สองสาวพี่น้องไฮโซซูเปอร์สเปรดเดอร์ของเวียดนาม
การส่องกล้องดู “หน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้า”
อภ. เริ่มทยอยส่งหน้ากากอนามัยเพิ่มให้กับบุคลากรในโรงพยาบาลแล้ว 4.1 แสนชิ้นต่อวัน
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
องค์การเภสัชกรรม เริ่มทยอยส่งหน้ากากอนามัยให้กับบุคลากรในโรงพยาบาลแล้ว หลังได้รับการจัดสรรเพิ่มเป็น 4.1 แสนชิ้นต่อวัน ยืนยันแอลกอฮอล์เจลผลิตและจัดหาได้ 4 แสนหลอดต่อเดือน พร้อมกระจายให้อย่างทั่วถึง
นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่องค์การเภสัชกรรมได้รับแจ้งจากกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563 ว่า ปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตหน้ากากอนามัยชนิด Surgical Mask ในประเทศ สามารถผลิตหน้ากากอนามัยได้วันละ 1.2 ล้านชิ้น/วัน โดยได้จัดสรรกระจายให้กับบุคลากรสาธารณสุขในสถานพยาบาลต่างๆ จำนวน 7 แสนชิ้น/วัน และจัดสรรให้กับกรมการค้าภายใน จำนวน 5 แสนชิ้นวัน เพื่อกระจายให้กับประชาชนและผู้ประกอบการภาคเอกชนต่าง ๆ โดยองค์การเภสัชกรรมได้รับการจัดสรรหน้ากากอนามัย จำนวน 410,700 ชิ้น/วัน สำหรับกระจายให้กับโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข คือ โรงพยาบาลประจำจังหวัด โรงพยาบาลอำเภอ 360,000 ชิ้น/วัน สถานพยาบาลในสังกัดของกรมการแพทย์ กรมอนามัย กรมสุขภาพจิต กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 20,700 ชิ้น/วัน และกระจายให้กับสถานพยาบาลนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 30,000 ชิ้น/วัน
ขณะนี้องค์การเภสัชกรรมได้เริ่มทยอยจัดส่งให้กับสถานพยาบาลต่าง ๆ อย่างเร่งด่วนแล้ว
ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมกล่าวต่อว่า การจำหน่ายหน้ากากอนามัยที่ร้านขายยาองค์การเภสัชกรรมทั้ง 8 ร้านนั้น ในช่วงนี้จะงดการจำหน่ายออกไปก่อน เพื่อลดความแออัดและเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการที่ประชาชนมาเข้าคิวรอซื้อจำนวนมาก และเพื่อเพิ่มสัดส่วนการกระจายหน้ากากอนามัยให้แก่กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นได้มีใช้อย่างเพียงพอ โดยกรมการค้าภายในจะเป็นผู้จำหน่ายให้กับประชาชนทางร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านธงฟ้า ห้างสรรพสินค้า
นอกจากนี้ องค์การเภสัชกรรมได้ปรับรูปแบบการจำหน่ายเป็นผ่านร้านค้าออนไลน์ที่ http://landing.gpoplanet.com
เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันพุธที่ 11 มีนาคม 2563 นี้เป็นต้นไป
ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้ที่
Facebook : GPO Planet
Line Official Account : @gpoplanet (พิมพ์ @ ในช่องค้นหาบัญชีทางการ) หรือคลิกที่ https://lin.ee/tYv512A
และเว็บไซต์ขององค์การเภสัชกรรม www.gpo.or.th
ในช่วงแรกนี้จะจำหน่ายเฉพาะแอลกอฮอล์เจลชนิดหลอดและขวดปั๊มแบบจำกัดจำนวนเท่านั้น
ส่วนด้านกำลังการผลิตแอลกอฮอล์เจลล้างมือนั้น ได้เพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าเดิม 2 เท่า โดยสามารถผลิตได้ถึงเดือนละ 2 แสนหลอด และบริษัทในเครือผลิตได้อีกเดือนละ 2 แสนหลอด รวมเป็น 4 แสนหลอดต่อเดือน และยังมีของบริษัทเอกชนรายอื่นๆ ที่ผลิตและจำหน่ายอีกหลายบริษัท ในส่วนขององค์การสุราสามารถผลิตแอลกอฮอล์ชนิดล้างแผลฆ่าเชื้อโรคได้วันละ 60 ตัน ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า แอลกอฮอล์เจลไม่ขาดแคลนแน่นอน นอกจากนั้นประชาชนยังสามารถใช้แอลกอฮอล์ชนิดล้างแผลฆ่าเชื้อโรคเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
“แอลกอฮอล์เจลล้างมือ องค์การฯ ขายอยู่ที่ราคาหลอด 24 บาท แต่พบถูกนำไปขายในราคา 50 บาท ซึ่งได้มีการแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีแล้ว แต่อีกประเด็นที่ควรระวังคือ เจลแอลกอฮอล์ล้างมืออาจเป็นของปลอม” ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมกล่าว
5 มีนาคม 2564
วิธีใส่หน้ากากอนามัย ควรใส่อย่างไร ใส่ตอนไหน ลองมาดูกัน..
คนที่มีสุขภาพแข็งแรงไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย เพราะมันยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ว่า การใส่หน้ากากจะปกป้องพวกเขา หากพวกเขาใส่ผิดวิธี – Eli Perencevich กล่าว
แต่ถ้าผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ ไม่สามารถหาหน้ากาก เพื่อดูแลคนป่วยได้ มันจะทำให้พวกเขา และสังคมของเราตกอยู่ในความเสี่ยง! – Jerome Adams กล่าว
หลายประเทศ รวมไปถึงประเทศไทย กำลังขาดแคลนหน้ากากอนามัย ในช่วงที่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาของคนทั่วไปเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านสุขภาพด้วย
.
เจอโรม อดัมส์ (Jerome Adams) นายแพทย์ใหญ่ทหารเรือของสหรัฐฯ ได้ทวีตข้อความ “ขอร้องให้คนหยุดซื้อหน้ากากอนามัย” โดยกล่าวว่า มันไม่มีประสิทธิภาพในการปกป้องสาธารณชนจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา แต่ถ้าผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ ไม่สามารถหาหน้ากาก เพื่อดูแลคนป่วยได้ มันจะทำให้พวกเขา และสังคมของเราตกอยู่ในความเสี่ยง!
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ไมเคิล เจ ไรอัน (Michael J. Ryan) ผู้อำนวยการแผนการด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่า มันมีความเครียดอย่างรุนแรงในเรื่องของอุปกรณ์ป้องกันที่เกิดขึ้นทั่วโลก และความกังวลหลัก คือ การทำให้แน่ใจว่า ผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพแนวหน้าได้รับการปกป้อง และมีอุปกรณ์ที่พวกเขาต้องการในการทำงาน
ด้าน เอลิ พีเรนเชวิช (Eli Perencevich) ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันโรคติดต่อ จากมหาวิทยาลัยไอโอวา เผยว่า คนที่มีสุขภาพแข็งแรงไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากาก เพราะมันยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ว่า การใส่หน้ากากจะปกป้องพวกเขา หากพวกเขาใส่ผิดวิธี อาจเสี่ยงติดเชื้อมากขึ้น เพราะว่า สัมผัสหน้าบ่อยขึ้น
สำหรับวิธีการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ อดัมส์ กล่าวว่า ทางที่ดีที่สุดในการปกป้องตัวเองและชุมชน คือ มาตรการป้องกันในชีวิตประจำวัน เช่น การอยู่ในบ้านเมื่อรู้สึกป่วย หรือการล้างมือด้วยสบู่หรือน้ำ เพื่อชะลอการแพร่กระจายของ โรคทางเดินหายใจ และเรียกร้องให้คนรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเมื่อมีผู้ป่วยโรคไช้หวัดใหญ่น้อยลง ก็จะมีทรัพยากรมากขึ้นในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนา
ส่วนไรอันกล่าวว่า หน้ากากมีหน้าที่หลักในการปกป้องคนจากการแพร่กระจายเชื้อไปยังอีกคนหนึ่ง สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ทุกคนสามารถทำได้ คือ ล้างมือ เก็บมือให้ห่างจากหน้า และทำการสังเกตสุขอนามัยอย่างแม่นยำ
หากยังต้องการที่จะใส่หน้ากากอนามัย ด้าน องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้คำแนะนำในการใช้หน้ากากอนามัยในการป้องกันเชิ้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ว่า ถ้าเป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ใช้เฉพาะตอนที่ดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส, ใช้เฉพาะตอนที่ไอหรือจาม, ต้องใช้ร่วมกับการล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และต้องเข้าใจวิธีการใส่หน้ากากและวิธีการทิ้งอย่างเหมาะสม
ส่วนด้านศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้ให้แนะนำการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสปอดอักเสบ เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด, หลีกเลี่ยงการจับตา จมูก และปาก, อยู่บ้านเมื่อป่วย, ปกปิดการไอหรือจามด้วยกระดาษทิชชู่ และทิ้งลงถังขยะ, ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อวัตถุหรือพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อยๆ โดยใช้ สเปรย์ทำความสะอาด หรือ การเช็ด เป็นต้น
หน้ากากอนามัย 2 ชิ้น 5 บาท ที่มินิบิ๊กซี
วิธีการทำหน้ากากอนามัยผ้าด้วยตนเอง
ขอบคุณ : โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร หนองจอก รร.ไม่ได้ทำขายนะ ไปฝึกได้ หากทำเยอะๆนำอุปกรณ์ไปด้วย
ใครจะทำเป็นอาชีพก็ได้ แต่อย่าฉวยโอกาสขายแพงนะ
ส่วนนี้คือตัวอย่างของการเอาเปรียบกัน ขายแพง ทั้งๆที่เป็นสินค้าควบคุม
กรมการค้าภายใน เตรียมประกาศค่าบริการตรวจโควิด–19 ของโรงพยาบาลแต่ ละแห่งขึ้นเว็บ www.dit.go.th ให้ประชาชนตรวจสอบก่อนใช้บริการ พร้อมเดินหน้าเร่งกระจายหน้ากากอนามัยให้กับเซเว่น-อีเลฟเว่น, มินิบิ๊กซี, โลตัส เอ็กซ์เพรส, ร้านธงฟ้า หวังให้ประชาชนซื้อได้ทั่วถึง จำกัดการซื้อคนละ 1 แพ็ก แพ็กละ 4 ชิ้น ราคา 10 บาท ดีเดย์ 28 ก.พ.นี้ นำค่าบริการทางการแพทย์ 304 รายการ ของ 356 โรงพยาบาลเอกชนขึ้นเว็บไซต์ หวังให้ชาวบ้านเช็กและเปรียบเทียบราคาก่อนใช้บริการ
กรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ประกอบการหน้ากากอนามัยรวม 9 บริษัท ภายหลังความต้องการหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นจากปัญหาไวรัสโคโรน่าและปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ว่า ปัจจุบันสต็อกและกำลังการผลิตขอผู้ประกอบการในขณะนี้สามารถให้บริการและจำหน่ายให้กับประชาชน หน่วยงานที่ต้องการใช้ได้เพียงพออย่างไม่ขาดแคลนไปจนถึง 4 เดือนนับจากนี้
ปริมาณสต็อกปัจจุบันอยู่ที่ 100 ล้านชิ้น ส่วนกำลังการผลิตของโรงงานที่ผลิตภายในประเทศไทยหลายโรงงานเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการเฉลี่ยอยู่ที่ 7-8 ล้านชิ้นต่อเดือน ดังนั้น เชื่อว่าหน้ากากอนามัยทุกชนิด ทุกระดับราคา สามารถผลิตออกมาสู่ตลาดเพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน
“และไม่จำเป็นที่จะต้องมีการกักตุนสินค้า และในวันพรุ่งนี้ (30 มกราคม 2563) กรมฯจะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าและปริมาณสินค้า เพื่อป้องกันปัญหาการกักตุนหรือฉวยโอกาสในการขึ้นราคา ทั้งนี้ หากพบเห็นว่ามีการขึ้นราคา กักตุน เอาเปรียบผู้บริโภค สามารถแจ้งมาที่กรมการค้าภายใน ซึ่งมีมาตรการดูแลและมีกฎหมายควบคุม ตาม ม. 29 ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โดยพบจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”
เรื่องของการนำเข้าหน้ากากอนามัย ปัจจุบันมีบริษัทไทยนำเข้าหน้ากากอนามัน 4-5 บริษัท โดยนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และมีจีนอยู่บ้าง โดยประเทศเหล่านี้ไม่ได้ส่งออกให้กับประเทศไทยประเทศเดียว แต่ส่งออกให้กับหลายประเทศที่มีความต้องการ และจากปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลต่อความต้องการเพิ่มสูงขึ้น การนำเข้าอาจจะไม่ได้รวดเร็วหรือจำนวนมาก แต่เชื่อว่าไม่กระทบต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ เพราะกำลังการผลิตภายในประเทศยังเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งปกติความต้องการใช้หน้าอนามันต่อเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 30 ล้านชิ้น แต่เมื่อเกิดภาวะผิดปกติปัญาหาฝุ่นควัน ไวรัสโคโรน่า ความต้องการเพิ่ม 40-50 ล้านชิ้นต่อเดือน
กระทรวงพาณิชย์ ฟ้อง LAZADA จำนวน 3 คดี
กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินคดีกับแพลตฟอร์มลาซาด้า ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มค้าออนไลน์ จำนวน 3 คดี เพราะกระทำความผิดตามกฎหมาย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้เคยเชิญมาหารือและขอความร่วมมือให้ช่วยสอดส่องดูแลผู้ค้าหน้ากากอนามัยไม่ให้มีการจำหน่ายสินค้าเกินราคา และได้แจ้งให้ทราบถึงข้อกฎหมายและโทษที่จะได้รับ หากปล่อยให้มีการกระทำผิดกฎหมายบนแพลตฟอร์ม
1.ร้านขายยาชื่อดีดี ฟาร์มา ที่ขายหน้ากากอนามัยในลาซาด้า มีของกลาง 28 กล่อง โดยขายกล่องละ 1,100 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 22 บาท และพบมีโค้ดลาซาด้าอยู่บนกล่องที่เตรียมส่งมอบ ซึ่งได้แจ้งความดำเนินคดีทั้งร้านขายยา และกรรมการผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยของลาซาด้า ในฐานะตัวการร่วมแล้ว โดยโทษขายเกินราคาควบคุม จำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และโทษค้ากำไรเกินควร จำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.ร้าน 928 Shop จำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคา 1,099 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 22 บาท มีหลักฐานเอกสารของลาซาด้าในการรับคำสั่งซื้อและส่งสินค้า โดยผู้ซื้อได้มีการรับสินค้าเรียบร้อยแล้วในวันที่ 10 มี.ค.2563 ซึ่งเท่าที่ติดตามพบว่าปิดร้านไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทั้งขายเกินราคาและค้ากำไรเกินควรกับร้าน 928 Shop และลาซาด้า
3.ร้าน Appliance & Safety (NK) ขายในราคากล่องละ 1,299 บาท หรือเฉลี่ยชิ้นละ 26 บาท ได้แจ้งข้อหาขายเกินราคาควบคุมและค้ากำไรเกินควรเช่นเดียวกัน
ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ในข้อหาขาย เกินราคาควบคุมจะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขายมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ในข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท และหากเป็นผู้นำเข้าหรือตัวแทนจำหน่ายก็ต้องแจ้งปริมาณการถือครองสินค้าต่อกรมการค้าภายใน หากฝ่าฝืนจะมีความผิดซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท ด้วย