นายกฯ สั่งชะลอลงทะเบียน “หมอพร้อม” ผู้สูงอายุ ที่ลงทะเบียนแล้ว จะได้ฉีด “แอสตร้าเซนเนก้า” ในลำดับต้นๆ

Update .. นายกฯ สั่งชะลอลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนโควิดผ่าน “หมอพร้อม” ให้แต่ละจังหวัดทำระบบตัวเอง

ปรับแผนจองฉีดวัคซีนโควิด19 ใหม่! นายกฯ สั่งชะลอจองวัคซีนผ่าน “หมอพร้อม” ส่วนกลุ่มที่จองไว้แล้วให้เป็นไปตามนัดหมายเดิม ขณะที่แผนใหม่ยึดหลักพื้นที่จัดการ ชูตัวอย่าง “ภูเก็ต-นนทุบุรี” ขณะที่กทม.ใช้ระบบตัวเองจองฉีดวัคซีนเริ่ม 27 พ.ค. นี้

ตอนนี้ให้ชะลอเรื่องการลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมไปก่อน

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ผอ.ศปก.ศบค.ได้รับการสั่งการจากนายกรัฐมนตรีให้มีการประชุมหารือ โดยมีเรื่องวัคซีนใน 2 ประเด็น คือ

ประเด็นที่1 ชะลอเรื่องการลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมไปก่อน
ประเด็นที่ 2 ปรับแผนแจกจ่ายวัคซีนใหม่โดยใช้หลายเกณฑ์ นำมาสู่การจัดสรรใหม่

ประเด็นที่ 1 การลงทะเบียนรับวัคซีน ซึ่งเดิมให้ดำเนินการผ่านระบบ “หมอพร้อม” ตอนนี้ให้ชะลอเรื่องการลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมไปก่อน โดยจากที่ระบบหมอพร้อมทำหน้าที่ 3 ข้อ ได้แก่
1.ลงทะเบียนรับวัคซีน
2.ติดตามการฉีดเข็มที่1,2 และผลข้างเคียง
3.ออกใบรับรองการฉีดวัคซีนที่ครบถ้วน ตอนนี้ให้ระบบหมอพร้อมให้ทำในข้อ 2 และ 3

ส่วนข้อ 1 การลงทะเบียนรับวัคซีนนั้น ให้มีทางเลือกกับประชาชนที่หลากหลาย เช่น ภูเก็ตมีแอปพลิเคชั่นของภูเก็ต กทม.มีระบบของกทม.ที่จะเริ่มในวันที่ 27พ.ค.นี้ และนนทบุรีมีระบบของตนเอง เป็นต้น ในเรื่องของหน้าด่านการลงทะเบียนนี้เพื่ออำนวยความสะดวกและไม่ให้เป็นคอขวดอย่างเดิม ซึ่งแต่ละจังหวัดสามารถนำโมเดลของนนทบุรี ภูเก็ต หรือกทม.ไปใช้กับพื้นที่ตัวเองได้ หรือเดินไปรพ. หรือผ่านอสม.ยังทำได้เหมือนเดิม

กลุ่มผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค จะได้รับวัคซีนในลำดับต้นๆ เพราะถือเป็นผู้แจ้งความประสงค์ตั้งแต่แรก

“สำหรับคนที่ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมไว้แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค จะได้รับวัคซีนในลำดับต้นๆ เพราะถือเป็นผู้แจ้งความประสงค์ตั้งแต่แรก” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

ปรับแผนแจกจ่ายวัคซีนใหม่โดยใช้หลายเกณฑ์

ประเด็นที่ 2 แผนแจกจ่ายวัคซีน ซึ่งเดิมเป็นการจัดสรรโควต้าตามการจองวัคซีน แต่บางพื้นที่มีการติดเชื้อน้อย แต่ปัจจุบันนายกฯได้สั่งให้ศปก.ศบค.หารือร่วมกับปลัดสธ. และอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้มีการปรับเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยใช้เกณฑ์อัตราการติดเชื้อในพื้นที ที่มีการเปลี่ยนแปลงรายวัน พื้นที่เศรษฐกิจ สังคม และท่องเที่ยว และกลุ่มบุคคลเสี่ยง กลุ่มเฉพาะ เช่น โรงงาน หรือพนักงานขับรถสาธารณะ เป็นต้น จึงมีการปรับใหม่โดยใช้หลายเกณฑ์ นำมาสู่การจัดสรรใหม่


ผู้สูงอายุ ลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่าน “หมอพร้อม” จะได้ฉีดแอสตร้าเซนเนก้า

การฉีดวัคซีน #Astrazeneca ให้กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง จะเริ่มในเดือน มิ.ย.

เดือน ส.ค.2564 จะเริ่มฉีดวัคซีนในกลุ่มประชาชนทั่วไปอายุ 18-59 ปี

เป้าหมายการฉีดวัคซีน ทั้งหมด 100 ล้านโดส

ขณะนี้มีผู้จองรับการฉีดวัคซีน แล้ว 1.5 ล้านคน (ข้อมูล ณ 8 พ.ค.)

7 พ.ค. 64 กระทรวงสาธารณสุข แจงประเด็นคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติให้ฉีดวัคซีนซิโนแวคในผู้สูงอายุที่มีสุขภาพแข็งแรง เพื่อขยายโอกาสให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดได้รับวัคซีนโดยเร็วที่สุด

ส่วน ผู้ที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่าน “หมอพร้อม” จะได้แอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นวัคซีนหลักของประเทศ

          นายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากข้อกังวลประชาชนหลังคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเห็นชอบให้มีการฉีดวัคซีนโควิด 19 ของซิโนแวค ในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
ที่มีสุขภาพดี 
ซึ่งข้อมูลการวิจัยของประเทศจีนพบว่ามีความปลอดภัยและกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี

ขอชี้แจงว่าประเด็นดังกล่าว เพื่อเป็นการขยายโอกาสให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุดเพื่อลดอัตราการติดเชื้อ จำกัดวงการแพร่ระบาด ลดการป่วยที่รุนแรง และการเสียชีวิต ระหว่างรอวัคซีนจาก แอสตร้าเซนเนก้าสำหรับฉีดให้กับคนในประเทศ นอกจากนี้รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่เกษียณอายุ แต่ยังคงปฏิบัติงานนับเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สามารถฉีดซิโนแวคได้เช่นกัน

          นายแพทย์โสภณ กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ที่ได้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่าน แพลตฟอร์ม “หมอพร้อม” จะได้รับการฉีดวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นวัคซีนหลักของประเทศ เพราะจะมีวัคซีนชนิดนี้ถึง 16 ล้านโดสในเดือน มิถุนายน และ กรกฎาคม 2564 ยกเว้นในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ไม่มีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า มีแต่วัคซีนของซิโนแวค การฉีดขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์ ส่วนวัคซีนอื่นๆ ที่รัฐบาลพยายามจัดหามานั้นเพื่อให้เกิดความครอบคลุมทุกกลุ่มประชากรให้มากที่สุด

          “ขอให้ประชาชน มั่นใจว่าวัคซีนทุกชนิดที่นำมาฉีดให้กับคนในประเทศนั้นมีความปลอดภัย เนื่องจากต้องมีการศึกษาข้อมูลทางวิชาการ มีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณาก่อนนำมาฉีดให้กับคนในประเทศมีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐาน และประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด 19 และสิ่งที่คำนึงสูงสุดคือความปลอดภัยของประชาชนจากการฉีดวัคซีน” นายแพทย์โสภณกล่าว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง