ยอดลงทะเบียน 7 ต.ค. 2562 ให้โชคดีนะ , ล่าสุดผ่านไป 26 นาทีโดยประมาณ ลงทะเบียนเต็ม
- ยอดใช้สิทธิ์ลงทะเบียนชิมช้อปใช้กำลังจะเต็มจำนวน 1,000,000 ล้านคน ไปเรียบร้อย
- การลงทะเบียนเพิ่มเติมมี 2 ส่วน จนถึง 15 ต.ค.
1. เป็นสิทธิ์ที่ในแต่ละวัน มีจำนวนลงทะเบียนไม่ผ่าน
2. เป็นสิทธิ์ที่ ผู้ได้สิทธิ์ชิมช้อปใช้ 1,000 บาท ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์ภายใน 14 วัน
เงินตีกลับ ให้สิทธิ์รายอื่นๆ ซึ่งสามารถลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 15 ต.ค.
- หากยืนยันสิทธิ์ โดยสแกนใบหน้าไม่ผ่าน 3 ครั้ง ให้ติดต่อธนาคากรุงไทย ซึ่งเปิดให้บริการพิเศษในบางสามารถ
- ช่วงนี้มีผู้ใช้ App เป๋าตังและถุงเงินจำนวนมาก การใช้ QR CORD จะล่าช้า หรือหน่วง ในบางเวลา ดังนั้นต้องทำใจ และขึ้นอยู่กับการจัดการของร้านด้วย
เก็บภาพเรื่อง “ช้อป” มาฝาก เงินชิมช้อปใช้ 1,000 บาท ใน Facebook
- ส่วนชิมช้อมใจ ระยะ 2 รัฐมนตรีเกี่ยวข้องกับกำลังศึกษาว่า อาจดึงธนาคารออมสินและธนาคารเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) เข้าร่วมด้วย พร้อมจัดหาร้านค้าให้มากขึ้น ซึ่งรอความคืบหน้า
รายงานความคืบหน้าการทำโครงการชิมช้อปใช้ระยะที่สองว่า กระทรวงการคลังกำลังเร่งศึกษาโครงการชิมช้อปใช้ระยะที่สองออกมาให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้เปิดลงทะเบียนได้ต่อเนื่องทันทีภายในเดือนต.ค.นี้ หลังจากลงทะเบียนระยะแรกครบ
อย่างไรก็ตามจะมีการปรับปรุงเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ใหม่ เพื่อต้องการกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมโครงการ นำเงินส่วนตัวออกมาใช้จ่ายเพื่อสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจให้มากขึ้น และจะเร่งเสนอให้ รมว.คลัง รวมถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พิจารณาในเร็วๆ นี้
“แนวคิดชิมช้อปใช้ระยะสอง เบื้องต้นจะเริ่มทันทีเดือน ต.ค.นี้ โดยเปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มอีก 1-2 ล้านคน แต่จะปรับสิทธิประโยชน์ใหม่ ไม่มีการแจกเงินให้ไปใช้จ่ายฟรี 1,000 บาท เหมือนกับระยะแรก แต่จะเพิ่มสิทธิในกระเป๋าที่สองในส่วนของเงินแคชแบ็ก 15% ให้เพิ่มมากขึ้นจาก 4,500 บาท เป็น 5,500- 6,000 บาท เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายแทน
ส่วนระยะเวลายังกำหนดให้ใช้ได้ถึงสิ้นเดือนพ.ย.นี้เหมือนเดิม ซึ่งหลังจากนี้จะต้องรอเสนอให้ฝ่ายนโยบายพิจารณารายละเอียด โดยดูผลการดำเนินโครงการระยะแรก รวมถึงงบประมาณที่เหลือควบคู่กัน ก่อนสรุปอย่างชัดเจน”
ทั้งนี้สาเหตุที่โครงการชิมช้อปใช้ระยะสอง จะไม่มีการแจกเงิน 1,000 บาท ไปใช้ฟรีๆแบบในระยะแรก เพราะคนที่ลงทะเบียนส่วนใหญ่หวังแค่รับเงิน 1,000 บาทเพื่อไปใช้ฟรีๆอย่างเดียว เห็นได้จากยอดใช้เงิน 1,000 บาทมีสูงกว่า 1 พันล้านบาท
แต่ยอดกระเป๋าสองที่ใช้จ่ายเงินของตัวเองมีแค่หลัก 10 กว่าล้านบาท ซึ่งไม่ตรงกับเป้าหมายของรัฐที่ต้องการให้คนนำเงินส่วนตัวมาใช้เพิ่มขึ้น ดังนั้นชิมช้อปใช้ระยะที่สอง จะเน้นดึงคนที่มีกำลังซื้อมาลงทะเบียน และนำเงินส่วนตัวมาใช้จ่ายเป็นหลัก