เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง 4 วัน 3 คืน (ตอนที่4) ชม Merlion กับน้องมินนี่
วันที่ 2 ในสิงคโปร์ วันนี้น้องมินนี่ จะพาไปดูสิงโตพ่นน้ำ Merlion สัญลักษณ์ของสิงคโปร์ แต่ก่อนที่จะเดินไปสถานี MRT Lavender ข้างๆ มีศูนย์อาหาร ซึ่งเรากินอาหารเย็นกันที่นี้ เดินทางมาสิงคโปร์ตั้งใจกินข้าวมันไก่ แต่ดันมาจบด้วยไก่ทอด สเต็ก ซึ่งดูท่าทางหน้ากินกว่า ส่วนน้ำเปล่า เป๊ปซี่ เรานำติดตัวมากจากโรงแรม อะไรประหยัดได้ก็ประหยัด
ทานอาหารเสร็จ วันนี้ขอนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินดีกว่า ช่วงบ่ายรถจะว่าง บัตรรถไฟฟ้าก็มีแล้ว เดินจากโรงแรมไปลงลิฟต์เพราะไม่อยากให้น้องมินนี่เดินมากๆ เริ่มจากสถานร Lavender เหมือนเดิม คราวนี้ไปลงฝั่งสิงโตพ่นน้ำสถานี Raffles Place
ซึ่งทางออกสถานีจะขึ้นมาอยู่ใกล้กลางย่าน Shopping และธุรกิจของสิงคโปร์ซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลผ่านสายเคเบิ้ลใยแก้ว , ดาวเทียม ไปทั่วโลก ตัวเราจะรู้สึกเล็กลงไปทันที เนื่องจากด้วยวันนั้นเป็นเย็นวันศุกร์สิ้นเดือน ตามร้านอาหาร , Cafe หรูๆ จึงมีนักธุรกิจลงมานั่งกินเบียร์คล้ายเครียดกันอย่างสบายอารมณ์
แต่สำหรับ ใครที่ต้องการดู Merlion ให้นั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี City Hall แล้วเดินผ่านทางเดินใต้ดิน CityLink Mall มาโผล่ที่ใต้โรงละคร Esplanade เดินออกจากโรงละคร ข้ามสะพานมายังฝั่ง Merlion เลือกที่นั่งบริเวณข้างๆ Merlion ไปจนถึงทางเดินข้างโรงแรม One Fullerton ซึ่งแนวฝั่งจากขวาไปซ้าย น้องมินนี่วิ่งเล่น เดินเล่นกินลมถ่ายรูปอย่างสบายใจมาก
ยิ่งช่วงเย็นหน่อยก็จะมีหนุ่มสาวสิงคโปร์ออกวิ่งออกกำลังรอบอ่าว Marena Bay ที่นี้ผู้คนจึงไม่ค่อยมีคนอ้วนให้เห็น ยกเว้น ชาวจีนและคนตะวันออกกลางที่มาถ่ายรูปและรอชมเสียงสีแสงที่ยิงลงมากจากตัวตึกเรือลอยฟ้า
เก็บภาพบรรยากาศยามเย็นมาฝากกัน ^_^
เมอร์ไลออน (Merlion) ถูกออกแบบผู้ออกแบบ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของคณะกรรมการการท่องเที่ยวสิงคโปร์ ในปี 1964 รูปปั้นนี้มีหัวเป็นสงโต ร่างเป็นปลา ยืนอยู่บนยอดคลื่น ต่อมาไม่นานทั่วโลกก็ถือกันว่า “สิงโตทะเล” ตัวนี้ คือเครื่องหมายประจำชาติสิงคโปร์
แต่เดิมรูปปั้นนี้ตั้งอยู่ที่สวนสิงโตทะเล ข้างสะพานเอสพลาเนด แม่สิงโตและลูกสิงโตได้กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องเดินทางมาชมและถ่ายรูป
สิงโตตัวนี้สูง 8.6 เมตร มีน้ำหนัก 70 ตัน ทำจากวัสดุจำพวกซีเมนต์ โดยช่างฝีมือชาวสิงคโปร์ผู้เสียชีวิตไปแล้วที่ชื่อนายลิมนังเซ็ง ส่วนรูปปั้นสิงโตทะเลตัวที่สองจะมีขนาดเล็กกว่า ขนาดสูง 2 เมตรและหนัก 3ตัน ก็ถูกสร้างขึ้นโดยนายลิมเช่นกัน ตัวสิงโตทำจากวัสดุจำพวกซีเมนต์ ผิวหนังทำจากแผ่นกระเบื้อง และตาทำจากถ้วยชาสีแดงขนาดเล็ก
ส่วนหางที่เป็นปลาคือสัญลักษณ์ของเมืองโบราณเทมาเซ็ก หมายถึงจุดเริ่มต้นของสิงคโปร์ที่ในอดีตเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมง
มารีนาเบย์แซนส์ (Marina Bay Sands) เป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่อ่าวมารีนา นับเป็นอาคารที่มีมูลค่าแพงที่สุดในโลก ประมาณ 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ171พันล้านบาทไทยทั้งนี้มาจากราคาที่ดินในบริเวณดังกล่าวที่มีมูลค่าสูง พัฒนาโดยบริษัทลาสเวกัสแซนส์
Marina Bay Sands มีขนาดพื้นที่ 581,000 ตารางเมตร นับตั้งแต่ที่สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2010 ประกอบไปด้วยโรงแรม, สระว่ายน้ำ, จุดชมวิวทั่วสิงคโปร์, ศูนย์ประชุมและนิทรรศการ, โรงภาพยนตร์, สถานบันเทิง, ภัตตาคารและร้านค้าต่าง ๆ
Marina Bay Sands ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง Moshe Safdie สร้างเป็นรูปไพ่ 3 สำรับเรียงกัน แล้ววางทับด้วยเรือ อยู่ด้านบนที่เรียกกันว่า Sands Sky Park ที่เป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่สูงที่สุดในโลก
ด้านหน้าโรงแรมเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่รวมเอาสินค้าแบรนด์ระดับโลกมารวมกันไว้ที่นี่ที่เดียว ใกล้ๆ กันนี้ยังมีตึกรูปทรงแปลกตาเป็นร้าน Louis Vuitton สาขาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ไม่กล้าเข้าไปครับ กลัวยั้งใจไม่อยู่
ตึกรูปดอกบัว เป็นอาคาร The Art Science Museum ออกแบบให้มีประโยชน์ใช้สอยอย่างดี ทั้งรองรับน้ำฝนให้ไหลลงมารูตรงกลาง เพื่อนำไปรีไซเคิลเป็นน้ำสำหรับทำเป็นน้ำตก และน้ำใช้ในห้องน้ำ และแต่ละกลีบของดอกบัวก็ถูกตกแต่งให้เป็นแกลลอรี่ให้ผู้คนเข้าไปชม
Wonder Full – Light & Water Spectacular เป็นโชว์ที่จัดแสดงบริเวณตึก Marina Bay Sands ทำได้ยิ่งใหญ่ และ ตระการตา เป็นการแสดงแสง สี เสียงและน้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วย
- การแสดงน้ำพุ ยิงภาพ ตัวอักษร เรื่องราว ทาง video projectors ออกมาที่ม่านละอองน้ำเป็นภาพ 3 มิติ มีดนตรีประกอบการแสดง
- การแสดงแสงสีที่ตัวตึก Marina Bay Sands และยิงแสงเลเซอร์ที่ดาดฟ้ารูปเรือ มีดนตรีประกอบการแสดง
การแสดงชุดนี้ได้รับรางวัล Best New Tourist Attraction ที่จัดอันดับโดย ASEAN Tourism Forum ในการแสดงนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 2 อย่าง
เวลาในการแสดงโชว์ Wonder Full – Light & Water Spectacular
- วันอาทิตย์ – พฤหัสบดี : 20:00 น., 21:30 น.
- วันศุกร์, เสาร์ : 20:00 น., 21:30 น., 23:00 น.
ระยะเวลาการแสดง 15 นาที สามารถชมได้ฟรี ทั้งสองการแสดงนี้มีขึ้นในเวลาเดียวกัน ใน 1 รอบ แต่การชมแต่ละการแสดงจะอยู่คนละตำแหน่งกัน คงต้องเลือกดูอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าอยากจะดูทั้ง 2 อย่างก็ต้องแบ่งเป็น 2 รอบ เช่น สองทุ่มชมการแสดงน้ำพุ สามทุ่มครึ่งชมการแสดงแสงสี
สถานที่ชมการแสดง
- การแสดงน้ำพุ ชมได้ที่ข้างร้าน Louis Vuitton ที่อยู่ริมน้ำ ข้างๆ ตึก Marina Bay Sands
- การแสดงแสงสีที่ตัวตึก Marina Bay Sands ชมได้ที่ริมน้ำข้างๆ Merlion ไปจนถึงทางเดินข้างๆ โรงแรม One Fullerton
เสร็จการแสดงแสงสี และถ่ายรูปกันอย่างจุใจ ด้วยความที่ขี้เกียจเดิน ก็คิดว่าจะนั่งรถเมล์กลับ ดูสายรถเมล์มากแล้วว่า 107 ผ่านมาแน่ๆ หลังจากรอๆๆ ก็ลองไปอ่านตารางที่ป้าย บอกรถสายนี้หมด 2 ทุ่ม … เลยต้องเดินลัดอาคารไปขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีเดิมคือ Raffles Place ซึ่งไม่กี่นาที ก่อนขึ้นโรงแรมแวะซื้อขนมขึ้นไปกิน อาบน้ำ นอนจ๊ะมินนี่
ใครขา Shopping พรุ่งนี้เราจะไป shopping แถวเกาะ Sentosa กันจ้า