กบัญชีชื่อ Krungthai Care โดยธนาคารกรุงไทย สรุปประเด็นคำถามที่พบบ่อยและคำแนะนำเบื้องต้น การลงทะเบียนรับสิทธิ์ ‘ชิมช้อปใช้’
หมายเลขติดต่อ Callcenter ชิมช่อปใช้
ชิมช้อปใช้ call center 02-111-1144 เพื่อตรวจสอบการลงทะเบียนนะคะ วิธีติดต่อชิมช้อปใช้ call center 02-111-1144 เพื่อคุยกับเจ้าหน้าที่ สามารถทำตามขั้นตอนดังนี้นะคะ กด 2 เพื่อเข้าโครงการ ชิมช้อปใช้ / กด1 ข้อมูลสำหรับประชาชน / กด หมายเลขบัตรประชาชนตามด้วยเครื่องหมาย # / กด 1 ขั้นการยืนยันสิทธิ์ในแอปเป๋าตัง / กด0 เพื่อติดต่อพนักงาน
##รายชื่อสาขาธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ เปิดให้ยืนยันตัวตน วันที่ 2-3 พ.ย. นี้ ##
• ชิมช้อปใช้ 2 ลงทะเบียนมาครบ 3 วันยังไม่ได้รับ sms เพราะอะไร
ตอบ :กรณีที่ไม่ได้รับ SMS ในวันที่ 27 ตุลาคม เนื่องจากระบบจะนำ 3 วันทำการ ไม่รวม เสาร์และอาทิตย์ นั่นหมายความว่า หากลงทะเบียน “ชิมช้อปใช้ เฟส2” วันที่ 24 ต.ค. จะได้รับ SMS แจ้งยืนยันสิทธิ์ในวันที่ 29 ต.ค. และเริ่มใช้สิทธิ์วันแรกคือ 30 ต.ค.62
ทั้งนี้ หากไม่ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ชิมช้อปใช้ ธนาคารกรุงไทย โทร 0 2111 1144 กด 2 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถตตรวจสอบสถานะได้หลังจากลงทะเบียนอย่างน้อย 1 วัน
• ชิมช้อปใช้ 2 ต้อง Up เวอร์ชั่น App เป๋าตัง เป็น 7.12.0 เพิ่มเมนู ต่อที่ 2 รับเงินคืน 20%
หลายคนไม่ได้ Update เวอร์ชั่น App เป๋าตัง หากใช้เงินกระเป๋า 2 เกิน 30,000 บาท จึงไม่เห็นยอดเงิน 20% คืนเข้าระบบ จึงจำเป็นต้อง Update เวอร์ชั่น App เป๋าตัง เป็นเวอร์ชั่น 7.12.0 ก่อน จะมีเมนูคืน 20 % ขึ้นมาตามรูป
ปัญหาการลงทะเบียนผ่านเว็บ www.ชิมช้อบใช้.com
• เคยลงทะเบียนชิมช้อปใช้ เฟส 1 และได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์เรียบร้อย แต่สแกนหน้าไม่ผ่าน จึงปล่อยทิ้งไว้ไม่ดำเนินการใดๆ ต่อ สามารถลงทะเบียนชิมช้อปใช้เฟส 2 ซ้ำได้หรือไม่?
คำตอบ : หากสแกนหน้าไม่ผ่าน สิทธิ์จะมีอายุ 14 วันนับถัดจากวันที่ได้รับ SMS/ email แจ้งผลยืนยันการได้รับสิทธิ์ หากคุณไม่เข้ายืนยันตัวตนในแอปฯ เป๋าตังและใช้สิทธิ์ครั้งแรกภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถูกตัดสิทธิ์ และไม่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ เฟส 2 ได้
• ลงทะเบียนชิมช้อปใช้แล้ว แต่มี sms ตอบกลับมาว่า ข้อมูลไม่ตรงกับบัตร แต่ก่อนหน้านี้ในเมล์บอกว่าลงเบียนสำคัฯ
ประเด็นนี้ ถือว่าลงทะเบียนไม่ผ่าน ต้องรอลงทะเบียนใหม่ หรือต้องทำใจ
• รอคิวนานตอนลงทะเบียน ต้องทำอย่างไร ?
เมื่อกดปุ่มลงทะเบียนไปแล้ว ปรากฏข้อความว่า “ขณะนี้คุณอยู่ระหว่างการรอคิวเพื่อลงทะเบียน กรุณากดปุ่มลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง”
ให้เรากลับไปกดปุ่ม “ลงทะเบียน” ซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเข้าหน้าอ่าน “ข้อความตกลงยินยอม” เพื่ออ่านเงื่อนไขรายละเอียด หรือลองเข้าจากลิงก์ regist.ชิมช้อปใช้.com
• เลือกจังหวัดตามทะเบียนบ้านไปแล้ว จะแก้ไขได้ไหม ?
เงื่อนไขสำคัญของชิมช้อปใช้คือ ต้องกรอกที่อยู่ไม่ซ้ำกับทะเบียนบ้าน แต่หลายคนไม่รู้หรือเผลอกรอกจังหวัดตามทะเบียนบ้านของตัวเองไปแล้ว กรณีนี้จะมี SMS แจ้งว่าลงทะเบียนไม่ผ่านภายใน 3 วัน เมื่อได้รับ SMS แล้ว สามารถลงทะเบียนใหม่ได้
• ลงทะเบียนไปแล้ว เปลี่ยนจังหวัดที่ลงทะเบียนได้ไหม ?
เช่น กรอกข้อมูลลงทะเบียนจังหวัดเชียงใหม่ไปแล้ว แต่เกิดเปลี่ยนใจจะไปเที่ยวเชียงรายแทน กรณีนี้ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้ และไม่สามารถลงทะเบียนใหม่ได้ด้วย ต้องนำเงินไปใช้ที่เชียงใหม่เท่านั้นค่ะ
• ใช้อีเมลซ้ำกันลงทะเบียนได้ไหม ?
กรณีอยากลงทะเบียนให้คนที่บ้านหรือคนรู้จักด้วย แต่เขาไม่มีอีเมล เราสามารถใช้อีเมลซ้ำกันได้ ไม่มีปัญหา
• ใช้เบอร์โทรศัพท์ซ้ำกันได้ไหม ?
1 เบอร์โทรศัพท์ ใช้ได้เพียง 1 สิทธิ์เท่านั้น หากพบว่าเบอร์นั้นลงทะเบียนไปแล้ว จะไม่สามารถลงทะเบียนซ้ำได้อีก ยกเว้น นำเบอร์โทรศัพท์กับบัตรประชาชนไปติดต่อธนาคารเพื่อยืนยันตัวตน
ส่วนจะใช้เครื่องที่เคยลง app แล้ว ลงให้อีกคน ต้องไปติดต่อยืนยันตัวที่ธนาคารโดยนำโทรศัพท์กับบัตรประจำประชาชนไปติดต่อ จนท.จะถามว่าลงจังหวัดไหน
• สำหรับผู้ที่ต้องการลงทะเบียนชิมช้อปใช้ แต่ไม่มีวันเดือนเกิด หรือมีแต่ พ.ศ.เกิด สามารถลงทะเบียนชิมช้อปใช้ได้หรือไม่?
คำตอบ : สามารถลงทะเบียนได้ โดยเลือกช่องไม่ทราบวันเกิด และระบบจะให้ใส่ข้อมูลเพียงปี พ.ศ.
• สำหรับผู้ที่พยายามลงทะเบียนชิมช้อปใช้เฟส 2 ไปจนถึงขั้นตอน ใส่รหัส OTP แต่เมื่อใส่รหัสไปแล้ว ไม่สามารถกดยืนยัน (ค้าง) จนหน้าเว็บไซต์ขึ้นว่า “ดำเนินการไม่สำเร็จ หมายเลขบัตรประชาชน หรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ได้ถูกลงทะเบียนแล้ว” ทั้งๆ ที่ไม่เคยลงทะเบียนเฟส 1 มาก่อน ต้องแก้ไขอย่างไร
คำตอบ : ขอแนะนำคุณติดต่อ ชิมช้อปใช้ call center 02-111-1144 เพื่อตรวจสอบการลงทะเบียน โดยวิธีติดต่อชิมช้อปใช้ call center 02-111-1144 เพื่อคุยกับเจ้าหน้าที่ สามารถทำตามขั้นตอนดังนี้ กด 2 เพื่อเข้าโครงการ ชิมช้อปใช้ / กด 1 ข้อมูลสำหรับประชาชน / กด หมายเลขบัตรประชาชนตามด้วยเครื่องหมาย # / กด 1 ขั้นการยืนยันสิทธิ์ในแอปเป๋าตัง / กด 0 เพื่อติดต่อพนักงาน
• ลงทะเบียนสำเร็จแล้ว แต่ไม่ได้อีเมลยืนยัน ?
กรณีระบบขึ้นข้อความว่า “ได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านเรียบร้อยแล้ว” พร้อมเครื่องหมายถูกสีเขียว แสดงว่าเราลงทะเบียนสำเร็จแล้ว หากไม่ได้รับอีเมลก็ไม่ต้องกังวล สามารถรอรับ SMS เพื่อยืนยันสิทธิ์ภายใน 3 วันได้เลย
แต่หากยังไม่ได้รับ SMS ภายใน 3 วัน สามารถโทร. สอบถามได้ที่ ชิมช้อปใช้ Call Center เบอร์ 02-111-1144
• ลงทะเบียนไปแล้ว เพิ่งรู้ว่าใส่ข้อมูลไม่ถูกต้อง จะสามารถแก้ไขได้หรือไม่ ?
ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลหลังจากลงทะเบียนได้ แต่สามารถเข้ามาลงทะเบียนใหม่ทางเว็บไซต์ หลังจากที่ได้รับ SMS แจ้งยืนยันผลการลงทะเบียนไม่สำเร็จ
• ขึ้นข้อความ ดำเนินการไม่สำเร็จ หมายเลขบัตรประชาชนหรือหมายเลขมือถือ ได้ถูกลงทะเบียนไปแล้ว
หากได้รับ อีเมล์แจ้ง ว่า ลงทะเบียนผ่าน ถือว่า ลงทะเบียนผ่าน ซึ่งบางคนใช่หมายเลข OTP 6 หลัก แล้วค้างที่ตอน กดยืนยัน ไปแล้ว แต่มี เมล์แจ้งว่าลงทะเบียนผ่าน ก็ถือว่า ลงทะเบียนผ่าน ทั้ง 2 กรณี รอเพียง SMS ยืนยันการใช้สิทธิ์ผ่าน App เป๋าตังต์
• หากได้รับข้อความว่า “ลงทะเบียนชิมช้อปใช้ไม่สำเร็จ เนื่องจากข้อมูลตามบัตรประชาชนไม่ถูกต้อง” ทั้งๆ ที่กรอกข้อมูลถูกต้องครบถ้วน ต้องแก้อย่างไร?
คำตอบ : หากขึ้นข้อความข้างต้น คุณต้องนำบัตรประชาชนตัวจริง ติดต่อที่สาขา ได้ทุกสาขา เพื่อแก้ไขข้อมูลที่ถูกต้อง
• ลงทะเบียนไปแล้ว ไม่ได้รับ SMS ยืนยันกลับมา
ผู้ที่ลงทะเบียนได้แล้ว ต้องรอรับ SMS หรืออีเมลแจ้งผลการลงทะเบียนรับสิทธิภายใน 3 วันทำการ ไม่นับวันหยุด
หากการลงทะเบียนไม่ได้รับ SMS ภายใน 3 วัน สามารถโทรเข้ามาสอบถามได้ที่ ชิมช้อปใช้ Call Center เบอร์ 02-111-1144
เช่น ลงทะเบียนวันที่ 23 กันยายน จะต้องได้รับ SMS ภายในวันที่ 26-27 กันยายน หากไม่ได้รับ SMS อาจเป็นเพราะลงทะเบียนไม่สำเร็จ จะต้องลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง
• วิธีตรวจสอบว่าลงทะเบียนผ่านไหม ?
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลที่ Call center ชิมช้อปใช้ ธนาคารกรุงไทย โทร. 0 2111 1144 กด 2 ตลอด 24 ชั่วโมง (สามารถตรวจสอบสถานะได้หลังจากลงทะเบียนอย่างน้อย 1 วัน)
• ลงทะเบียนสำเร็จแล้ว ต้องใช้สิทธิ์เมื่อไร ?
หลังจากลงทะเบียนสำเร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูล และส่ง SMS ยืนยันการใช้สิทธิ์ให้ภายใน 3 วัน เมื่อได้รับ SMS แจ้งว่าลงทะเบียนสำเร็จ ให้ใช้สิทธิ์ได้ที่จังหวัดไหน ภายในวันที่เท่าไร เราต้องยืนยันตัวตนที่แอปฯ เป๋าตัง เพื่อเริ่มใช้สิทธิ์ทันที ภายใน 14 วันหลังได้รับ SMS
• ถ้าไม่ได้ใช้สิทธิ์ภายใน 14 วัน ?
หากได้รับสิทธิ์แล้ว แต่ไม่ได้นำไปใช้ซื้อสินค้าหรือบริการในจังหวัดที่ลงทะเบียนไว้ครั้งแรกภายใน 14 วัน เงินจะถูกดึงคืนกลับมาที่รัฐ เพื่อโอนสิทธิ์ไปให้ผู้อื่นใช้จ่ายต่อไป และไม่สามารถสมัครลงทะเบียนได้อีก
• หลังจากการ Submit ไปแล้ว ตรวจสอบพบว่าใส่ข้อมูลไม่ถูกต้อง จะสามารถแก้ไขได้หรือไม่
ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลหลังจากลงทะเบียนได้ แต่สามารถเข้ามาลงทะเบียนใหม่ทางเว็บไซต์ หลังจากที่ได้รับ SMS แจ้งยืนยันผลการลงทะเบียนไม่สำเร็จ
• หากลงทะเบียนสำเร็จและได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้ว จะขอเปลี่ยนแปลงจังหวัดที่จะใช้สิทธิภายหลังได้หรือไม่
ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เงินที่ได้รับตามสิทธิ 1,000 บาท จะต้องใช้ภายในจังหวัดที่เลือกตอนลงทะเบียนทางเว็บไซต์เท่านั้น และหากไม่ใช้ครั้งแรกภายใน 14 วัน ระบบจะตัดเงินทันที
• สามารถตรวจสอบว่าลงทะเบียน “ชิมช้อปใช้” สำเร็จหรือไม่ ได้จากช่องทางใด
สามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนได้จากช่องทางดังต่อไปนี้
1. Website ชิมช้อปใช้ เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ จะระบุว่า “ระบบได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านเรียบร้อยแล้ว โปรดรอการแจ้งยืนยันผลการได้รับสิทธิ์ตามมาตรการฯ ทาง SMS และ Email ที่ลงทะเบียนไว้ ภายใน 3 วันทำการ”
2. E-Mail ที่ระบุไว้ตอนลงทะเบียน
3. ชิมช้อปใช้ Call Center: 02-111-1144 (สามารถตรวจสอบสถานะได้หลังจากลงทะเบียนอย่างน้อย 1 วัน)
• หลังจากลงทะเบียน และผูก G-Wallet ในแอปฯ เป๋าตัง สำเร็จ จะต้องใช้สิทธิ์เงิน 1,000 บาท ภายใน 14 วันใช่หรือไม่
หากมีการใช้จ่ายสิทธิ์ 1,000 บาท ไปบางส่วน ภายในระยะเวลา 14 วัน ท่านสามารถใช้จ่ายเงินที่เหลือ ต่อได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2562
• คำถามยอดฮิต ใช้แอป โคลนนิ่ง ได้มั้ย
เวอร์ชั่นแรกๆ ใช้ได้ แต่หลังได้ Update เวอร์ชั่นใหม่ ใช้แอปโคลนไม่ได้ เพื่อความปลอด เนื่องจากทางธนาคารต้องการป้องกันข้อมูลลูกค้า และ แอปเป๋าตัง เป็นธุรกรรมทางการเงิน การป้องกันข้อมูลลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
คำถามเรื่องการลงทะเบียนแอปฯ เป๋าตัง
• ดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตังมาแล้วลงทะเบียนอย่างไร ?
# วิธีลงทะเบียนยืนยันตนผ่าน App ชิมช้อปใช้
1. เปิดแอปฯ เป๋าตัง ใส่เบอร์โทรศัพท์มือถือ รอรับรหัส OTP ที่จะได้รับจาก SMS แล้วกรอกหมายเลขรหัส OTP
2. อ่านข้อกำหนด กดเลือก “ยอมรับเงื่อนไขการใช้บริการ” แล้วกด “ตกลง”
3. ตั้งรหัสผ่านในการใช้แอปฯ
4. กดเลือก “G-Wallet” เพื่อลงทะเบียนมาตรการชิมช้อปใช้
5. ยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข
6. สแกนบัตรประจำตัวประชาชน
7. เมื่อสแกนบัตรสำเร็จ ให้กรอกข้อมูลตามบัตรประชาชน
8. หากได้รับสิทธิ์จะได้รับรหัส OTP ผ่าน SMS ให้นำรหัส OTP กรอกในแอปฯ
9. ถ่ายรูป Selfie ใบหน้าตนเอง เพื่อเทียบกับภาพในบัตรประชาชน
10. รอรับ SMS ยืนยันการตรวจสอบตัวตน (ได้รับ SMS ภายใน 24 ชั่วโมง)
11. หากได้รับสิทธิ์แล้ว เงินในกระเป๋า 0 บาท จะเปลี่ยนเป็น 1,000 บาท และสามารถใช้งานได้ทันที
• ไม่สามารถเข้าไปลงทะเบียนในแอปฯ เป๋าตังได้
ผู้ที่มีสิทธิลงทะเบียนในแอปฯ เป๋าตังได้ นั้น จะต้องได้รับ SMS หรืออีเมลแจ้งผลการลงทะเบียนรับสิทธิภายใน 3 วันทำการ จากนั้น Download แอปฯ เป๋าตัง เพื่อลงทะเบียน และใช้สิทธิผ่าน G-Wallet สามารถดูวิธีการลงทะเบียนได้จาก Link: https://www.youtube.com/watch?v=ZkniwQLv_Xk หรือ ไปที่นี้ # วิธีลงทะเบียนยืนยันตนผ่าน App ชิมช้อปใช้
แต่ หากยังไม่ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์ จะไม่สามารถลงทะเบียนแอปฯ เป๋าตัง ได้
• ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้ว เมื่อเข้าแอปฯ เป๋าตัง ระบบขึ้นข้อความว่า “ขออภัยค่ะ ระบบปลายทางไม่สามารถทำรายการได้ในขณะนี้ กรุณาทำรายการใหม่อีกครั้ง [9999]” หรือ ไม่สามารถทำรายการได้ในขณะนี้ กรุณาลองใหม่อีกครั้ง ต้องแก้ไขอย่างไร?
คำตอบ: เนื่องจากมีจำนวนผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก แนะนำให้เข้าระบบ และทำรายการใหม่อีกครั้ง หรือเปิดปิดเครื่องใช้แอปอีกกครั้ง หรือทดลองลบ App ทิ้งและติดตั้งใหม่
กรณีใส่รหัส PIN เกินจำนวนครั้งที่กำหนด ขึ้นรูป 1,2
ให้นำโทรศัพท์แบะบัตรประชาชนไปติดต่อยืนยันที่ธนาคาร และรอ 1 วัน ใช้ app ได้
• คลิกลืมรหัส PIN พยายามสแกนบัตรใหม่-แจ้งว่า : [TC002] ขออภัยค่ะ ท่านสามารถเพิ่มบัญชี หรือบัตรที่มีเจ้าของเป็นบุคคลเดียวกันเท่านั้นค่ะ
แก้ไขโดย เบอร์โทรอาจมีการลงทะเบียนหรือมีการผูกบัญชีไปแล้ว หาเบอร์โทรที่ยังไม่ได้ใช้ลงทะเบียน จากนั้นสแกนบัตร แล้วกรอกข้อมูล แล้วยืนยัน OTP และยืนยันตัวตนให้เสร็จ เข้าใช้ App เป๋าตังค์
• เมื่อสแกนและลงข้อมูลในบัตรประจำตัว ขึ้นท่านกรอกข้อมูลไม่ถูกต้อง เกิน 3 ครั้ง กรุณารอ 5 นาที ก่อนทำรายการใหม่อีกครั้ง [Cl188]
รอ 5 นาที ให้เริ่มสแกนบัตร กรอกข้อมูล พยายามกรอกข้อมูลให้ถูกต้องตามบัตร หากไม่ได้ลงหลายครั้งแล้วไม่ได้จริง ให้ติดต่อธนาคารเพื่อตรวจสอบ
• ใส่ PIN ผิดเกินกำหนด (TCOO4)
นำโทรศัพท์มือถือและบัตรประจำตัวประชาชน ติดต่อธนาคาร เพื่อตั้ง PIN ใหม่ เข้า app เป๋าตัง
• กรอกข้อมูลบัตรลงทะเบียน App ขึ้น “ท่านระบุข้อมูลไม่ถูกต้องเกิน 5 ครั้ง ..” UL001
หากขึ้นข้อความนี้ให้นำโทรศัพท์มือถือและบัตรประจำตัวประชาชนไปติดต่อธนาคาร
• หากไปธนาคารเพื่อยืนยันตัวตนแล้ว ควรทำอย่างไรต่อไป
เมื่อยืนยันตัวที่ธนาคารแล้ว วันรุ่งขึ้นหลังเวลาท 08.00 หรือ 13.00 น. เข้า App เป๋าตังอีกครั้ง
– สแกนบัตรประจำตัวประชาชนและกรอกข้อมูล
– กรอกรหัส OTP ที่ส่งเข้าไปยังเบอร์ที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์
– ระบบจะข้ามขั้นตอนการยืนยันใบหน้า
– ระบบจะเข้าหน้าใช้สิทธิ์ชิมช้อปใช้
• Sms ยังไม่ส่งมา ลองลง App ขึ้นข้อความท่านยังไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้ เนื่องจากระบบอยู่ระหว่างการตรวจสอบยืนยันข้อมูล
หากท่านลง app ใดยยังไม่ได้รับ sms ลงทะเบียนชิมช้อปใช้ สำหรับที่ จ. …….โปรดยืนยันตนผ่านแอปฯเป๋าตังทันที” ยังไม่ต้องเข้า App เป๋าตังเพื่อยืนยันตัวต้น
รอ sms หน้าตาแบบนี้ก่อนยืนยันตัวตนใน app หาก sms ไม่มาให้โทรตรวจสอบสิทธิ์ Callcenter
ไปยืนยันกับธนาคารมาเเล้ว แต่แอปที่โหลดกับซิมที่ลงทะเบียน อยู่คนละเครื่อง จะสามารถใช้ได้มั้ย
1. หากเครื่องนั้นไม่เคยลงทะเบียนใช้สิทธิ์มาแล้ว สามารถนำมาลงทะเบียนได้ หากเคยลงทะเบียนมาแล้วนำมาลงใหม่ไม่ได้
2. หากผ่านข้อ 1. แต่การลงทะเบียนเครื่องที่มีคนละซิม ระบบตอบรับยืนยัน otp จะส่งข้อความ 6 otp 6 หลักไปที่โทรศัพท์เลขหมายที่ลงทะเบียนไว้และนำมายืนยันในเครื่อง
3. หากยืนยัน OTP ได้ ก็สามารถลงทะเบียนใช้ได้เพราะระบบจะข้ามการสแกนหน้าไป
4. เงินจะเข้าระบบวันรุ่งขึ้นนะ
• ใช้โทรศัพท์เครื่องเดียวกัน ลงทะเบียนให้คนที่บ้านด้วยได้ไหม ?
กรณีมีสมาร์ตโฟนเพียง 1 เครื่อง แต่ต้องการลงทะเบียนให้คนในบ้านหลายคน จะไม่สามารถทำได้ เพราะการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” จำกัดการใช้สิทธิ 1 เครื่องต่อ 1 หมายเลขโทรศัพท์
ดังนั้นหากมีสมาร์ทโฟน 1 เครื่อง จะลงทะเบียนได้เพียง 1 คนเท่านั้น ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเครื่อง หรือลบแอปฯ แล้วติดตั้งใหม่ สิทธิ์ 1,000 บาท ที่เคยได้รับจะหายไปทันที และไม่สามารถสมัครลงทะเบียนเบอร์ใหม่ได้ด้วย จะขึ้นข้อความตามภาพ หากต้องการลงสิทธิ์ใหม่ในเครื่องนี้ ไม่สามารถทำได้ 1 เครื่อง 1 สิทธิ์เท่านั้น
แม้เครื่องเดิมเคยใช้สิทธิ์ชิมช้อปใช้ เฟส 1 ทำการลบแอป ลบแคช ก็ไม่สามารถนำมาผูกกระเป๋าเงินเฟส 2 ได้
• ยังไม่ได้รับเงินจำนวน 1,000 บาท ทั้งที่ยืนยันตัวตนผ่านทุกขั้นตอนแล้ว ?
ให้กดเลือกที่ช่อง “ใช้สิทธิ์ซื้อสินค้า 1,000 บาท” ว่าสามารถใช้ได้หรือไม่ ซึ่งปกติเงินจะเข้าระบบวันรุ่งขึ้น ไม่ต้องสนใจยอดเงินในกระเป๋า เพราะเรายังไม่ได้เติมเงินเข้าไป ยอดจึงเป็น 0
เวลาใช้เงินให้กดตรงแถบ “ใช้สิทธิซื้อสินค้า 1,000 บาท” และยื่นให้ร้านค้าสแกน QRCORD
• สแกนยืนยันตัวตนแล้ว ขึ้นข้อความ “ระบบดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ท่านจะได้รับผลการตรวจสอบผ่าน sms” แต่ไม่มี sms แจ้งมา ต้องทำอย่างไร
ทางที่ 1 เมื่อรอเกิน 24 ชม.
– ลองเข้า App โดยใส่รหัส และเข้าไปที่ ใช้สิทธิซื้อสินค้า 1,000 บาท หากมีเงิน 1,000 บาท เข้าแล้ว หมายถึงสามารถใช้ QRCORD จ่ายได้แล้ว (แต่บังเอิญ sms มาไม่ถึง ซึ่งมีหลายสาเหตุ)
ทางที่ 2 เมื่อรอ sms เกิน 24 ชม. รอเท่าไหร่ก็ไม่มา และลองเข้า App เงิน 1,000 บาทไม่เข้า
- รอระบบส่ง sms ยืนยันไม่เกิน 24 ชม. หากยังไม่ได้รับยีนยันภายใน 24 ชม. สามารถตรวจสอบสิทธิได้ที่ Callcenter ชิมช้อปใช้ 02-111-1144 กด 2 > กด 1 > กดเลขบัตรประจำตัวประชาชนตามด้วยเครื่องหมาย # และ กด 2 … หากระบบโทรเงียบไป คงโทรกันเยอะมาก ก็ทำข้อ 2 เดินทางไปธนาคาร
- สามารถติดต่อธนาคาร โดยนำโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อให้จนท.ธนาคารดำเนินการให้
• หากยืนยันผ่านทุกขั้นตอนแล้ว ไม่ได้รับเงิน 1,000 บาท
ติดต่อที่ Callcenter ชิมช้อปใช้ 02-111-1144 กด 2 > กด 1 > กดเลขบัตรประจำตัวประชาชนตามด้วยเครื่องหมาย # และ กด 2 เพื่อสอบถาม
• กดรับสิทธิ์แล้วไม่มี QR Code แสดงที่หน้าจอ ?
ลองออกจากแอปฯ และเข้าทำรายการอีกครั้ง หากยังไม่สามารถทำรายการได้สามารถแจ้ง 02-111-1144 กด 2 > กด 1 > กดเลขบัตรประจำตัวประชาชนตามด้วยเครื่องหมาย # และ กด 2 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบให้
• แอปฯ “เป๋าตัง” ค้าง ใช้งานไม่ได้ ต้องทำอย่างไร ?
ให้ออกจากแอปฯ จากนั้นกดเคลียร์แคช และเข้าแอปฯ เป๋าตัง เพื่อทำรายการใหม่อีกครั้ง หากยังไม่สามารถทำรายการได้สามารถแจ้ง KRUNGTHAI NEXT Call Center 02-111-1555 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
• เมื่อทำทุกขั้นตอนเรียบร้อยแล้วจะนำไปใช้จ่ายได้อย่างไร
หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนการใช้สิทธิซื้อสินค้า/บริการ 1,000 บาท มีดังนี้
1. เมื่อต้องการใช้สิทธิให้กดเข้าไปที่แอปฯ “เป๋าตัง” จากนั้นเลือก “ใช้สิทธิซื้อสินค้า 1,000 บาท” โดยจะใช้สิทธิซื้อสินค้ากับร้านถุงเงินตามจังหวัดที่ได้ลงทะเบียนไว้ และสิทธิดังกล่าวจะหมดอายุภายใน 14 วัน หลังวันที่ได้รับ SMS ยืนยัน
2. นำ QR ไปชำระสินค้าที่ร้านค้าถุงเงินในจังหวัดที่ลงทะเบียนไว้
3. เมื่อนำ QR ไปชำระสินค้ากับร้านที่ลงทะเบียนไว้ ระบบจะขึ้นหน้า “ใช้สิทธิ” พร้อมแสดงผลเพื่อให้เราตรวจสอบยอดเงินที่เราซื้อสินค้ากับร้านที่เข้าร่วมโครงการ จากนั้นกด “ยืนยันการใช้สิทธิ”
4. ระบบจะให้ยืนยันการทำรายการด้วย PIN 6 หลัก ซึ่งเป็นรหัสเดียวกับที่ใช้ลงทะเบียนเพื่อสมัครแอปฯ “เป๋าตัง”
5. เมื่อเราใช้สิทธิ 1,000 บาท ไปแล้วระบบจะแสดงรายการย้อนหลังที่ได้ใช้สิทธิไปแล้ว หรือตรวจสอบได้ที่เมนู “รายการย้อนหลัง” สามารถดูวิธีการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่ Link: https://www.youtube.com/watch?v=SJa9fJHFO6U
• พบปัญหาเมื่อนำไปใช้จ่ายแล้วแอปฯ ล่ม, สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อชำระเงินแล้วไม่ปรากฎอะไรขึ้น, ร้านค้าไม่สามารถหักเงินค่าสินค้า / บริการได้
แอปฯ ถุงเงิน (เป็นแอปฯ ของร้านค้า) ในบางครั้งระบบอาจจะล่าช้า เนื่องจากมีผู้มาใช้สิทธิ ทั่วประเทศพร้อมกันเป็นจำนวนมาก แนะนำให้ร้านค้าค่อยๆ ทำรายการทีละขั้นตอน ถ้ายังไม่ผ่านขอให้ทำซ้ำ
• ใช้จ่ายแล้วแอปฯ ล่ม, ไม่ขึ้น QR Code หรือร้านค้าหักเงินไม่ได้ เป็นเพราะอะไร ?
ให้ตรวจสอบว่าได้เปิดโลเคชั่นในสมาร์ตโฟนไว้หรือไม่ หากไม่เปิดระบุสถานที่ใช้งาน จะไม่สามารถจ่ายเงินได้ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถตรวจสอบ และรับรู้ถึงพิกัดในจังหวัดที่ไปใช้จ่ายจริง เป็นการยืนยันสถานะร้านค้า และผู้จ่ายเงินว่าไปใช้ตามสิทธิ์ในจังหวัดที่ได้ยืนยันไว้ตั้งแต่แรก
หากเปิดโลเคชั่นแล้วยังชำระเงินไม่ได้ อาจเป็นเพราะมีผู้ใช้แอปฯ ถุงเงิน และเป๋าตัง พร้อมกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ระบบล่าช้า แนะนำให้ร้านค้าค่อย ๆ ทำรายการทีละขั้นตอน ถ้ายังไม่ผ่านขอให้ทำซ้ำ
• ส่งภาพ QR CORD เพื่อซื้อของออนไลน์ หรือ โอนเงินแบบ ไม่ไปซื้อในด้วยตัวเองได้หรือไม่
วอร์ชั่นแรกๆ ใช้ได้ แต่หลังได้ Update เวอร์ชั่นใหม่ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. เวลา 22.00 น. ใช้ไม่ได้ เพราะระบบมีการตรวจสอบระยะห่างระหว่างโทรศัพท์ทีใช้่ App เป๋าตัง กับ โทรศัพท์ของร้านที่รับสแกน QRCORD ผ่าน App ถุงเงิน ร้านค้าออนไลน์จะรับ QRCORD ตัดเงินระยะไกลไม่ได้ เป็นมในมาตรการของชิมช้อปใช้ ที่ต้องออกไปใช้เงินสดในจังหวัดที่ระบุในการลงทะเบียน ขายออนไลน์ รับขึ้นเงินหัก % จึงทำไม่ได้อีกแล้ว
แต่หากสแกนซื้อสินค้าในจังหวัดที่ลงทะเบียนไว้และขึ้นแบบนี้ ให้ปิดเครื่องและเข้า APP ใหม่
“เป๋าตังและถุงเงิน อยู่ห่างเกินระยะที่กำหนด ขณะทำราการ [8009]”
• หากยืนยันตัวตนใน App และเครื่องโทรศัพท์ติดรูทควรทำอย่างไร
ด้วยระบบป้องกันความปลอดภัย จะไม่อนญาตให้เครื่องผ่านการรูทลงทะเบียนรับสิทธิ์ แม้โดยข้อเท็จจริงเครื่องบางรุ่นอาจโดนรูทมาตั้งแต่โรงงาน 1. แนะนำให้เปลี่ยนเครื่อง 2. หากไม่มีเครื่องโทรศัพท์ใหม่ แนะนำให้นำเครื่องที่เคยผูกสิทธิ์ติดต่อธนาคารยืนยันแก้สิทธิ์ให้ หรือ 3. บางท่านหา Software ที่แก้ให้ไม่ให้เครื่องติดรูทได้ แต่ไม่แนะนำเพราะเราไม่รู้ว่า Software ตัวนั้นมีความปลอดภัยกับธุรกรรมทางเงินหรือไม่
• • ใช้โคลนไม่ได้ ลงเสร็จ เข้าใหม่จะให้ Update
• ใช้โคลนไม่ได้ กดสิทธิซื้อสินค้า 1,000 บาท เพื่อรับ QRCODE จะค้าง
• ใช้โคลนไม่ได้ แต่หากไม่ได้โคลน (CA001) ให้ลบ APP และลงใหม่อีกรอบ
ตอนนี้แอปโคลนไม่สามารถใช้ได้ในทุกกรณี
– ส่วนใครที่ยืนยันตัวตนในแอฟโคลนสำเร็จแล้วตั้งแต่เมื่อวาน สามารถ นำบัญชีของคนๆนั้นออกมาใช้ในเป๋าตังค์หลักได้คะ เพียงใช้เบอร์มือถือ และรหัสpin ที่เคยทำไว้คะ
– การลบแอป ล้างข้อมูล ถอนการติดตั้ง ลบแคช เพื่อที่จะโหลดเป๋าตังเบอร์ใหม่มายืนยันตัวตน ก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน
-การรีเชตเครื่อง คืนค่าโรงงาน ให้เป็นเครื่องเปล่า ก็ไม่สามารถทำได้เช่นกันคะ
ฉะนั้น หากใครมีมือถือเครื่องเดียว แต่ต้องการใช้ยืนยันตัวตนหลายๆคน แนะนำ ติดต่อธนาคารเท่านั้น
ณ ตอนนี่คงจะเป็นวิธีเดียวที่สามารถยืนยันตัวตนได้
• ในกรณีที่ผู้ลงทะเบียนไม่สามารถยืนยันตัวตน ด้วยการสแกนใบหน้าได้ และต้องเดินทางไปธนาคารกรุงไทย แต่ผู้ลงทะเบียนไม่สะดวกไป สามารถฝากลูกหลาน เพื่อน หรือคนใกล้ชิดไปทำแทนได้หรือไม่?
ไม่สามารถยืนยันตัวตนแทนได้ (แต่ส่วนใหญ่ เอามือถือกับบัตรประชาชนตัวเองไป ธนาคารดำเนินการให้แค่ถามว่า ลงจังหวัดไหน ขึ้นอยู่กับธนาคาร แต่ชัวร์ให้เจ้าของไปเอง) แล้วรอวันนึ่งก็ไปยืนยัน App ได้เลย ระบบจะข้ามขั้นตอนสแกนหน้าให้อัตโนมัติ
• สแกนใบหน้าไม่สำเร็จหลายครั้ง เกิดจากสาเหตุใด
อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น รูปบนบัตรประชาชนไม่ชัด, แสงมากเกินไประหว่างสแกนใบหน้า, นำใบหน้าออกห่างจากมือถือเกินไป และระบบปฏิบัติการในมือถือทำงานล่าช้า ทั้งนี้ สามารถกลับเข้ามายืนยันตัวตนใหม่ในแอปฯ เป๋าตัง โดยกรอกข้อมูลตามบัตรประชาชน และถ่ายรูปใบหน้าใหม่ หรือหากยังไม่สำเร็จ สามารถนำบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตน ได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
สามารถยืนยันใบหน้าได้มากกว่า 3 ครั้ง หากสแกนหน้าไม่ผ่านให้นำโทรศัทพ์และบัตรประชาชนติดต่อธนาคาร ต้องยืนยันตัวตนภายใน 14 วันหลังจากรับ sms
• เติมเงินเข้ากระเป๋า G-Wallet อย่างไร ?
เปิดแอปฯ เป๋าตัง กดปุ่มสีส้ม “เติมเงิน” สามารถเลือกเติมเงินได้ 2 ช่องทาง คือ
1. เติมเงินด้วยเลข G-Wallet (พร้อมเพย์) 15 หลัก
2. ด้วย QR รับเงิน
วิธีที่ 1 เติมเงินด้วยเลข G-Wallet (พร้อมเพย์) 15 หลัก
สามารถเติมเงินผ่าน Mobile Banking หรือ ตู้ ATM ทุกธนาคาร โดยระบุหมายเลขพร้อมเพย์ G-Wallet 15 หลัก
วิธีที่ 2 เติมเงินด้วย QR รับเงิน
นำ QR ไปสแกนกับ Mobile Banking เพื่อเติมเงินเข้า G-Wallet
• ใช้สิทธิ์ Cash Back รับเงินคืน 15% จากแอปฯ เป๋าตัง อย่างไร ? ( เฟส 2 เพิ่มอีก 20% หากจ่ายยอด 30,000 – 50,000 บาท )
หากต้องการใช้สิทธิ์ช่องนี้ ต้องเติมเงินเข้ากระเป๋า G-Wallet ก่อน หลังจากเติมเงินแล้ว สามารถใช้สิทธิ์ Cash Back ได้ดตามขั้นตอนดังนี้
1. เปิดแอปฯ เป๋าตัง เมื่อต้องการชำระค่าสินค้าจากร้านถุงเงิน เลือก “ใช้สิทธิ์รับเงินคืน 15%”
2. กดเลือก “ใช้จ่ายร้านค้าถุงเงิน” เพื่อสร้าง QR Code
3. นำ QR Code ไปใช้จ่ายร้านค้าถุงเงินที่ไม่ได้อยู่ในจังหวัดตามทะเบียนบ้าน
4. หากร้านค้านั้นร่วมมาตรการ Cash Back 15% จะปรากฏกล่องสีเขียวระบุว่า “ร้านค้านี้เข้าร่วมมาตรการรับเงินคืน 15%” จากนั้นกด “ยืนยันการชำระเงิน”
5. ยืนยันการทำรายการด้วย PIN 6 หลัก
6. ระบบแสดง “ทำรายการสำเร็จ” หรือตรวจสอบได้ที่เมนู “รายการย้อนหลัง”
จะได้รับเงินคืน 15% และ 20 % เมื่อไร อย่างไร ?
การรับเงินคืน Cash back คืนเข้ากระเป๋าเงิน G-Wallet จะมี 2 รอบ
– รอบแรก สำหรับการใช้จ่ายตั้งแต่ วันที่ 27 ก.ย.-30 พ.ย. 62 จะได้รับเงินคืนกลาง ธ.ค. 62
– รอบที่ 2 การใช้จ่ายช่วง 1-31 ธ.ค. 62 จะได้รับเงินคืนกลาง ม.ค. 63
ลูกค้าสามารถโอนเงินคืนจากโครงการชิมช้อปใช้เข้าบัญชีธนาคารของลูกค้าได้
• เติมเงินเข้า G-Wallet แล้วใช้ไม่หมด จะถอนออกมาได้ไหม ?
สามารถถอนเงินจาก G-Wallet ได้ โดยไปที่เมนู “โอนเงิน” ในหน้าแอปฯ เป๋าตัง เพื่อโอนเงินเข้าบัญชีที่ต้องการ
คำถามเกี่ยวกับการใช้สิทธิ์
• ต้องใช้สิทธิ์ทั้งกระเป๋าช่อง 1 และช่อง 2 เลยไหม ?
ไม่จำเป็นต้องใช้สิทธิ์ทั้ง 2 กระเป๋า แต่ควรใช้สิทธิ์กระเป๋าช่อง 1 ภายใน 14 วัน เพื่อไม่ให้ถูกตัดสิทธิ์ 1,000 บาท โดย…
– หากเริ่มใช้สิทธิ์กระเป๋าช่อง 1 จะสามารถใช้สิทธิ์กระเป๋าช่อง 1 และ 2 ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562
– หากไม่ใช้สิทธิ์กระเป๋าช่อง 1 ภายใน 14 วัน แต่ได้ใช้สิทธิ์กระเป๋าช่อง 2 ไปแล้ว จะสามารถใช้สิทธิ์กระเป๋าช่อง 2 ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 แต่จะถูกตัดสิทธิ์ กระเป๋าช่อง 1
– หากไม่เริ่มใช้สิทธิ์ทั้งกระเป๋าช่อง 1 และ 2 ภายใน 14 วัน จะถูกตัดสิทธิ์ทั้ง 2 สิทธิ์ และไม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการฯ ได้อีก
• ลงทะเบียนไปแล้ว แต่จะไปเที่ยว 31 ธันวาคม 2562ใช้สิทธิ์ไม่ทัน จะถูกยึดเงินคืนไหม ?
กรณีลงทะเบียนไปแล้วแต่เพิ่งมารู้ว่าต้องใช้เงินภายใน 14 วัน แต่เราวางแผนเที่ยวไว้ในเดือนพฤศจิกายน คงใช้เงินไม่ทัน 14 วัน ถ้าไม่อยากเสียสิทธิ์ แนะนำให้ใช้จ่ายเงินจาก “เป๋าตัง ช่อง 1” ครั้งแรกในจังหวัดที่เราเลือกก่อน ภายใน 14 วัน โดยใช้เท่าไรก็ได้ 10 บาท 20 บาท ไม่จำเป็นต้องครบ 1,000 บาท แล้วเงินส่วนที่เหลือจะยังใช้ต่อได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562
• สามารถนำเงินไปใช้ในจังหวัดที่ไม่ได้ลงทะเบียนได้หรือไม่ ?
เช่น ลงทะเบียนที่จังหวัดขอนแก่น ใช้จ่ายที่ขอนแก่นไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่ยังเหลือเงินในกระเป๋าช่อง 1 ถ้าต้องการนำไปใช้ต่อที่จังหวัดนครราชสีมา กรณีนี้ไม่สามารถทำได้ เพราะให้ใช้สิทธิ์ได้แค่ 1 จังหวัดที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น หากลงทะเบียนจังหวัดขอนแก่น ก็ต้องใช้สิทธิ์ที่ขอนแก่นเท่านั้น
แต่สำหรับกระเป๋าช่อง 2 สามารถเติมเงินเพื่อใช้จ่ายได้ทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
• แอปฯ เป๋าตัง จะหักเงินจากบัญชีธนาคารของเราจริงไหม ?
ไม่มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของเราแต่อย่างใด เพราะการใช้เงิน 1,000 บาท ผ่าน G-Wallet จะหักเงินจากการสแกน QR Code เท่านั้น
ข้อควรระวังอื่นๆ
อย่าแลกเงินโดยไม่ได้ใช้จ่ายจริง ทั้งกระเป๋า 1 และกระเป๋า 2 เพราะคิดอยากได้เงินคืน เพราะนั้นหมายถึงคุณกำลังทำผิดเงื่อนไขที่สมัครเข้า app เป๋าตังและ App เป๋าเงิน การทำผิดเงื่อนไข ธนาคารมีสิทธิ์ไม่จ่ายเงินที่เข้า App เป๋าเงินได้ มีตัวอย่างให้เห็นหลายราย และ ผู้แลกเงิน อาจสูญเสียเงินเปล่า โดยไม่ได้อะไรเลย มาเสียใจทีหลังก็สายไปเสียแล้ว ซึ่งมีให้เห็นกันเยอะมาก
จะน่าช่วยตอบปัญหาคาใจชิมช้อปใช้ ไปได้ระดับหนึ่ง ชิมช้อปใช้ ตั้งแต่ไม่รับ SMS ยืนยัน, โทรศัพท์โหลด App ‘เป๋าตัง’ ไม่ได้, สแกน QR Code แล้วไม่ขึ้นรายการ,สแกนหน้าไม่ผ่าน, ยอดเงินไม่ขึ้น, ร้านค้าหักเงินไม่ได้
TAG : รอคิวนาน, ไม่ได้รับ SMS ,เปลี่ยนจังหวัด, สแกนหน้าไม่ผ่าน ,การลงทะเบียน App เป๋าตัง