สมาธิกำไรชีวิต ความสุขจากภายในที่ยั่งยืนแต่ทำได้ยาก

มีความสุขได้ด้วยตัวของตัวเอง โดยไม่ต้องไปพึ่งพิงสิ่งอื่น จะมีก็เพียงแค่ปัจจัยสี่ท่านั้น ในระดับกินอยู่ใช้ แต่พอดี คือจะรู้สึกว่ามันพอ พอถึงจุดหนึ่งพอดี สุขกายสุขใจ แล้วมันพอ เราจะรู้จักคำว่าพอดี ต่อเมื่อใจหยุดนิ่ง อยู่ที่ตรงนี้แหละ แค่ไหนพอดี ที่เราจะกินอยู่ใช้แต่พอดี  พอถึงตรงนี้เมื่อใจเคลื่อนเข้าสู่ภายใน มันจะเห็นหนทาง ที่จะไปสู่จุดหมายปลายทาง ของชีวิต ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์นี้ ว่าเรามีเวลาอย่างจำกัดในโลกนี้ แล้วจะใช้ชีวิต อย่างไรให้เกิดประโยชน์อันสูงสุด

แบบประหยัดสุด มีชีวิตเรียบง่าย แต่สูงส่ง มีสุขล้น ที่ไม่มีทุกข์ในใจเจือเลย แม้ยังไม่หมดกิเลส แต่ความบริสุทธิ์ของใจก็เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นเรื่อยๆพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง สิ่งอื่นไม่ใช่ มนุษย์ก็มีความทุกข์ ก็แสวงหาที่พึ่งและก็สร้างพระเจ้า สร้างที่พึ่งที่ระลึกขึ้นมา เราคิดว่าสิ่งนี้ จะเป็นที่พึ่งได้ จะต้องยิ่งใหญ่สร้างสรรพสัตว์  สรรพสิ่ง  รู้ว่าสิ่งนี้อยู่ที่ตรงไหนก็จะไปกราบ ไปไหว้ตรงนั้น ถ้ารู้ว่าอยู่ที่ต้นไม้ ก็ไปไหว้ที่ต้นไม้ รู้ว่าอยู่ที่จอมปลวกก็ไปที่จอมปลวก นึกว่าอยู่ที่สัตว์ประหลาดก็ไปไหว้สัตว์ นึกว่าอยู่ที่ภูเขาก็ไปไหว้ภูเขา เค้าว่าตรงไหนศักดิ์สิทธิ์ ก็ไปอย่างนั้น

จนกระทั่งที่สุดไม่อาจจะสัมผัสได้ ก็เลื่อนลอยเข้าไปอย่างนั้นชีวิตของบรรพชิตจะง่ายกว่าคฤหัสถ์ เพราะคฤหัสถ์จะมีเครื่องพันธนาการของชีวิต ครอบครัวมีธุรกิจการงาน บ้านช่อง ที่ต้องเกี่ยวข้อง กับสิ่งโน้นสิ่งนี้ คนสัตว์สิ่งของ บางอย่างก็จำเป็น บางอย่างก็ไม่จำเป็น บางอย่างก็มีโทษมีภัย โดยที ตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันมีโทษมีภัย ที่เกี่ยวกับตัว ไม่ใช่ใกล้ตัวหรือไกลตัว คือเรื่องกฎแห่งกรรมนั่นแหละ เพราะฉะนั้นชีวิตของ คฤหัสน์นั้น เหมือนอยู่ที่แคบ จะอึดอัด มีเครื่องพันธนาการของชีวิต กลางคืนเป็น ควันกลางวันเป็นไฟ วันๆ ก็วนเวียนอยู่อย่างนี้ เดี๋ยววันเดี๋ยวคืน เดี๋ยวก็หมดเวลาของชีวิต ไปแล้ว ก่อนวัยอันควรบ้าง เท่าอายุไขเฉลี่ยมนุษย์บ้าง เกินกว่านั้นก็มี ก็วนๆ เวียนๆ อยู่อย่างนี้จะมีโอกาสมาให้โอกาสตัวเอง ให้ของขวัญกับตัวเองมาปฏิบัติธรรม ก็น้อยมาก

เพราะว่าเวลาถูกดึง ไปใช้อย่างอื่น  24 ชั่วโมง 1 วัน แบ่งเป็น 3 ช่วง สำหรับการพักผ่อน 8 ชั่วโมง ในการบริการขันธ์ ตั้งแต่อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน รับประทานอาหารขับถ่าย เป็นต้น

ที่เหลือก็ทำงานบางทีก็ทำงานล่วงเวลาไป กินเวลาอีก 2 ส่วน พอจะมีเวลาแบ่งให้สำหรับการ ทำสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต ก็ไม่ค่อยจะมี ยิ่งผลัดผ่อน ไม่เห็นความสำคัญ ในสิ่งนี้ เพราะไม่ได้ศึกษาเรียนรู้ไม่มี ประสบการณ์ภายใน ชีวิตก็หมดไป เปล่าๆ

เหมือนนก เหมือนกา จะตื่นขึ้นมาก็ร้องกา ออกไปทำมาหากิน ตอนเย็นก็ร้องกา กลับเข้านอน ชีวิตคฤหัสถ์จึง เหมือนอยู่ที่แคบ อยู่ที่แคบแล้วมันจะอึดอัด หาทางออกได้ยาก ชีวิตของสมณะ บรรพชิตนักบวช จะว่างกว่า ชีวิตของคฤหัสถ์ คือเราไม่ต้องไปทำ ตรงนั้น แต่เรามาสู่จุดหมาย ในการทำพระนิพพานให้แจ้ง เลย เป็นอยู่ได้แค่ปัจจัยสี่ นิดๆ หน่อยๆ ที่เกิดจากการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ญาติโยมเกื้อกูลในการสนับสนุนให้กำลังแห่งการตรัสรู้ธรรมใส่บาตร สนับสนุนเรื่องเสนาสนะ เรื่องจีวร เรื่องยารักษาโรค เรื่องบริขาลเท่าที่จำเป็น

ส่วนพุทธบุตร ก็เป็นครูสอน ศีลธรรม ชักจูงให้ญาติโยม ละชั่วทำดี ทำใจให้สะอาด ด้วยทาน ด้วยศีล ด้วยภาวนา ต่างก็เกื้อกูล ไปซึ่งกันและกัน ชีวิตสมณะจึง เป็นชีวิตอันประเสริฐ ที่เลิศกว่าชีวิตทั้งหลาย ยิ่งกว่าฆราวาส เหมือน ออกมาจากที่แคบ สู่ที่โล่งกว้างขวางไปเรื่อยๆ

เมื่อมีพระรัตนตรัยภายในเป็นที่พึ่งภายในของตัวเองได้แล้ว ก็เป็นที่พึ่งของผู้อื่นได้ แก่โยมพ่อโยมแม่ ญาติโยมทั้งหลาย มนุษย์เทวดา สรรสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง นี่เป็นเรื่องสำคัญ บวชแล้วก็ต้องทำความเพียร ต้องปฏิบัติ ถ้าทั้งพระทั้งโยมทำความเพียรได้อย่างนี้ ชีวิตที่เกิดมาในชาตินี้ก็มีกำไรชีวิต กำไรชีวิตเค้าดูทีว่าเราได้ เข้าถึงความสุขที่แท้จริง ได้แค่ไหน เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวไหม หนทางแห่งพระรัตนตรัยเปิดขึ้นหรือยัง อย่างนี้เค้าถึงจะเรียกว่ากำไรชีวิต ไม่ใช่ดื่มเหล้า เจ้าชู้ เล่นการพนัน อบายมุขต่างๆ ไปสุขไปเสพเหล่านั้นแล้วก็ไปเข้าใจผิด ว่านั้นคือกำไรของชีวิต ทีจริงเป็นการขาดทุนของชีวิต จะต้องไปใช้ใหม่ในอบายยาวนาน ซึ่งทุกข์ทรมาร อย่างไม่มีอะไรเปรียบได้ ยาวนานทีเดียว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง