เยียวยา “อสม.” ฝ่าวิกฤติโควิด เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ จ่าย 2 แสนบาท

นายกฯอาลัย อสม. “ตาบุญส่ง”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ว่า ขอแสดงความอาลัยต่อการจากไปของคุณบุญส่ง มะนาวหวาน อสม. วัย 72 ปี อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ขี่จักรยานยนต์นำหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือไปแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านเมื่อวันที่ 22 เม.ย. คุณตาบุญส่งสมัครเป็น อสม.ของชุมชนมาตั้งแต่ปี 2529 รวม 34 ปี ทำหน้าที่ทุ่มเทช่วยงานราชการอย่างแข็งขัน ด้วยความรักและเสียสละ เป็นคนดีของชุมชนและประเทศชาติที่ควรยกย่อง ถือเป็นการเสียชีวิตในหน้าที่ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และถือเป็นหนึ่งใน อสม.นับล้านคนที่อาสาเสียสละแรงกายแรงใจเพื่อช่วยประเทศชาติ เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้สถานการณ์โควิด-19 เป็นไปในแนวโน้มที่ดี ภาครัฐจะดูแลครอบครัวอย่างดีที่สุดและขอขอบคุณ อสม.ทุกท่านที่มีส่วนช่วยประเทศชาติฝ่าวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้

อสม.ที่ตายได้แน่ 2 แสนบาท

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ปัจจุบันอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั้งประเทศมี 1.05 ล้านคนมาช่วยทำหน้าที่ปฏิบัติการดูแลคนในพื้นที่เกี่ยวกับการต่อสู้โควิด-19 ข้อมูลปัจจุบันมี อสม.เสียชีวิต 3 คน เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ทั้งเคาะประตูบ้านให้ความรู้ความเข้าใจ แจกหน้ากากผ้า เจลแอลกอฮอล์ อย่าง อสม.ที่เสียชีวิตรายล่าสุด ประสบอุบัติเหตุ ส่วนอีก 2 คนที่เสียชีวิตเกิดจากโรคขณะปฏิบัติหน้าที่เช่นกัน ทั้ง 3 รายเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อโควิด-19 แต่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับโรค สำหรับการเยียวยา อสม.ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ เบื้องต้นทุกรายจะได้รับ 10,000 บาทจากมูลนิธิ อสม. กรณีเสียชีวิตอีกรายละ 5,000 บาท ส่วนท่านที่เป็นสมาชิก อสม.จะได้รายละ 200,000 บาท

“อนุทิน” ขอเพิ่ม 2 เท่าเข้า ครม.

“เรามีระเบียบหลักเกณฑ์ความเสียหายจากการให้บริการของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มอบแก่ผู้ให้บริการ ซึ่ง อสม.รวมอยู่ด้วย จะได้รับค่าเยียวยาตรงนี้ จากอัตราเดิมเจ็บไข้ได้รับ 1 แสนบาท พิการ 2.4 แสน และเสียชีวิต 4 แสน แต่ล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ทำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอเพิ่มอัตราเป็น 2 เท่า ระหว่างนี้อยู่ระหว่างจัดทำระเบียบจะย้อนหลังให้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีกองทุนที่มีผู้บริจาคอยู่ที่สำนักนายกฯ อสม.จะได้รับเบี้ยยังชีพ 1 แสนบาท ขณะนี้กรมประสานไปยังญาติ และทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้ทำเรื่องถึงจังหวัด และทำเรื่องถึง สปสช.เขต เพื่อรับเงินเยียวยาส่วนนี้” นพ.ธเรศกล่าว

“ตาบุญส่ง” สละชีวิตเพื่อสังคม

สำหรับประวัตินายบุญส่ง มะนาวหวาน อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 6 ต.ยางนอน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี แต่งงานกับนางประเสริฐ มะนาวหวาน อายุ 66 ปี มีลูก 4 คน ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เป็นคนดีโอบอ้อมอารีชอบช่วยเหลือคน สมัครใจเป็น อสม.ประจำหมู่บ้าน เมื่อปี 2529 ทำงานเรื่อยมารวมกว่า 30 ปี กระทั่งวันที่ 22 เม.ย. ได้รับมอบหมายจากประธาน อสม.ให้นำหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านในพื้นที่รับผิดชอบ ระหว่างขี่รถ จยย.ไปตามถนนภายในหมู่บ้านถูกรถบรรทุก 6 ล้อ บรรทุกน้ำแข็งพุ่งชนจนเสียชีวิต ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัวและชาวบ้าน

สธ.มอบกรมธรรม์ฯ แก่ทีมนักรบเสื้อขาว และ อสม. ตอบแทนความเสียสละแก่บุคลากรผู้อุทิศตนต่อสู้กับโรคโควิด-19

กระทรวงสาธารณสุข และภาคเอกชน มอบกรมธรรม์ประกันชีวิต ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข จำนวน 400,000 คน และกองทุนสนับสนุนเยียวยาฯ แก่ อสม. จำนวนกว่า 1,040,000 คน เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคง และเสริมสร้างขวัญกำลังใจแก่เหล่านักรบเสื้อขาว และพี่น้อง อสม. ตอบแทนความทุ่มเท เสียสละ แรงกาย และแรงใจในการต่อสู่กับโรคโควิด-19

24 เมษายน 2563 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้แทนภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เข้าร่วมพิธีมอบกรมธรรม์ประกันชีวิตให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และกองทุนสนับสนุนและเยียยวยาฯ ให้แก่ อสม. โดยมีฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (COVID-19) ในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ รวมถึงการดำเนินชีวิตของประชาชนในทุกภาคส่วนต่างเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ด้วยการนำทัพในการแก้ไขปัญหาของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และการร่วมมืออย่างเข้มแข็งของกลุ่มประชารัฐ อันประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 จนผลงานเป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติ ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดจากความทุ่มเทและเสียสละของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และ อสม. ในครั้งนี้ สร้างความปลาบปลื้ม ประทับใจต่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้น เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และตอบแทนคุณงามความดีผู้ที่เป็นกำลังหลักในการรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่องและเข้มแข็ง กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) จึงได้จัดพิธีมอบกรมธรรม์ประกันชีวิตให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในวันนี้ขึ้น เพื่อมอบกรมธรรม์ประกันชีวิต ให้แก่ แพทย์ พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุขทั้งระบบ เป็นจำนวนกว่า 400,000 คน รวมทั้งสนับสนุนในส่วนของกองทุนสนับสนุนเยียวยาฯ ให้แก่ อสม. กว่า 1,040,000 คน โดยได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี เป็นผู้มอบกรมธรรม์ประกันชีวิต และกองทุนสนับสนุนเยียวยาฯ ให้เหล่านักรบเสื้อขาว และพี่น้อง อสม. “ความสำเร็จในการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ของประเทศไทยในวันนี้ เกิดขึ้นได้ด้วยการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่งต่างตระหนักถึงความสำคัญและร่วมแก้ไขปัญหากันอย่างเข้มแข็ง ผมขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน โดยเฉพาะทีมนักรบเสื้อขาว และ อสม.ที่ร่วมเสียสละ ทุ่มเท แรงกาย และแรงใจ เพื่อเป็นพลังในการต่อสู่กับโรคโควิด-19 มาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการระบาด ขอขอบคุณครับ” นายอนุทินกล่าว

— ข้อมูลไทยรัฐ และ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ —

เรื่องที่เกี่ยวข้อง