เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง 4 วัน 3 คืน (ตอนที่2)-วันแรกกับน้องมินนี่

เดินทางถึงสนามบินสิงคโปร์ Changi Airport ประมาณ 10.00 น. เราก็เดินเล่นถ่ายรูปมาเรื่อยๆ ในสนามบินสิงคโปร์ หาสัญญาณ wifi ฟรียาก หากจะใช้ต้องลงทะเบียนวุ่นวาย หรือเราใช้ไม่เป็น 5555 ซึ่งต่างจากฮ่องกงที่เปิด wifi ให้ใช้ฟรีในสนามบินแบบฟินๆ

หลังจากผ่านตรวจคนเข้าเมืองมาได้ เป้าหมายเราคือ Train to city ขึ้นรถไฟจาก เทมินอล 1 ไปเทมินอล 3

ออ ลืมแนะนำ นางเอก สาวน้อยหน้าหวานของทริปนี้ ชื่อ น้องมินนี่ อนุบาล 1 หนูเดินได้สบายๆ เมื่อยหนูก็นั่งรถเข็น หนูนำรถเข็นขึ้นเครื่องมาด้วยค่ะ โดยเข็นขึ้นเครื่องได้เลย เจ้าหน้าที่นำรถเข็นไปเก็บและส่งคืนให้ตอนลงเครื่อง

เก็บภาพมาฝากค่ะ ถ่ายที่สนามบิน หนูมินนี่ค่ะ ^_^

หาบูธที่ขาย Sim สิงคโปร์ก่อน หาซื้อได้ตามบูธแลกเปลี่ยนเงินในสนามบิน ซึ่งเราเลือกใช้ sim ค่ายสิงเทล เพราะคิดว่าน่าจะแรงกว่า โดยใช้ Sim 1 เลขหมาย ซึ่งทริปนี้เรามากัน 5 คน เด็ก 1 แต่ซื้อแค่ Sim เดียว และแชร์อินเตอร์เน็ตผ่านฮอตสปอตของโทรศัพท์ได้ใช้งานกันทั่วหน้า การลงทะเบียนเพียงจ่ายเงินและส่งพาสปอร์ตให้พี่เค้าไป พี่เค้าใจดีทำให้หมดครบ Thank you มากๆ ซึ่งเท่าที่สังเกต ในรถไฟฟ้า MRT จะใช้ Wifi free และพยายามอาศัยยืนหน้าร้านแบนด์เนม จะมี wifi free ไว้บริการให้ลูกค้าเพื่อใช้ส่งรูปสินค้าสำหรับเพื่อนๆและครอบครัวที่ฝากซื้อได้เห็นรูปกันก่อนตัดสินใจซื้อ

ซิมการ์ดนักท่องเที่ยว มีขนาดมาตราฐาน / ไมโคร / นาโน ในแพ็กเดียว
ใช้อินเทอร์เน็ตได้ 100 GB
การโทรภายในประเทศ: 500 นาที
ส่งข้อความในประเทศ: 100 ครั้ง
โทรระหว่างประเทศ: 20 นาที

ซิมการ์ดมีอายุ 7 วัน

หลังได้ SIM เรียบร้อย ก็เช็คอิน facebook กันไปเพลินๆ และ เดินเล่ยสนามบินมีมุมสวยให้ถ่ายรูปเยอะมาก จากนั้นก็แวะหาอะไรลองท้องกันก่อน ไม่เกรงใจก่อนเข้าร้านดูรายการอาหารและเมนูหน้าร้าน ร้านไหนแพงก็ผ่านไปก่อน ไปดูร้านใหม่ที่มีเมนูน่าสนใจ ส่วนใหญ่เป็นไก่ละครับ

สรุปมื้อนี้ยังคิดถึงเมืองไทย สิ่งที่เลือกลองท้องก่อนถึงที่พักคือ ผัดไทย กับ ไก่ชุปแป้งทอด และ ต้มยำ ซึ่งราคาจะแพงกว่าราคาบ้านเราประมาณ 4 เท่า ที่ราคาใกล้เค่ียงกันก็น่าจะเป็น MC ราคาแพงกว่าบ้านเรานิดหน่อย ส่วน สตาร์บั๊ค ต้องสั่งเก่งๆ มิเช่นนั้นจะได้อะไรมาก็ไม่รู้ 555 ด้วยราคาอาหารที่แพงกว่าบ้านเรา ดังนั้น ในกระเป๋าเดินทางแต่ละใบ จะมีทั้ง เป๊ปซี่ , นม, มาม่า, กาแฟ Gold และอื่นๆ ที่เป็นของชอบทานประจำๆ ลองคิดดูนะครับ เดินเหนื่อยมาถึงโรงแรมได้มาม่าร้อน+ เป๊ปซี่เย็นๆ มันซะใจมาก จริงหรือเปล่าไม่รู้จ้า ต้องลองดูกันเองนะ

ทานอาหารไทยลองท้องกันแล้ว เดินทางกันต่อ เราจะเดินทางกันด้วยรถไฟฟ้า ต้องไปหาซื้อบัตรโดยสารกันก่อน ที่สิงคโปร์เค้าจะเรียกว่าบัตร EZ-link ออฟฟิศขายบัตรอยู่ทางเข้าสถานี Mrt บัตรนี้สามารถใช้นั่งได้ทั้งรถไฟฟ้าและรถเมล์ ทริปนี้ เราซื้อบัตร EZ-link ในราคาใบละ 20 เหรียญ ใช้ได้ 3 วัน ไม่จำกัดเที่ยว (เป็นค่าประกันบัตร 5 เหรียญ ใช้ได้ 15

เหรียญ ส่งคืนบัตรได้เงินคืน 5 เหรียญ) แต่เนื่องจากเราอยู่สิงคโปร์ 4 วัน วันที่เหลือ 1 วัน ก็ใช้แบงก์หรือเหรียญหยอดตู้อัตโนมัติเป็นค่าโดยสาร

หลังจากได้บัตรมาแล้ว ไม่รอช้า ขึ้นรถที่ สถานี CG2 East West Line และลงต่อรถที่สถานี Tanah Merah EW4 นั่งต่อไปอีก 7 สถานี ลงที่สถานี Lavender เดินขึ้นมาถนน